![ผลการแข่งขัน Le Mans 24 ชั่วโมง เสมือนจริง รุ่น GTE ปอร์เช่ คว้าชัยรุ่น GTE ศึกประลองความเร็วเสมือนจริง Le Mans 24 ชั่วโมง]()
กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--ปอร์เช่ ประเทศไทย
ทีมงานปอร์เช่ E
sports ซึ่งเพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่สามารถเอาชนะการแข่งขันแบบเสมือนจริงครั้งแรกของรายการ สุดคลาสสิค Le Mans 24 ชั่วโมง ภายใต้การคุม
พวงมาลัยของนักแข่งทีมโรงงาน Nick Tandy (สหราชอาณาจักร) และนักแข่งเยาวชน Porsche-Junior Ayhancan Gueven (
ตุรกี) เคียงข้างนักแข่ง e
sport มืออาชีพ Josh Rogers (
ออสเตรเลีย) และ Tommy ?stgaard (นอร์เวย์) รถแข่ง 911 RSR รุ่นปี 2017 เวอร์ชั่นดิจิทัล วิ่งผ่านธงตราหมากรุกเป็นคันแรกบนสนาม Circuit des 24 Heures ระยะทาง 13.626 กิโลเมตร หลังกรำศึกสุดทรหด ผ่านไปทั้งสิ้นรวม 339 รอบ ในรุ่น GTE พวกเขาขับรถเข้าเส้นชัยเมื่อการขับเคี่ยวระยะยาวราวกับไม่มีที่สิ้นสุดกินเวลา 2 รอบเข็มนาฬิกา โดยผู้ชนะทิ้งห่างจากอันดับ 2 ถึง 1 รอบสนามเต็มๆ ในความเป็นจริงเมื่อ 50 ปีก่อน เกียรติยศ ครั้งแรกของปอร์เช่จากการคว้าชัยบนสนามระดับตำนานแห่งนี้ เริ่มต้นด้วยความสำเร็จของ Hans Herrmann และ Richard Attwood ในวันที่ 14 มิถุนายน 1970 คู่หูนักแข่งชาวเยอรมัน และชาวอังกฤษ เอาชนะในรายการ Le Mans 24 ชั่วโมง ได้หลัง
พวงมาลัยรถแข่ง 917 KH ยิ่งไปกว่านั้นทั้งคู่ยังสามารถคว้าแชมป์รวมถึง 19 สนาม ตลอดฤดูกาลแข่งขันที่ยอดเยี่ยมเกินคำบรรยาย ปอร์เช่คือ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีสถิติการครองแชมป์ในรายการนี้ มากที่สุดจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ Le Mans 24 ชั่วโมงจึงจำเป็นต้องเลือนกำหนดการไปเป็นวันที่ 19 และ 20 เดือนกันยายน
ปอร์เช่ส่งรถเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันในรูปแบบดิจิทัลด้วยรถแข่ง 911 RSR เสมือนจริงเป็นจำนวน 4 คัน โดยในแต่ละคันจะได้รับการควบคุมโดยนักแข่งรถตัวจริงเสียงจริง 2 คน และนักแข่ง e
sports มืออาชีพสังกัดทีม Coanda Simracing อีก 2 คน ตั้งแต่ช่วงแรกของการแข่งขันเป็นรถหมายเลข 93 ทำได้ดีอย่างต่อเนื่องจนจบ หลังการออกตัวที่ยอดเยี่ยมของนักขับผู้เริ่มต้นด้วยรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 88 จากทีม Dempsey-Proton ในฐานะแชมป์ Le Mans ฤดูกาล 2015 Tandy ซึ่งขับต่อจาก ?stgaard ที่ทำผลงานได้ดีเยี่ยมตลอด 4 ชั่วโมง รถของทั้งคู่สามารถก้าวขึ้นมาในตำแหน่งผู้นำเช่นเดียวกับ Gueven และ Rogers ซึ่งยังคงรักษาอันดับ 1 เอาไว้ได้ แม้ต้องเข้าพิทถึง 2 ครั้ง จากปัญหาด้านเทคนิคจนส่งผลต่อระบบการชาร์จประมาณ 6:15 นาฬิกา ขณะพระอาทิตย์ กำลังสาดแสงยามเช้า Rogers นักแข่งวัย 20 ปี สามารถทำเวลาต่อรอบที่เร็วที่สุดในรุ่น GTE ได้ ด้วยสถิติ 3:48.203 นาที
