กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--การยางแห่งประเทศไทย
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เตือนเกษตรกรชาวสวนยางการ์ดอย่าตก หมั่นดูแลสวนยางในช่วงฤดูฝน หวั่นโรคใบร่วงชนิดใหม่อาจกลับมาระบาดหนักเพราะอากาศที่มีความชื้นสูง ย้ำควรใส่ปุ๋ยบำรุงต้นและไม่ควรกรีดหน้ายางหักโหม โดยเฉพาะในสวนยางที่สภาพต้นไม่สมบูรณ์เนื่องจากการเข้าทำลายของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในปีที่ผ่านมาต้องดูแลมากเป็นพิเศษ
นายกฤษดา สังข์สิงห์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง การยางแห่งประเทศไทย กล่าวเตือนพี่น้องเกษตรชาวสวนยางว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยมีฝนตกชุกอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมขังและสวนยางพาราของเกษตรกรอาจได้รับความเสียหาย จึงต้องหมั่นเข้าไปดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งการดูแลสวนยางในช่วงฤดูฝนนั้น กยท. แนะนำให้ใส่ปุ๋ยบำรุง เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำทั้งในช่วงต้นฤดูฝนและปลายฤดูฝน
เพื่อสร้างความสมบูรณ์ของต้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตน้ำยางพาราของต้นยาง ช่วงฤดูฝนมีปริมาณฝนตกมากทำให้สวนยางมีความชื้นสูงเหมาะแก่การเข้าทำลายของเชื้อราต่างๆ ที่ก่อให้เกิดโรคกับต้นยาง ดังนั้นหลังการกรีดยาง เกษตรกรควรใช้ยาทารักษาหน้ายางเป็นประจำเพื่อป้องกันโรคจากเชื้อรา ในกรณีที่เกิดน้ำท่วมขัง ควรจัดการระบายน้ำออกจากสวนยางให้เร็วที่สุด โดยการขุดร่องน้ำกึ่งกลางระหว่างแถวต้นยาง เพื่อให้น้ำระบายไปอยู่ในร่องน้ำที่ขุดไว้ แต่ไม่ควรใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ในการขุดร่องน้ำ เพราะอาจกระทบกระเทือนต่อระบบรากของต้นยางได้ นอกจากนี้ไม่ควรเข้าไปกรีดยางในขณะที่มีน้ำท่วมขังจนกว่าสภาพดินจะแห้งเป็นปกติ เพราะรากของต้นยางบางส่วนจะได้รับการกระทบกระเทือน ไม่สามารถดูดธาตุอาหารไปเลี้ยงต้นยางได้
ผอ.สวย.กยท. กล่าวย้ำว่า สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราที่เคยระบาดหนักในหลายพื้นที่ในภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับสภาพภูมิอากาศที่ร้อนสลับชื้นในช่วงนี้ จะช่วยหนุนให้เชื้อราที่สะสมอยู่ในพื้นดินแปลงสวนยางพารากลับมาแพร่ระบาดได้ กยท. จึงอยากให้เกษตรกรชาวสวนยางการ์ดอย่าตก
หมั่นตรวจสอบสวนยางพาราของตนเอง ใส่ปุ๋ยบำรุงรักษาต้นยางพารา และกำจัดวัชพืชรวมถึงเศษซากใบต่างๆ ในแปลงที่อาจมีเชื้อราสะสมและก่อให้เกิดการระบาดขึ้นอีก หากพบความผิดปกติในสวนยางพาราให้เกษตรกรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ กยท. ในพื้นที่เพื่อเข้าตรวจสอบสวนยางพาราและหาแนวทางป้องกันกำจัดได้ทันท่วงที