![2 ตั๊กแตนประสานเสียงไม่เสี่ยงเข้าไทย ตอกย้ำสภาพอากาศไม่เข้ากับไลฟ์สไตล์]()
กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--
กรมวิชาการเกษตร
กรมวิชาการเกษตร ย้ำนักเปิบแมลงไม่ต้องรอ 2
ตั๊กแตนคอนเฟิร์มไม่เข้าไทย เคลียร์พบระบาดใน
ลาวเป็น
ตั๊กแตนไผ่พลิกไทม์ไลน์ 4 ปีวนเวียนระบาดพื้นที่เดิม ส่วน
ตั๊กแตนทะเลทรายพบระบาดล่าสุดใน
อินเดีย ยันสภาพอากาศเมืองไทยไม่เป็นใจให้ 2
ตั๊กแตนตั้งรกรากและขยายเผ่าพันธุ์
นางสาว
เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดี
กรมวิชาการเกษตร ชี้แจงกรณีมีข่าวฝูง
ตั๊กแตนระบาดในพื้นที่ทางตอนเหนือของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน
ลาว (สปป.
ลาว) อยู่ในขณะนี้ว่า สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช
กรมวิชาการเกษตร ได้ตรวจสอบแล้วพบเป็น
ตั๊กแตนไผ่ที่มีรายงานการระบาดอยู่ที่สปป.
ลาว มาตั้งแต่ปี 2559 แล้ว ซึ่งในช่วงที่พบการระบาดของ
ตั๊กแตนไผ่
กรมวิชาการเกษตรได้ส่งนักวิจัยเข้าไปติดตามสถานการณ์การระบาดของ
ตั๊กแตนไผ่ใน สปป.
ลาวอย่างใกล้ชิด จนถึงปัจจุบันพบว่า
ตั๊กแตนไผ่ยังคงระบาดวนเวียนอยู่ในพื้นที่เดิมของสปป.
ลาวตอนเหนือ ซึ่งมีสภาพเป็นภูขาและป่าไผ่ มีสภาพอากาศหนาวเย็น และฝูง
ตั๊กแตนบางส่วนระบาดเข้าไปทางตอนเหนือของเวียดนาม จึงขอยืนยันว่าเป็น
ตั๊กแตนคนละชนิดกับ
ตั๊กแตนทะเลทรายที่พบการระบาดใน
อินเดียและแอฟริกาตามที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้
ตั๊กแตนไผ่ชอบอากาศค่อนข้างเย็นและมีต้นไผ่ในธรรมชาติจำนวนมาก ในขณะที่ประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนชื้นไม่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตของแมลงชนิดนี้ ดังนั้นจึงมีโอกาสน้อยมากที่จะเข้ามาระบาดในประเทศไทย นอกจากพืชกลุ่มไผ่แล้วแมลงชนิดนี้ยังเป็นศัตรูพืชที่สำคัญของพืชในตระกูลหญ้า และยังพบว่าสามารถเข้าทำลายพืชตระกูลปาล์มและพืชล้มลุกบางชนิด ดังนั้น
กรมวิชาการเกษตรจึงได้ดำเนินการสำรวจและเฝ้าระวังมาอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการเข้ามาระบาดในประเทศไทย โดยใช้กับดักเหยื่อพิษวางตามแนวชายแดนในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง พร้อมกับตรวจกับดักทุก 3 วันและ 7 วัน ตรวจเช็คชนิดของ
ตั๊กแตนที่ตายบริเวณกับดักโดยเปรียบเทียบกับรูปภาพ
ตั๊กแตนไผ่ ในกรณีที่พบมีลักษณะใกล้เคียงตามภาพตัวอย่างให้เก็บตัว
ตั๊กแตนนำส่งที่สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืชเพื่อนำมาจำแนกชนิดว่าเป็น
ตั๊กแตนไผ่หรือไม่ โดยได้ดำเนินการเฝ้าระวังตามวิธีการดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบันยังไม่พบ
ตั๊กแตนไผ่เข้ามาระบาดในประเทศไทย
การป้องกันกำจัด
ตั๊กแตนไผ่ในกรณีพบในเขตประเทศไทย ให้ทำการป้องกันกำจัดโดยใช้สารฆ่าแมลงชนิดใดชนิดหนึ่ง ดังนี้ อีโทเฟนพรอกซ์ 20% EC อัตรา 40 มล./น้ำ 20 ลิตร หรือเดลทาเมทริน 3% EC อัตรา 20 มล./น้ำ 20 ลิตร หรือแลมป์ดาไซฮาโลทริน 2.5% EC อัตรา 20 มล./น้ำ 20 ลิตร การป้องกันกำจัดโดยนำมาบริโภคไม่เป็นที่นิยมเนื่องจาก
ตั๊กแตนไผ่ลำตัวมีความแข็ง รสชาติขม และมีกลิ่นเหม็น
อธิบดี
กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ส่วน
ตั๊กแตนอีกชนิดหนึ่งพบระบาดอยู่ที่
อินเดียและเริ่มเข้าไปในเนปาลและตอนใต้ของจีนในขณะนี้เป็น "
ตั๊กแตนทะเลทราย" เป็นการระบาดต่อเนื่องมาจากทวีปแอฟริกา ก่อนระบาดเข้ามาทางประเทศแถบตะวันออกกลาง และ
อินเดีย เป็น
ตั๊กแตนที่อพยพเป็นกลุ่มใหญ่ สามารถเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว กินพืชได้หลายชนิดและกินได้ทุกส่วนของพืช เช่น ข้าว ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ข้าวบาเล่ย์ อ้อย ไม้ผล และพืชผัก หากมีการระบาดจะเกิดความเสียหายรุนแรง รวดเร็วและเป็นบริเวณกว้าง โดยสถานการณ์ล่าสุด FAO รายงานว่า
ตั๊กแตนทะเลทรายแพร่ระบาดในรัฐราชสถานซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ
อินเดีย ซึ่งได้มีการพยากรณ์ว่า
ตั๊กแตนที่ระบาดในภาคเหนือมีแนวโน้มระบาดในเขตภาคตะวันออกและตะวันตกของประเทศ
อินเดียในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนที่จะกลับไปวางไข่ในรัฐราชสถานช่วงเริ่มเข้าฤดูมรสุม โดยการระบาดในขณะนี้เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการขยายพันธุ์
“
ตั๊กแตนที่พบการระบาดอยู่ในขณะนี้ที่สปป.
ลาว และ
อินเดียเป็น
ตั๊กแตนต่างชนิดกัน ยืนยันว่าจะไม่เข้ามาระบาดในประเทศไทย เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของประเทศไม่เหมาะสมกับการตั้งรกรากและขยายเผ่าพันธุ์ของ
ตั๊กแตนทั้ง 2 ชนิดนี้ อย่างไรก็ตาม
กรมวิชาการเกษตรได้ทำแผนเชิงรุกเฝ้าระวังการระบาดของ
ตั๊กแตนทั้ง 2 ชนิดนี้ไว้พร้อมแล้ว รวมทั้งยังคอยติดตามสถานการณ์การระบาดอยู่อย่างใกล้ชิด หากมีความความคืบหน้า
กรมวิชาการเกษตรจะแจ้งให้ทราบต่อไป” อธิบดี
กรมวิชาการเกษตร กล่าว
![]()