กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น
TPS จรดปากกาจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ “ซูเพิร์บ คอมพ์” เรียบร้อยแล้ว เสริมศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมลุยประมูลงานขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐ-เอกชน บิ๊กบอส “บุญสม กิจเกษตรสถาพร” มั่นใจธุรกิจไอทีโตต่อเนื่อง แม้อยู่ในช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แต่ไม่กระทบต่อธุรกิจมากนัก อานิสงส์ผู้ประกอบการเอกชนแห่ปรับกลยุทธ์ธุรกิจรับกระแส New Normal โชว์ Backlog แน่น 624 ลบ.
นายบุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (TPS) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (MOU) กับบริษัท ซูเพิร์บ คอมพ์ จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท ซึ่ง TPS ถือหุ้นในสัดส่วน 50% สำหรับการร่วมลงนาม MOU ในครั้งนี้ เพื่อเข้าร่วมประมูลในโครงการขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งของภาครัฐและเอกชน
“จุดมุ่งหมายของการร่วมทุน คือ การเพิ่มโอกาสในการเข้าประมูลงานใหม่ๆ งานที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น เป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับบริษัทในการแข่งขัน รวมถึงสามารถขยายฐานลูกค้าของบริษัทได้อีกด้วย”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TPS กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินงานช่วงที่เหลือของปี 2563 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ ทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานของภาครัฐซึ่งยังมีโปรเจคใหญ่ๆ อยู่ และมีการเข้าร่วมประมูลงานกับพันธมิตรด้วย นอกจากนี้ ยังมีการปรับกลยุทธ์ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง เพื่อช่วยรักษาระดับผลประกอบการของบริษัทฯ ซึ่งที่ผ่านมา แม้จะอยู่ในช่วงของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทฯ ยังสามารถรับงานด้านการจำหน่ายและวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งงานด้านบริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขายได้ และมั่นใจว่า ภายหลังที่สถานการณ์คลี่คลายมากขึ้น ธุรกิจต่างๆ ก็จะกลับมาทำงานได้ตามปกติ ประกอบกับองค์กรต่างๆ มีการปรับตัวในการทำงาน ผ่านระบบ Video Conference พร้อมทั้งมีการติดตั้งและปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้ทันสมัยมากขึ้น
“เรามองว่า ธุรกิจ IT ยังมีการเติบโตที่ดี เนื่องจากปัจจุบัน หลายๆ องค์กรมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีให้ทันสมัยมากขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในการทำงานของยุค New Normal และมั่นใจว่า ธุรกิจของบริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะ TPS ยังมี Backlog อยู่ในมือ 624 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปี 2563 เกือบทั้งหมด โดยจะช่วยหนุนรายได้ในปีนี้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯ คาดการณ์สัดส่วนรายได้จากภาครัฐ 40% ภาคเอกชน 60%” นายบุญสม กล่าวในที่สุด