กรุงเทพฯ--7 ก.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
บลจ. พรินซิเพิล ชี้เทรนด์ธุรกิจด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีการศึกษา (EdTech) มาแรง หลังจากการศึกษาเปลี่ยนแปลงจากในห้องเรียน สู่การเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึง COVID-19 เป็นตัวเร่งให้เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อการศึกษา รุกเปิดตัวกองทุนเปิด 'พรินซิเพิล โกลบอล เอ็ดดูเคชั่น เทค’ (PRINCIPAL GEDTECH) เสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกวันที่ 7-15 กรกฎาคมนี้ เพื่อเข้าลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ Credit Suisse (Lux) Edutainment Equity Fund ชนิดหน่วยลงทุน (Share Class) IBP USD เพียงกองทุนเดียว ชูกลยุทธ์เลือกหุ้นคุณภาพพื้นฐานดี ภายใต้ 3 ธีมหลักคือ อินโนเวชั่นเซอร์วิส ดิจิทัลคอนเทนต์และซิสเต็มแอนด์ทูลส์ เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี
นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนพรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า ทีมบริหารจัดการได้วิเคราะห์ภาพรวมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมเทคโนโลยีการศึกษาหรือ EdTech มีแนวโน้มเติบโตอย่างมากในอนาคต โดยผลการศึกษาจากองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) และองค์การสหประชาชาติ (UN) พบว่าผู้จบการศึกษาต่ำกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีอัตราว่างงานสูงกว่าผู้จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ขณะที่รูปแบบการศึกษาปรับเปลี่ยนจากในห้องเรียนสู่การเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัล เนื่องจากพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ในปัจจุบัน นิยมเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีตลอด 24 ชั่วโมง ในจำนวนนี้ 98% มีสมาร์ทโฟนเป็นของตนเองและเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ 10 ชั่วโมงต่อวัน (ข้อมูลจาก Hootsuite ณ มกราคม 2562, ITU, Howmuch.net) นอกจากนี้เยาวชนในอาเซียนกว่า 81.5% เชื่อว่าทักษะที่มีอยู่จะใช้ในการทำงานได้ไม่เกิน 10 ปีเท่านั้น จึงต้องศึกษาความรู้เพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอ (Source: ASEAN Youth: Technology, Skills and the Future of Work Report and survey conducted by SEA and World Economic Forum as of August 2020)
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ยังเป็นตัวเร่งให้คนทั่วโลกต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต รวมถึงการศึกษาในรูปแบบ EdTech จากเดิมที่เทคโนโลยีต่างๆ เพิ่งเริ่มมีบทบาทในการเรียนการสอนและการเรียนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ยังไม่ใช่การศึกษาภาคบังคับ อย่างไรก็ตามหลังจากเกิด COVID-19 ส่งผลให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการศึกษาและการเรียนทางออนไลน์กลายเป็นภาคบังคับ ส่งผลให้จำนวนผู้สมัครเรียนทางออนไลน์เพิ่มขึ้นและมีความต้องการใช้อุปกรณ์ทางเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อระบบการศึกษาเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
“ปัจจุบันได้เกิดเทคโนโลยีด้านศึกษาใหม่ๆ ที่ไม่ได้จำกัดแค่การเรียนรู้ภายในห้องเรียนของนักศึกษาเท่านั้น เช่น เทคโนโลยีการอบรมพนักงานทางออนไลน์, การเรียนการสอนด้วยดิจิทัลคอนเทนต์ที่สามารถนำเสนอภาพและเสียงด้วยวีดีโอเชื่อมต่อทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์, การทดลองปฏิบัติบนระบบเสมือนจริงแบบ Simulator ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาทักษะที่หลายองค์กรเริ่มนำมาใช้ที่เราเรียกว่า Re-skill Up-Skill” นายจุมพล กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. พรินซิเพิล กล่าวว่า จากเทรนด์การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว บลจ. พรินซิเพิล มองเป็นโอกาสลงทุนในธุรกิจด้านเทคโนโลยีการศึกษาที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต โดยพบว่าภาพรวมธุรกิจ EdTech มีอัตราเติบโต ปีละกว่า 20% และอุตสาหกรรม Edutainment มีอัตราเติบโตปีละกว่า 35% อย่างไรก็ตามมูลค่าตลาดของธุรกิจ EdTech ยังมีสัดส่วนเพียง 2-3% ของธุรกิจการศึกษาทั่วโลกที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 5 ล้านๆ เหรียญสหรัฐ (Source: Credit Suisse, as of May 2020)
