กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. หารือสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนให้ธุรกิจเอสเอ็มอี (SME) ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุน พร้อมรับฟังปัญหาและข้อจำกัดเพื่อลดอุปสรรค รวมถึงเพิ่มทางเลือกในการระดมทุนให้มีประสิทธิภาพด้วยต้นทุนที่เหมาะสม นำไปลงทุนขยายธุรกิจและมีเงินทุนสำรองหมุนเวียนสำหรับใช้ในกิจการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563 ก.ล.ต. ได้ประชุมร่วมกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ประกอบด้วย นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ ประธานสมาพันธ์ฯ และคณะกรรมการ เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุน รวมถึงความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ การจัดสัมมนาหรือกิจกรรมเพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการระดมทุน แก่เอสเอ็มอีทราบ รวมทั้งวิธีการและกระบวนการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การระดมทุนของเอสเอ็มอีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรง ตามความต้องการ ทั้งนี้ ทั้งสองหน่วยงานมีความเห็นร่วมกันด้วยว่า การใช้ประโยชน์จากตลาดทุนเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับเอสเอ็มอีในการเข้าถึงแหล่งทุน
“ที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 ก.ล.ต. มีแนวคิดและริเริ่มให้การส่งเสริมและสนับสนุนให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุนได้ โดยการระดมทุนของเอสเอ็มอีต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการของกิจการ รวมถึงมีต้นทุนที่เหมาะสมกับขนาดธุรกิจ ขณะที่ยังคงอยู่ภายใต้หลักการคุ้มครองผู้ลงทุนที่เหมาะสม ก.ล.ต. จึงร่วมมือกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยในการช่วยเหลือและสนับสนุนด้านต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ตลาดทุนเป็นของกิจการทุกประเภท และเอสเอ็มอีก็สามารถใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้เหมือนกิจการขนาดใหญ่ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันอีกด้วย” นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว
ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ออกหลักเกณฑ์รองรับการระดมทุนจากบุคคลในวงแคบ (Private Placement: PP) ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ซึ่งการระดมทุนแบบ PP จะทำให้เอสเอ็มอีสามารถระดมทุนจากผู้ลงทุนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและมีต้นทุนที่เหมาะสม โดยไม่ต้องยื่นแบบไฟลิ่งและขออนุญาตจาก ก.ล.ต. อีกทั้งยังได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การระดมทุนแบบ Crowdfunding เพื่ออำนวยความสะดวกและสามารถระดมทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพตามความต้องการมากขึ้น
ซึ่งปัจจุบันมีเอสเอ็มอีที่สามารถระดมทุนผ่านช่องทาง Crowdfunding แล้วจำนวน 8 ราย มูลค่ารวมประมาณ 49 ล้านบาท นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังอยู่ระหว่างพิจารณาออกหลักเกณฑ์รองรับการระดมทุนในวงกว้าง (PO) ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เอสมเอ็มอีระดมทุนได้จากผู้ลงทุนในวงกว้างและนำกิจการเข้าจดทะเบียนในตลาดรองได้เหมือนกิจการขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปในภายในไตรมาส 3 ของปี 2563 นี้