ในส่วนของรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 92 เป็นอีก 1 คันที่มีลุ้นอันดับบนโพเดียมตลอดการแข่งขัน น่าเสียดายที่รถของ Matt Campbell (
ออสเตรเลีย) นักขับทีมเยาวชน Porsche-Junior Jaxon Evans (นิวซีแลนด์) Mack Bakkum (เนเธอร์แลนด์) และ Jeremy Bouteloup (ฝรั่งเศส) ต้องพบกับปัญหาการทำงานผิดพลาดของเซิร์ฟเวอร์ เป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมงก่อนสิ้นสุดการแข่งขันผลงานที่ทำได้เมื่อผ่านเส้นชัย คือการจบอันดับที่ 11 ในรุ่น GTE
รถแข่งอีกคันที่มีโอกาสจบอันดับ 1 ใน 3 คือรถหมายเลข 91 ซึ่งขับโดย 2 นักแข่งทีมจากทีม Porsche Formula E Andre Lotterer (เยอรมัน) และ Neel Jani (สวิสเซอร์แลนด์) พร้อมทั้งนักแข่ง e
sport ชาวอเมริกัน Mitchell de Jong และ Martti Pietilae จากฟินแลนด์ในระหว่างที่วิ่งอยู่ในกลุ่มผุ้นำ 4 คันแรกจนกระทั่งหนึ่งชั่วโมงก่อนสว่างเกิดปัญหากับเซิร์ฟเวอร์ ขึ้นขณะเปลี่ยนตัวนักขับจนทำให้สูญเสียเวลาไปทั้งที่กำลังมีลุ้นที่จะคว้าอันดับที่ 3 ของการแข่งขันตำแหน่งสุดท้ายของ พวกเขาหลังจบดิจิทัล Le Mans คืออันดับที่ 12
ความโชคร้ายยเป็นของทีมนักขับที่ประกอบด้วย Simona de Silvestro (สวิสเซอร์แลนด์) และ Patrick Pilet (ฝรั่งเศส) รวมทั้งนักแข่ง e
sport Martin Kroenke (เยอรมัน) และ David Williams (สหราชอาณาจักร) โดยเป็น De Silvestro ที่ประสบอุบัติเหตุหลังออกสตาร์ทเพียง 30 นาที และนั่นคือความยากลำบากที่จะกลับมาอยู่ในกลุ่มที่สามารถลุ้นผล การแข่งขันได้ซ้ำร้ายในช่วงกลางของการแข่งขัน Pilet ทำรถเสียหายจนกระทั่งต้องออกจากการแข่งขัน
นานาทรรศนะจากการแข่งขัน
Fritz Enzinger (รองประธานกรรมการ ผู้ดูแลส่วนงาน Porsche Motor
sport): “ในโลกเสมือนจริงของการแข่งขัน ความเร็วการเตรียมตัวอย่างพิถีพิถันและความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างไม่ลดละตลอดระยะเวลามากกว่า 24 ชั่วโมง คือส่วนสำคัญต่อผลงานอันยอดเยี่ยมที่เราได้รับ ผมขอแสดงความขอบคุณจากใจมายัง Marco Ujhasi นักขับ และทีมงานทั้งหมดของ Porsche E
sports”
Pascal Zurlinden (ผู้อำนวยการ Factory Motor
sport): “มันคือสุดสัปดาห์แห่งความฝันสำหรับปอร์เช่ – ยังจะมีอะไรที่ดีกว่านี้ หากเราจะเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ต่อชัยชนะครั้งแรกของปอร์เช่ Le Mans ด้วยแชมป์รุ่น GTE ที่ได้รับจากการแข่งขัน 24 ชั่วโมง แบบเสมือนจริง ขอแสดงความยินดีแก่บรรดานักแข่งทั้งหมด รวมทั้งทีมงานผู้ดูแลรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 93 โอกาสเดียวกันนี้ผมขอส่งมอบความรู้สึกขอบคุณไปยังทีมงาน Porsche E
sports ทุกท่าน การทำงานอย่างหนักในวันแข่งและตลอดสัปดาห์ได้รับผลตอบแทนที่งดงามอย่างยิ่ง นอกจากนี้ผมขอแสดงความยินดีกับ ACO และ WEC สำหรับการจัดกิจกรรมอันยอดเยี่ยมภายในระยะเวลาอันจำกัด เพียงไม่กี่สัปดาห์ แฟนๆ กีฬาความเร็วของเราคงไม่อาจคาดหวังว่าสิ่งนี้จะสามารถแทนที่การแข่งขันบนสนาม Le Mans จริงตามกำหนดการเดิมได้อย่างสมบูรณ์แต่กิจกรรมดังกล่าวมีส่วนช่วยให้เรากระตือรือร้นที่จะได้พบกับการแข่งขัน ที่เลื่อนไปในเดือนกันยายนนี้”
Marco Ujhasi (ผู้จัดการ E
sports Porsche Motor
sport) “ผมมีความภาคภูมิใจในชัยชนะที่ทีมงาน Porsche E
sports ของเราสามารถทำได้ในวันนี้สำหรับผมและอีกหลายๆ คน นี่คือเรื่องราวที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายปีก่อน: ในปี 2013 เราคว้าแชมป์ Le Mans ด้วยรถแข่ง 911 RSR พร้อมกับวาระครบรอบ 50 ปีของปอร์เช่ 911 ตามด้วยปี 2018 เป็นอีกครั้งของชัยชนะบนสนามแห่งนี้ที่เคียงข้างกับการเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ของบริษัทและในวันนี้คือช่วงเวลา ครบรอบ 50 ปี หลังจากการเอาชนะรายการ Le Mans ครั้งแรกของปอร์เช่ซึ่งเราก็สามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขัน เสมือนจริงในรุ่น GTE มาครอบครองได้สำเร็จเราไม่เพียงต้องขอบคุณนักขับทั้ง 4 คนบนรถแข่งหมายเลข 93 แต่ต้องรวมถึงทีมงานอันเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งกว่า 30 ชีวิตและแน่นอนว่าเราต้องไม่ลืมพันธมิตร ที่เหนียวแน่นของเรานั่นคือ Coanda Sim
sport และ Peter Dimov ผู้ก่อตั้งสถาบัน Virtual Racing School สำหรับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ขอบคุณทุกคนอีกครั้งตอนนี้ถึงเวลาฉลองกันบนโลกแห่งความจริงแล้ว”
Nick Tandy (รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 93) “ชัยชนะครั้งนี้ เปรียบได้กับสิ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ เราต้องเผชิญกับช่วงเวลาอันยากลำบากหลายเดือนก่อนหน้านี้ การหยุดพักระยะยาวโดยปราศจากการแข่งขันจริง ก่อให้เกิดความตึงเครียดแก่ทุกคนที่ Porsche Motor
sport เช่นเดียวกันกับผู้ชมและนักขับรถแข่งด้วยเหตุผลดังกล่าว การแข่งขัน Le Mans 24 ชั่วโมงเสมือนจริงคือการจุดประกายต่อลมหายใจให้กับวงการกีฬาความเร็ว ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ผมได้ก้าวขึ้นยืนบนโพเดียมในฐานะแชมป์ Le Mans และตอนนี้คือการเอาชนะ การแข่งแบบเสมือนจริงไม่มีอะไรที่ยอดเยี่ยมไปกว่านี้ได้อีกแล้ว!”
Ayhancan Gueven (รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 93) “การแข่งขันชั่วโมงสุดท้ายนั้น เป็นอะไรที่สร้างความกังวลได้อย่างมหาศาล ผมเกือบจะไม่กล้าลืมตามองแต่แล้วมันก็ผ่านไปด้วยดีสัมผัสแห่งชัยชนะ มันช่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะในยามที่เราเหน็ดเหนื่อยกันจนถึงขีดสุดตลอดหลายสัปดาห์ของการเตรียมตัว การทำงาน เป็นทีมอันสมบูรณ์แบบได้รับสิ่งตอบแทนที่คุ้มค่าและเราสมควรได้รับรางวัลนี้ รถแข่งรุ่น GTE ของเราวิ่งได้เร็วที่สุด ในสนาม ชัยชนะครั้งแรกของผมใน Le Mans เกิดขึ้นในโลกเสมือนจริงหวังว่าสักวันผมจะได้ลงแข่งในสนามจริง”
Joshua Rogers (รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 93) “ผมไม่รู้จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไร พวกเราทุ่มเททำงานเพื่อโครงการนี้ตลอด 2 – 3 สัปดาห์สุดท้ายมันคือ ความพยายามอย่างหนักของทีมงาน สุดสัปดาห์ ของพวกเราเริ่มต้นขึ้นอย่างสวยงามด้วยตำแหน่งโพล สิ่งนี้ช่วยให้เราไม่ต้องคำนึงถึงปัญหาในตอนออกสตาร์ทมากนัก และสามารถตั้งหน้าตั้งตาขับไปให้จบในแต่ละรอบสนาม นอกจากนี้เรายังสามารถหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดต่างๆ เมื่อต้องพบกับรถที่ช้ากว่ารวมทั้งรักษาตำแหน่งผู้นำของเราเอาไว้เท่าที่จะทำได้กลยุทธ์ในการแข่งขันของเรานั้นไร้ที่ติ
Tommy ?stgaard (รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 93) “นี่คือการแข่งขันที่เหลือเชื่อ สำหรับรถแข่งของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปโดยปราศจากความผิดพลาดตั้งแต่ต้นจนจบเราโชคไม่ดีที่เจอธงแดงถึง 2 ครั้งแต่เราเตรียม พร้อมรับ สถานการณ์ แบบนี้เอาไว้แล้วและยังคงรักษาสมาธิเอาไว้ได้ ทีมงานทุกคนทั้งของปอร์เช่ และ Coanda ล้วนสร้างผลงานที่เกิดจากความพยายามได้อย่างน่าอัศจรรย์ไม่แปลกใจที่เราจะสามารถผลักดันกันจนบรรลุเป้าหมาย ในท้ายที่สุดเราคือรถแข่งที่เร็วที่สุดและปราศจากข้อผิดพลาด นับเป็นอีกครั้งที่ปอร์เช่บันทึกประวัติศาสตร์ให้แก่วงการ มอเตอร์สปอร์ต ผมรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง กับการได้เป็นส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่”
Jaxon Evans (รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 92) “คือการแข่งขันที่สุดยอด ตั้งแต่การเตรียมตัวอย่างเข้มงวดตลอด 4 สัปดาห์จนถึงชั่วโมงสุดท้ายของการแข่งขันราวกับเป็นสิทธิพิเศษของผม ที่ได้ออกสตาร์ทด้วยรถแข่งหมายเลข 92 ของทีม Porsche E
sports เราทุกคนในทีมรู้ดีถึงศักยภาพด้านความเร็ว ที่สามารถนำพาเราไปยืนบนโพเดียมได้อย่างสง่าผ่าเผยเมื่อบ่ายวันอาทิตย์มาถึง แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเพียง 90 นาทีก่อนสิ้นสุดการแข่งขันเราต้องเผชิญกับปัญหาเครือข่ายล้มเหลวส่งผลให้เราหลุดจากตำแหน่งบนโพเดียมไปอย่าง น่าเสียดาย การเอาตัวรอดจากความสับสนวุ่นวายคือภารกิจที่ยากเย็นทุกอย่างล้วนถาโถมใส่เราอย่างไม่ขาดสายแต่เรา ก็กลับมาสู้ต่อได้ เสียงปรบมือชื่นชมกึกก้องที่ได้รับไม่เพียงแค่นักแข่งบนรถหมายเลข 92 เท่านั้นแต่มันมีไว้สำหรับทุกคน ที่อยู่เบื้องหลัง!”
Andre Lotterer (รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 91) “ผมรู้สึกตื่นเต้นเอามากๆ ที่ได้ร่วมลงแข่งในรายการ Le Mans 24 ชั่วโมงแบบเสมือนจริง นอกจากนี้ยังประทับใจกับความสมจริงสมจังของมันรวมทั้งทีมแข่ง Porsche E
sports ทีมใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นมืออาชีพผมได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายเกี่ยวกับโลกของ e
sports ถึงแม้ว่าผล การแข่งขันจะออกมาไม่ดีเท่าไหร่นัก เนื่องจากปัญหาเล็กน้อยที่เกิดจากการเชื่อมต่อสัญญาณ การได้ยืนบนโพเดียม คือสิ่งที่เราเกือบจะไขว่คว้าเอาไว้ได้ อย่างไรเสียการได้ขับรถแข่งนับเป็นเรื่องสนุกล้นเหลือต่อให้บางทีมันจะไม่ใช่เรื่องง่าย ผมคิดว่าเราจะทำได้ดีในครั้งต่อไป”
Simona de Silvestro (รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 94) “เราทุกคนต่างออกสตาร์ทได้ดี แต่เรื่องไม่คาดฝันกลับเกิดขึ้น อดีตแชมป์โลกรถแข่งฟอร์มูล่า 1 เบียดผมออกจากสนามหลังจากเริ่มต้นได้เพียง 30 นาที จำเป็นต้องซ่อมแซมรถที่เสียหายเพื่อให้กลับมาแข่งต่อได้ด้วยการโดนหักเวลาไป 90 วินาที ซ้ำเติมด้วยพายุ ลูกใหญ่ที่พัดโหมกระหน่ำโจมตีบ้านของผมในสวิสเซอร์แลนด์ตลอดทั้งคืนนั่นทำให้การเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต ของผมหายไปและผมต้องใช้เวลากว่า 5 นาทีในการกลับมายังเซิร์ฟเวอร์เราตามหลังคันอื่นค่อนข้างห่างเมื่อ Patrick หลุดลงไปในบ่อกรวดและไปไหนต่อไม่ได้โชคร้ายที่ไม่มีการจำลองวิธีการกู้รถคืนจากเหตุการณ์ลักษณะนี้ดังนั้น เราจึงต้องยุติการแข่งขันลงอย่างน่าอัปยศ”
ผลการแข่งขัน รุ่น LMP2:
Deletraz/Marciello/Wisniewski/Brzezinski (CH/I/POL/POL), Oreca 07 LMP2, 371 รอบDillmann/Guerrieri/Simoncic/Pedersen (F/ARG/SLO/DK), Oreca 07 LMP2, 371 รอบCanapino/Aitken/Arana/Romanidis (ARG/GB/E/GR), Oreca 07 MP2, 371 รอบ
ผลการแข่งขันรุ่น GTE:
1. Tandy/Gueven/Rogers/?stgaard (GB/TR/AUS/N), Porsche 911 RSR, 339 รอบ
2. Thiim/Westbrook/Soerensen/Biancolilla (DK/GB/DK/I), Aston Martin, 338 รอบ
3. Juncadella/Beche/Jajovski/Kappet (E/CH/NMK/EST), Corvette C7.R, 337 รอบ
5. Pera/Hartog/Francesconi/van Dooren (I/NL/I/NL), Porsche 911 RSR, 337 รอบ
9. Pereira/Olsen/Neuendorf/Siara (LUX/N/D/POL), Porsche 911 RSR, 335 รอบ
11. Evans/Campbell/Bakkum/Bouteloup (NZ/AUS/NL/F), Porsche 911 RSR, 333 รอบ
12. Lotterer/Jani/DeJong/Pietilae (D/CH/USA/FIN), Porsche 911 RSR, 333 รอบ
16. Hoerr/Kolkmann/Giusa/Mueller (D/D/D/D), Porsche 911 RSR, 325 รอบ
จบการแข่งขัน DNF Barker/Watson/Maguire/Masciulli (GB/GB/IRL/I), Porsche 911 RSR, 324 รอบ
ไม่จบการแข่งขัน DNF Pilet/de Silvestro/Kroenke/Williams (F/CH/D/GB), Porsche 911 RSR, 166 รอบ
ติดตามภาพประกอบเนื้อข่าวได้จาก Porsche Newsroom (http://newsroom.porsche.com) นำเสนอข่าวสาร ภาพถ่ายและวีดีโอส่งตรงจากขอบสนามทั่วทุกมุมโลกที่ Twitter channel @PorscheRaces
เกี่ยวกับ AAS Auto Service
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่าง เป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า “AAS The Name you can Trust” ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี