กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ มองว่าฐานะเงินกองทุนของบริษัทประกันชีวิตไทยอาจปรับตัวอ่อนลงในช่วงระยะเวลา 12 – 18 เดือนข้างหน้าเนื่องจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสและผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ โดยบริษัทประกันชีวิตภายในประเทศอาจรับรู้ผลขาดทุนจากการปรับลดลงของมูลค่าตลาดของสินทรัพย์ลงทุนรวมถึงผลตอบแทนจากการลงทุน (investment yield) ที่อาจลดลงต่อไปได้อีก นอกจากนี้การปรับตัวลดลงอย่างมากของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในช่วงระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาสะท้อนถึงความเสี่ยงเชิงลบต่อพอร์ตการลงทุนและโครงสร้างเครดิตของบริษัทประกันภัยที่สูงขึ้นในช่วงภาวะที่ไม่ปกติ
ฟิทช์คาดว่าเบี้ยประกันชีวิตน่าจะมีอัตราการเติบโตที่ต่ำในปี 2563 ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของสมาคมประกันชีวิตไทย แม้ว่าความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพจะยังคงเพิ่มขึ้นและช่วยสนับสนุนอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันของอุตสาหกรรมได้ แต่น่าจะไม่สามารถชดเชยการลดลงของเบี้ยประกันรับใหม่ของผลิตภัณฑ์เดิม เช่น ประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์ ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ความผันผวนของตลาดการเงินก็อาจส่งผลให้ความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนชะลอตัวลงได้เช่นกัน
ฟิทช์มองว่าบริษัทประกันชีวิตไทยจะยังคงบริหารสินทรัพย์ลงทุนด้วยความระมัดระวังโดยสะท้อนได้จากสินทรัพย์ลงทุนส่วนใหญ่ที่ยังคงเป็นพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนที่มีคุณภาพสูง นอกจากนี้ระดับของเงินกองทุนของอุตสาหกรรมยังอยู่ในระดับที่แข็งแรง โดยมีระดับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเฉลี่ยที่ 361% ในปี 2562 ซึ่งอยู่สูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องสำรองขั้นต่ำที่ 140% ค่อนข้างมาก และจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากผลการดำเนินงานที่ชะลอตัวและค่าสินไหมทดแทนที่อาจปรับตัวขึ้นในอนาคต
รายงานของฟิทช์หัวข้อ “Thai Life Insurance Market Dashboard 2020“ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com