กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN เสริมความแข็งแกร่งด้านบอร์ดบริษัทฯ ดึงผู้บริหาร 2 ท่านจาก Morgan Stanley เป็นกรรมการบริษัทฯ ร่วมกำหนดทิศทางการดำเนินงาน หวังแลกเปลี่ยนประสบการณ์พร้อมต่อยอดธุรกิจ ผลักดันเป้าหมายสู่การเป็น Global Company ภายใน 3 ปี
คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ออกหุ้นกู้แปลงสภาพให้แก่กองทุน North Haven Thai Private Equity ในกลุ่ม Morgan Stanley บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านบริการทางการเงินระดับโลก เพื่อเข้ามาร่วมลงทุนในบริษัทฯ นั้น ล่าสุดที่ประชุมผู้ถือหุ้น JKN ได้อนุมัติให้มีการเพิ่มจำนวนกรรมการบริษัท โดยแต่งตั้งผู้บริหารของกลุ่ม Morgan Stanley เข้ามาเป็นนั่งเป็นกรรมการบริษัทจำนวน 2 ท่าน ได้แก่ คุณยุทธพงศ์ มา และ คุณเอกภิสิทธ์ สุทธิกุลพานิช เพื่อร่วมกำหนดทิศทางการดำเนินงาน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจ ถือเป็นการต่อยอดขยายธุรกิจของ JKN ผ่านเครือข่ายของ Morgan Stanley ในภูมิภาคเอเชียเพิ่มเติม
คุณยุทธพงศ์ มา Managing Director บริษัท Morgan Stanley (Thailand) กล่าวว่า การเข้ามานั่งเป็นกรรมการบริษัท JKN ในครั้งนี้ เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในทิศทางการดำเนินธุรกิจของ JKN ที่เป็นผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในภูมิภาคนี้ที่มีความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้ชม รวมถึงประสบการณ์ของผู้บริหารที่เชี่ยวชาญในการทำตลาดคอนเทนต์ทั้งในและต่างประเทศช่วยผลักดันการเติบโตทางธุรกิจของ JKN ได้เป็นอย่างดี ทำให้กลุ่ม Morgan Stanley ตัดสินใจเข้ามาลงทุน และพร้อมนำจุดแข็งที่มีเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ JKN ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
คุณเอกภิสิทธ์ สุทธิกุลพานิช Executive Director บริษัท Morgan Stanley (Thailand) กล่าวว่า JKN มีโอกาสการเติบโตได้อีกมาก จากจุดแข็งด้านลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่นำมาจำหน่ายหลากหลายรายการครอบคลุมใน 8 กลุ่มคอนเทนต์ ทั้งสาระและบันเทิงครบทุกรูปแบบ ในลักษณะสิทธิ Output Deal จากเจ้าของสิทธิ์ ทำให้ JKN ได้สิทธิเลือกคอนเทนต์จากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อนเป็นบริษัทแรก และเป็นเจ้าของสิทธิ์คอนเทนต์จากแบรนด์ดังระดับโลกที่ครองใจผู้ชมได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังได้รับโอกาสทางธุรกิจจากช่องทางการรับชมที่เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น OTT ที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก รวมถึงการขยายตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศเพิ่มเติม ทำให้ JKN สามารถจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย