กรุงเทพฯ--15 ก.ค.--โซนี่ ไทย
บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด รุกสร้างประสบการณ์ใหม่ของความบันเทิงอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องเสียงรุ่นใหม่ล่าสุด ตอบโจทย์ความบันเทิงครอบคลุมตั้งแต่ในบ้านจนถึงพกพา พร้อมขยายฐานคนรักเสียงเพลงคุณภาพให้กว้างขึ้น โดยในครั้งนี้โซนี่ไทยได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ ลำโพงไร้สายแบบพกพา Extra Bass จำนวน 3 รุ่น คือ SRS-XB43, SRS-XB33 และ SRS-XB23 ที่จัดเต็มด้วยคุณภาพเสียงที่ดียิ่งขึ้น พร้อมดีไซน์โครงสร้างภายในใหม่ ด้วยเทคโนโลยี X-Balanced Speaker Unit ให้เสียงคุณภาพสูง ความดันเสียงทรงพลัง ในขนาดกะทัดรัด พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ พร้อมระดับอัตรากันฝุ่นกันน้ำ และน้ำทะเล IP67 ล้างทำความสะอาดได้ ไร้กังวลใจ คุณสามารถพกพาลำโพงของคุณไปที่ชายทะเล หาดทราย เดินป่า สระว่ายน้ำ ได้ทุกที่ที่ต้องการ และยังสามารถทนทานต่อแรงกระแทก โดยที่เครื่องยังคงสามารถใช้งานได้ พร้อมด้วยชุดเครื่องเสียง High-Power Audio System ตระกูล V-Series ให้พลังเสียงสุดกระหึ่มทรงพลังจำนวน 3 รุ่น ได้แก่ MHC-V83D, MHC-V43D และ MHC-V13 ที่ผสานกับเทคโนโลยีสุดล้ำ พร้อมเนรมิตบรรยากาศการฟังเพลงให้สนุกสนานยิ่งกว่าเดิม โดยสามารถเชื่อมต่อการใช้งานแบบไร้สายร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ต่างๆได้อย่างสะดวก รวมทั้งผลิตภัณฑ์ Sound Bar รุ่นล่าสุด HT-G700 เพิ่มอรรถรสในการชมภาพยนต์แบบ 3.1 Ch. Dolby Atmos(R) และ DTS-X กับประสบการณ์เสียงสุดคมชัด สมจริงกว่าเดิม ทั้งนี้ โซนี่มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงทั้งในกลุ่มแบบพกพาและเครื่องเสียงภายในบ้านที่เปิดตัวในครั้งนี้ จะสามารถเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค และสร้างสีสันให้ตลาดเครื่องเสียงได้เป็นอย่างดี
รายละเอียดผลิตภัณฑ์กลุ่มออดิโอรุ่นใหม่จากโซนี่
ลำโพงไร้สายแบบพกพาตระกูล Extra Bass ตระกูล XB รุ่นใหม่
SRS-XB43, SRS-XB33 และ SRS-XB23 เป็นลำโพงไร้สายแบบพกพาที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี EXTRA BASS(TM) ให้เสียงเบสที่เต็มอิ่ม หนักแน่นกังวาล และทรงพลัง รวมถึงรายละเอียดเสียงในย่านอื่น ๆ ที่คมชัด ซึ่งเป็นการผสมผสานการทำงานของเทคโนโลยี อื่น ๆ ที่พัฒนาขึ้นมาใช้ร่วมกันมากมาย อาทิ
-X-Balanced Speaker Unit - เทคโนโลยีที่ช่วยสร้างมิติในการฟังเพลงด้วยคุณภาพเสียงที่เต็มอิ่มยิ่งขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปทรงของตัวลำโพงจากวงกลมเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมเยื้องศูนย์กลาง ที่ช่วยเพิ่มขนาดพื้นที่รอบ diaphragm จึงช่วยเพิ่มความดันเสียง ทำให้ได้เสียงเบสที่ลงลึก เต็มอิ่มยิ่งขึ้น และมี ความผิดเพี้ยนต่ำ ในขณะที่ X-Balanced Speaker Unit ของรุ่น SRS-XB43 มีรูปทรงเกือบเป็นสี่เหลี่ยมมุมฉาก โดยออกแบบให้เป็นลำโพงแบบ 2 ทาง โดยมีลำโพงวูฟเฟอร์ที่ให้เสียงในย่านกลาง ต่ำ และทวีตเตอร์สำหรับเสียงสูง จึงให้คุณภาพเสียงที่ผสมผสานทั้งความหนักแน่น ความคมชัดในทุกรายละเอียด ในขณะที่รุ่น SRS-XB33 และ SRS-XB23 ได้มีการออกแบบรูปทรงของ X-Balanced Speaker Unit เป็นรูปทรงรี เพิ่มพื้นที่รอบ diaphragm ให้เสียงที่หนักแน่นขึ้นโดยที่ยังสามารถออกแบบลำโพงให้มีขนาดเล็กกะทัดรัดเหมือนเดิม
