กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--มิกซ์ แอนด์ แมทซ์ คอมมิวนิเคชั่นส์
ออนโรบอต (OnRobot) ผู้ผลิตอุปกรณ์ปลายแขนหุ่นยนต์พร้อมใช้งานเพื่อการทำงานร่วมกับมนุษย์แบบครบวงจรระดับโลก ประกาศเปิดตัว 2 อุปกรณ์ใหม่ล่าสุด Eyes อุปกรณ์มองภาพระบบ 2.5D Vision System และ Screwdriver ไขควงอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่ช่วยให้ผู้ผลิตอุตสาหกรรมสามารถตั้งระบบการประกอบชิ้นส่วนแบบอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดาย และมีความยืดหยุ่นในการทำงานสูง
อุปกรณ์ Eyes และ Screwdriver ใช้งานร่วมกับ One System Solution ระบบการทำงานเจ้าของรางวัลจากออนโรบอตซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีอินเตอร์เฟซทั้งแบบกลไกและแบบไฟฟ้าในหนึ่งเดียว เพื่อใช้เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์แขนหุ่นยนต์ชั้นนำและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของออนโรบอต
อุปกรณ์ Eyes ของออนโรบอต
Eyes แตกต่างจากระบบการมองภาพอื่น ๆ ที่มีในตลาด เพราะ Eyes ใช้การถ่ายภาพเพียงภาพเดียวในการปรับมาตรฐานเครื่อง (Calibration) และการจดจำชิ้นส่วน พร้อมฟังก์ชั่นการปรับโฟกัสอัตโนมัติในแอปพลิเคชั่นสำหรับการทำงานในระยะที่แตกต่างกัน
Eyes จึงเหมาะอย่างยิ่งในการทำงานที่ต้องจำแนกวัตถุที่มีความหลากหลาย หรือใช้กับเครื่อง CNC (Computer Numerical Control) ในการบิดงอชิ้นส่วนโลหะที่กำหนดรูปทรงด้านนอก รวมถึงงานจับวางอื่น ๆ ที่ให้ความสำคัญกับการกำหนดทิศทางที่แม่นยำ อุปกรณ์ Eyes ยังมีประสิทธิภาพการรับรู้ระยะลึกจากระบบ 2.5D vision ที่สามารถใช้งานได้ง่ายและนำเสนอในระดับราคาที่เข้าถึงได้
“ระบบ 2.5D vision ถือเป็นเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบสำหรับการทำงานที่ต้องอาศัยการมองภาพ” เอนริโก คร็อก ไอเวอร์เซน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร ออนโรบอต กล่าว “เมื่อเปรียบเทียบการทำงานแล้ว ระบบ 2.5D vision ไม่เพียงเพิ่มระยะความยาวและความกว้างเท่านั้น หากยังกำหนดข้อมูลความสูงของชิ้นส่วนแต่ละชิ้นได้ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับวัตถุที่มีความสูงหลากหลายหรือวัตถุนั้นมีการซ้อนชั้นกัน”
อุปกรณ์ Eyes สามารถติดตั้งได้ทั้งบริเวณข้อมือหุ่นยนต์หรือติดตั้งภายนอก
ดาวน์โหลดรูปภาพและวิดีโอได้ ที่นี่
อุปกรณ์ Screwdriver ของออนโรบอต
Screwdriver มอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ผลิตที่ต้องการเปลี่ยนขั้นตอนการทำงานด้วยไขควงที่ต้องทำซ้ำ ๆ ในท่วงท่าที่ไม่เหมาะสมกับมนุษย์และมีรูปแบบที่ไม่แน่นอนให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติ
ด้วยความสามารถในการควบคุมแรงบิดและแกนที่แม่นยำ อุปกรณ์ Screwdriver ของออนโรบอตจะคำนวณความเร็วและแรงกระทำที่จำเป็นในการหมุนไขควงอย่างเที่ยงตรงและสม่ำเสมอโดยอัตโนมัติ โดยสามารถตรวจจับความยาวของเกลียวหมุนที่ผิดปกติ ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพชิ้นงานและลดจำนวนเศษวัสดุในภาพรวม ด้วย “z-axis” ระบบแกนอันโดดเด่นของ Screwdriver เกลียวหมุนจะถูกหมุนเข้าสู่ภายในเครื่องมือและขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติเมื่อแขนหุ่นยนต์เคลื่อนเข้าสู่ตำแหน่ง จึงช่วยลดการเคลื่อนไหวของแขนหุ่นยนต์และลดภาระในการตั้งโปรแกรมที่ซับซ้อน เกลียวหมุนที่ยาวถึง 35 มม. จะหมุนเข้าไปอยู่ใน Screwdriver ทั้งหมดในขณะเคลื่อนไหวจนกว่าขั้นตอนการหมุนจะเริ่มต้นขึ้นอย่างรัดกุม จึงเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ
อุปกรณ์ Screwdriver สามารถรับมือกับเกลียวหมุนในหลากหลายขนาดและความยาว ตั้งแต่ขนาด M1.6 ถึง M6 และยาวสูงสุดถึง 50 มม. ด้วยการตั้งโปรแกรมที่เรียบง่ายและระบบการสับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่สะดวกรวดเร็ว ทำให้ Screwdriver สามารถเปลี่ยนเกลียวหมุนได้หลากหลายขนาดและความยาว ติดตั้งกับกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ภายในไม่กี่นาที ซึ่งช่วยลดระยะเวลาหยุดชะงักของการผลิตและเพิ่มกำลังการผลิตได้อย่างดีเยี่ยม
“นี่คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ล้ำหน้าที่สุดของเราในปัจจุบัน” เอนริโก กล่าว “เราได้ออกแบบเครื่องมือไขควงอัตโนมัติเพื่อช่วยให้ขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ มีความเรียบง่ายสำหรับผู้ใช้งาน เพิ่มความคุ้มค่าและทำให้ผู้ผลิตอุตสาหกรรมสามารถมองเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยช่วงเวลาทำงาน ผลงาน ความแม่นยำ และคุณภาพของชิ้นงานที่เพิ่มมากขึ้น”
อุปกรณ์ Screwdriver มอบฟีเจอร์การทำงานาและคุณสมบัติดังนี้
- มีระบบแกนในตัวเพื่อการตั้งโปรแกรมได้อย่างแม่นยำและง่ายดาย
- ควบคุมแรงบิดได้อย่างเที่ยงตรงตั้งแต่ 0.15Nm ถึง 5Nm
- รองรับเกลียวหมุนหลากหลายขนาด ตั้งแต่ขนาด M1.6 ถึง M6 และยาวสูงสุดถึง 50 มม.
- มีเครื่องลำเลียงแบบสกรู (Screw feeders)
- ปลอดภัยจากไฟฟ้าสถิตสำหรับการประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
- ติดตั้งดวยอุปกรณ์ OnRobot Quick Changer
ดาวน์โหลดรูปภาพ วิดีโอ อินโฟกราฟิก และข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้ ที่นี่
อุปสงค์ในเอเชียที่เพิ่มสูงขึ้น
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้สร้างความบอบช้ำแก่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทย โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหรือ Manufacturing Production Index (MPI) ในเดือนเมษายนอยู่ที่ 79.04 ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2011
ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจจำนวนมากจึงเร่งรัดนำระบบอัตโนมัติมาใช้งาน โดยสหพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ (International Federation of Robotics) รายงานว่า ต้นทุนของหุ่นยนต์กำลังลดลงและจะลดลงต่อไป ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น ฝ่ายสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) คาดการณ์ว่าระบบอัตโนมัติจะมีสร้างงานถึง 6.1 ล้านตำแหน่งทั่วโลกในระหว่างปี 2020 ถึง 2022
เมื่อพิจารณาตามแนวโน้มดังกล่าว จึงเป็นที่คาดการณ์ว่าตลาดระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia Industrial Automation & Process Control Market) จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 7.8% นับตั้งแต่ปี 2019 ถึง 2025 และมีมูลค่าถึง4.97 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2025