กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่มียอดนักศึกษาปีที่ 1 ตกลงอย่างน่าใจหาย แต่ด้วยชื่อเสียงและมาตรการดำเนินการต่างๆมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทายังได้รับการยอมรับจากนักเรียนไม่ต่างจากปีที่แล้ว
รองศาสตราจารย์ ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เปิดเผยว่า แผนรับนักศึกษา ภาคปกติ ปีการศึกษา 2563 มีจำนวน 7,125 คน TCAS รอบ 1 การรับด้วย Portfolio มีนักศึกษามอบตัวจำนวน 3,561 คน TCAS รอบ 2 โควตา มีนักศึกษามอบตัวจำนวน 556 คน TCAS รอบ 3 การรับตรงร่วมกัน มีนักศึกษามอบตัว จำนวน 796 คน TCAS รอบ 4 Admission และ รอบ 5 รับตรงอิสระ มีนักศึกษามอบตัว จำนวน 953 คน นอกจากนี้ยังมีนักศึกษาที่ศูนย์การศึกษาจังหวัดนครปฐม และจังหวัดอุดรธานี รอมอบตัวในรอบที่ 5 อีก 260 คน รวมเป็นนักศึกษาขั้นปีที่ 1 ในปีนี้ 6,704 คน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 421 คน แต่หากเปรียบเทียบกับปีที่แล้วซึ่งไม่มีสถานการณ์โควิด-19 มีนักศึกษามอบตัว 6,751 คน
รองศาสตราจารย์ ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ รักษาการราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ชี้แจงว่า มหาวิทยาลัยมีนโยบาย “ปิด ปรับ เปิด” กล่าวคือหลักสูตรใดที่ไม่มีผู้สนใจเรียน และตลาดแรงงานไม่ต้องการเราจะปิด แต่หากหลักสูตรใดยังพอไปได้เราต้องปรับให้ทันสมัยและตอบสนองต่อความต้องการของสังคม ในขณะเดียวกันก็ต้องสำรวจ วิจัยทิศทางนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ การเปลี่ยนแปลงของโลก ความต้องการของภาครัฐและเอกชนเพื่อจะได้เปิดหลักสูตรให้ทันสมัยสอดรับกับทิศทาง การเปลี่ยนแปลง และความต้องการดังกล่าว ปัจจุบันหลักสูตรใหม่ที่เราเปิด ได้แก่ โลจิสติกส์และซัพพลายเชน, นวัตกรรมการจัดการค้าปลีก, e-commerch, e-sport, การบริหารงานตำรวจ, กัญชาเวชศาตร์ เป็นต้น
รองศาสตราจารย์ ดร.สมเดช รุ่งศรีสวัสดิ์ รักษาราชการแทนรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ กล่าวเพิ่มเติมว่านอกจากนโยบาย “ปิด ปรับ เปิด” ที่สวนสุนันทาดำเนินการแล้ว ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทายังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักเรียนเลือกเรียนกับเรา จากการสอบถามนักเรียนที่มามอบตัวในช่วงวันที่ 25-27 มิถุนายน ส่วนใหญ่จะตอบว่าเพราะเราเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏอันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งจากการจัดอันดับของ World University Ranking โดย Webometric ของประเทศสเปน ตลอดต่อเนื่องมา 6 ปี 12 รอบ (1 ปี จัดอันดับ 2 รอบ) ที่เราถูกประเมินมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาครองแชมป์ราชภัฏอันดับ 1 ของประเทศ และขยับอันดับขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนที่เก่าแก่ การประเมินครั้งล่าสุดที่ผ่านมาอยู่อันดับที่ 18 ของประเทศ จากมหาวิทยาลัยในประเทศไทยทั้งหมดกว่า 200 แห่ง และกลางปีนี้ในต้นเดือนกรกฎาคมที่จะถึง จะเป็นการจัดอันดับรอบที่ 13 ของมหาวิทยาลัย เชื่อมั่นว่าสวนสุนันทาจะครองความเป็นแชมป์ได้อีกครั้ง