ล่าสุด บลจ. พรินซิเพิล จึงเปิดตัว กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล เอ็ดดูเคชั่น เทค หรือ Principal Global Education Tech Fund (PRINCIPAL GEDTECH) มีทุนจดทะเบียน 3,000 ล้านบาท กำหนดสั่งซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 7-15 กรกฎาคมนี้ โดยเป็นกองทุนแบบ Feeder fund ที่มีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียวภายใต้ชื่อ Credit Suisse (Lux) Edutainment Equity Fund ชนิดหน่วยลงทุน (Share Class) IBP USD เป็นกองทุนหลัก (Master Fund) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดย Credit Suisse Asset Management S.A. ซึ่งเป็นผู้บริหารกองทุน Credit Suisse (Lux) Edutainment Equity Fund ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารรวม 425 ล้านเหรียญสหรัฐ (ข้อมูล ณ มีนาคม 2563)
กองทุนหลักที่เข้าลงทุนดังกล่าว (Master Fund) มีจุดเด่นเน้นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Edutainment ภายใต้อุตสาหกรรม EdTech ทั่วโลก ที่มีสัดส่วนรายได้หลักหรือคาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจดังกล่าวสูงกว่า 50% โดยเน้นการลงทุนแบบ Bottom-up โดยเลือกลงทุนในหุ้นรายตัว 40-60 บริษัทที่มีพื้นฐานดี ธุรกิจที่มีนวัตกรรมสินค้าและบริการโดดเด่น ความเชี่ยวชาญของผู้บริหาร มีศักยภาพการเติบโตและเป็นผู้นำในธุรกิจ ชูกลยุทธ์เลือกหุ้นคุณภาพพื้นฐานดี ภายใต้ 3 ธีมหลักคือ อินโนเวชั่นเซอร์วิส ดิจิทัลคอนเทนต์และซิสเต็มแอนด์ทูลส์ โดยมีหุ้นที่เลือกลงทุน อาทิ 2U ธีม Innovative Services ด้านแพลตฟอร์มการเรียนทางออนไลน์ที่มีคู่สัญญากับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก 73 แห่ง มีผู้เรียนกว่า 2.29 แสนราย (ข้อมูล ณ มีนาคม 2563), Chegg ธีม Digital Content Platform สำหรับการเช่า ยืม ขายหนังสือในแบบฟิสิคอลและออนไลน์ บริการอุปกรณ์กวดวิชาทางออนไลน์และโซลูชั่นสำหรับนักศึกษา, CAE ธีม System and Tools ให้บริการ Simulator training ด้านการแพทย์ การป้องกันและความมั่นคง และการบินพลเรือนผู้นำระดับโลกในการให้บริการ Virtual-to-live ฯลฯ
“ปัจจุบันถือเป็นจังหวะดีที่จะเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่ม EdTech เนื่องจาก COVID-19 เป็นตัวเร่งให้ธุรกิจนี้มีความต้องการใช้บริการและอัตราการเติบโตที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ประกอบกับธุรกิจเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต จึงยังมีโอกาสขยายตัวอย่างต่อเนื่องในระยะยาว แนะนำเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกองทุน PRINCIPAL GEDTECH ในพอร์ตการลงทุน เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีที่เติบโตไปพร้อมกับนวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคตด้านการศึกษา” นายจุมพล กล่าว
กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล เอ็ดดูเคชั่น เทค Principal Global Education Tech Fund (PRINCIPAL GEDTECH) กำหนดสั่งซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 7-15 กรกฎาคม 2563 ทั้งนี้ สามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ ตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืน และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด โทร. 02 686 9595 หรือ www.principal.th
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และ ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนอาจใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ผู้จัดการกองทุน/กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจได้รับกำไร หรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือ ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนหลักมีการกระจุกตัวในกลุ่มเทคโนโลยี (Information Technology Sector) ซึ่งมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค และความล้าสมัยของสินค้า ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าวผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจานวนมาก และอาจมีความเสี่ยงและความผันผวนของราคาสูงกว่ากองทุนรวมทั่วไปที่มีการกระจายหลายอุตสาหกรรม / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต