![เทคโนโลยี ICT ใหม่จากหัวเว่ย เสริมแกร่งโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ชี้อุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าจำเป็นต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วน]()
กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
งานประชุม Huawei Global Power Summit จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 ในหัวข้อ “บิต ขับเคลื่อน วัตต์ สร้างโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะที่เชื่อมต่อครบวงจร” (Bits Drive Watts, Building a Fully Connected Smart Grid) ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีลูกค้า พันธมิตร ผู้เชี่ยวชาญใน
อุตสาหกรรม และผู้นำความคิดในแวดวง
อุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าจากนานาประเทศเข้าร่วม เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับผลกระทบและวิธีรับมือกับสถานการณ์โรคระบาด รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ตลาด
พลังงานไฟฟ้ายังคงมีศักยภาพสูง จึงเกิดคำถามว่าภาค
อุตสาหกรรมจะสามารถสร้างและพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะที่มีความเสถียร ประสิทธิภาพสูง คุ้มค่าต่อการลงทุน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้ทรัพยากรพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและสมเหตุสมผลได้อย่างไร
บริษัท
พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกกำลังเฟ้นหาวิธีการในการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ผ่านการสร้างศูนย์ข้อมูลและการปฏิรูปแพลตฟอร์มการจัดการต่างๆ โดยมุ่งผลิตพลังงานที่เสถียร มีประสิทธิภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีความปลอดภัยต่อโครงข่าย พร้อมมอบบริการที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ผ่านเครือข่ายระบบ
พลังงานไฟฟ้าที่เชื่อมโยงถึงกันเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาของสังคม อย่างไรก็ตาม โมเดลการทำงานและเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมไม่สามารถส่งเสริมการปฏิรูป
อุตสาหกรรมในลักษณะนี้ได้ ฉะนั้น
อุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าระดับโลกจึงจำเป็นที่จะต้องทบทวนเกี่ยวกับการปรับตัวเพื่อรับมือกับเทรนด์ความท้าทายใหม่ๆ เช่น โครงข่ายไฟฟ้าจะสามารถตรวจจับปัญหาด้านความปลอดภัยและรับมืออย่างทันท่วงทีได้อย่างไร เราจะสามารถใช้พลังงานสะอาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างไร และเครือข่ายพลังงานจะสามารถตอบสนองต่อสถานีจ่ายไฟฟ้าที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร
ในขณะเดียวกัน ความท้าทายย่อมหมายถึงโอกาส “
หัวเว่ย พร้อมช่วยเหลือลูกค้าใน
อุตสาหกรรมรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ เพื่อคว้าโอกาสในอนาคตด้วยการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล” นายเดวิด ซุน รองประธาน กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของ
หัวเว่ย และประธานฝ่ายธุรกิจพลังงานระดับโลก กล่าว
หัวเว่ยได้ผสานเทคโนโลยี 5G, IoT, optical, IP, cloud, big data และ AI เข้ากับระบบ
พลังงานไฟฟ้าอย่างไร้รอยต่อ โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อเปิดตัวโซลูชันสมาร์ทเซอร์วิสหลายรูปแบบ อาทิ การตรวจสอบระบบโครงข่ายไฟฟ้าโดยใช้ขุมพลังของ AI และการจ่ายไฟด้วย IoT ซึ่งจะครอบคลุมทั้งการผลิตพลังงาน การส่งสัญญาณ การแปลงพลังงาน การจ่ายไฟ รวมไปถึงการใช้ไฟฟ้า สิ่งเหล่านี้ช่วยทำให้เกิดเซ็นเซอร์ที่ครอบคลุม เชื่อมต่อถึงกันได้ และยังทำให้เทอร์มินัลพลังงานหลายตัวสามารถส่งมอบบริการอันชาญฉลาดได้
นายซุนกล่าวเพิ่มเติมว่า “
หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะแบ่งปันประสบการณ์ด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของภาค
พลังงานไฟฟ้าและภาค
อุตสาหกรรมอื่นๆ ในประเทศจีนให้แก่ลูกค้าจำนวนมากขึ้น ผลักดันบิตเพื่อขับเคลื่อนวัตต์ และสร้างโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะเพื่อช่วยให้บริษัทด้าน
พลังงานไฟฟ้าในระดับโลกสามารถเร่งให้เกิดการพัฒนาที่รวดเร็วขึ้น”
ปัจจุบัน บริษัทด้าน
พลังงานไฟฟ้าที่ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในการประชุมครั้งนี้
หัวเว่ยและผู้นำในภาค
อุตสาหกรรมหลายรายได้กล่าวถึงความสำคัญของเทคโนโลยี 5G, AI, big data และการประมวลผล cloud computing ที่มีผลต่อกระบวนการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว
ทั้งนี้ เทคโนโลยีการจัดแบ่ง (slicing technology) แบบ 5G ที่ล้ำสมัยของ
หัวเว่ยสามารถทำให้เกิดการสื่อสารแบบต้นสายถึงปลายสายบนโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ซึ่งทำให้เครือข่ายการจ่ายพลังงานมีความปลอดภัยและเสถียร ทั้งยังมีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น
ส่วนเทคโนโลยี HUAWEI CLOUD และแพลตฟอร์มข้อมูลช่วยจัดเตรียมแหล่งความจุข้อมูลและความสามารถด้านการประมวลผลคอมพิวเตอร์จำนวนมหาศาล ผสานข้อมูลจากหลายระบบในโครงข่ายไฟฟ้าของบริษัทหนึ่งๆ เข้าด้วยกันเป็นแพลตฟอร์มเดียว โดยการประมวลผลและการแบ่งปันข้อมูลด้วยความเร็วสูงของแพลตฟอร์มดังกล่าวจะช่วยทำให้งานที่ท้าทายหลากหลายรูปแบบสำเร็จลุล่วงไปได้ นอกจากนี้ เทคโนโลยี AI ของ
หัวเว่ยที่ฝังเข้าไปในกล้องและหุ่นโดรนต่างๆ ยังช่วยให้ทีมปฏิบัติงานและบำรุงรักษาอุปกรณ์สามารถตรวจสอบสายส่งไฟฟ้าและจุดบกพร่องต่างๆ จากระยะไกลได้
นอกจากนี้ การให้บริการด้านดิจิทัลด้วยการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรด้านสายใยแก้วนำแสง ไซต์เครือข่าย และนวัตกรรมโซลูชันไอซีทีที่มีอยู่มากมาย ยังถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลสำหรับบรรดาบริษัทด้าน
พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกอีกด้วย
ทั้งนี้
หัวเว่ยได้ทำงานร่วมกับบริษัทด้าน
พลังงานไฟฟ้ากว่า 190 แห่งทั่วโลกในด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งในจำนวนนี้มีบริษัท 10 แห่งที่ติดใน 20 อันดับสูงสุดของภาค
อุตสาหกรรมพลังงาน โดยโซลูชันของ
หัวเว่ยได้รับการนำไปใช้อย่างกว้างขวางในบริษัทด้าน
พลังงานไฟฟ้า อาทิ Saudi Electricity Company, Turkish Electricity Transmission Corporation, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคของประเทศไทย, SGCC และ CSG เป็นต้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานประชุม “Huawei Global Power Summit” สามารถดูได้ที่: https://e.huawei.com/topic/global-power-summit-2020/en/
เกี่ยวกับ
หัวเว่ย
หัวเว่ย ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและสมาร์ทดีไวซ์ ด้วยโซลูชั่นที่ผสมผสานในสี่กลุ่มหลัก คือ เครือข่ายโทรคมนาคม, ไอที, สมาร์ทดีไวซ์ และบริการคลาวด์ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การใช้งานทุกระดับเพื่อทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นและบริการที่ครบวงจรของ
หัวเว่ยเปี่ยมด้วยศักยภาพด้านการแข่งขันและเชื่อถือได้ จากการทำงานร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศแบบเปิด
หัวเว่ยสามารถสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับลูกค้า เสริมสมรรถนะของผู้คน ช่วยให้การใช้ชีวิตที่บ้านมีความสะดวกสบาย และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมในองค์กรทุกรูปแบบและทุกขนาด นวัตกรรมของ
หัวเว่ยเน้นตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า เราทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในด้านการวิจัย เน้นค้นหานวัตกรรมด้านเทคนิคใหม่ ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกของเราให้ก้าวไปข้างหน้า เรามีพนักงานกว่า 194,000 คน ดำเนินธุรกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก
หัวเว่ยก่อตั้งขึ้นในปี 2530 และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ
หัวเว่ย ได้ที่ www.huawei.com
ติดตามเราได้ที่
http://www.linkedin.com/company/Huawei
http://www.twitter.com/Huawei
http://www.facebook.com/HuaweiTechTH
http://www.youtube.com/Huawei