-Side Passive Radiator – การจัดวางตำแหน่งของ Passive Radiator ให้อยู่บริเวณด้านข้างของลำโพงทั้ง 3 รุ่น ช่วยเพิ่มเสียงเบสให้มีความลึกกระชับ
-Live Sound Mode - ในรุ่น SRS-XB33 และ SRS-XB43 สามารถปิดหรือเปิดเพิ่มบรรยากาศปาร์ตี้ครอบคลุมพื้นที่แนวสูงและกว้าง บรรยากาศเวที 3 มิติ ให้ความรู้สึกเหมือนการแสดงสด ด้วยเทคโนโลยี DSP ที่จะเพิ่มการกระจายเสียงเพลงในแบบไลฟ์คอนเสิร์ต คลับเฮ้าส์
-ระบบกันน้ำ กันฝุ่น กันสนิม มาตรฐาน IP67 และระบบป้องกันความเสียหายจากแรงกระแทก(Shockproof) – ลำโพงทั้ง3รุ่นมาพร้อมมาตรฐาน IP67 / Rustproof จึงสามารถพกพาลำโพงไปสนุกสุดเหวี่ยงได้ทุกที่แม้แต่ชายหาด และริมทะเล โดยไม่ต้องกังวลว่าลำโพงจะเสียหายจากน้ำ ทราย หรือฝุ่นละอองต่าง ๆ เพราะสามารถล้างทำความสะอาดได้ และด้วยการออกแบบโครงใหม่และใช้วัสดุที่ทนทานช่วยลดความเสียหายที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะรุ่นพกพา XB23/XB33 ได้ผ่านการทดสอบ Shockproof เมื่อเกิดการตกกระแทกหรือรับแรงสะเทือนแล้วยังใช้งานได้ต่อเนื่อง
-Lights – SRS-XB33 และ SRS-XB43 สามารถปิดไฟหรือเปิดเพื่อเพิ่มบรรยากาศการฟังเพลงให้คึกคักกว่าเดิมด้วยไฟกระพริบหลากสีตามจังหวะเพลง โดยในรุ่น SRS-XB43 จะเพิ่มลูกเล่นไฟกระพริบที่ทวีตเตอร์อีกด้วย ควบคุมผ่าน Fiestable app บนมือถือได้พร้อมกัน
-Fiestable & Sony I Music Center Apps – ในรุ่น SRS-XB43 และ SRS-XB33 สามารถสร้างบรรยากาศแสงสีคึกคักปรับเปลี่ยนไปตามจังหวะเพลงเหมือนอยู่ในคลับ ควบคุมด้วยสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่น Fiestable สามารถดาวน์โหลดได้จาก Google Play และ App Store ในขณะที่ผู้ใช้สามารถสั่งการควบคุมการใช้งานลำโพงทั้ง 3 รุ่น ผ่านแอพลิเคชั่น Sony I Music Center ไม่ว่าจะเป็นเลือกเพลงโปรด การจัดลำดับเพลง และปิด-เปิดไฟลำโพงเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ โดยสามารถดาวน์โหลดได้จาก Google Play และ App Store เช่นกัน (*ทุกรุ่นรองรับ app Music Center)
-Party Connect – ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อใช้งานลำโพงทั้ง 3 รุ่น พร้อมกันได้มากถึง 100 เครื่อง (สามารถต่อเชื่อมระหว่างรุ่น SRS-XB23|33|43 ในซีรีย์เดียวกัน ) ผ่านเทคโนโลยี BLUETOOTH(R) เพื่อควบคุมเสียงเพลง และแสงไฟให้เป็นไปในจังหวะเดียวกัน หรือจับคู่สเตอริโอ ST.Paring ลำโพง2ตัว ซ้ายขวาได้เช่นกัน
ลำโพงทั้ง 3 รุ่นใหม่ได้รับการออกแบบให้ถ่ายทอดคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม เสียงร้องชัดเจน เสียงเบสแน่นกระชับ ฟังสนุกพร้อมลูกเล่นทันสมัยในแบบของโซนี่สีสันสดใส ขนาดกะทัดรัดเหมาะมือ ตอบโจทย์การใช้งานได้ในทุกสถานที่ ใช้งานสะดวก พร้อมช่องชาร์จไฟแบบ USB-Type-C(TM) ในรุ่น SRS-XB43 และ XB33 สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 24 ชั่วโมง และ 12 ชั่วโมงในรุ่น XB23 เมื่อใช้งานในโหมด Stamina ปิดไฟ และความดังที่ระดับ 50% นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อฟังเพลงผ่านระบบ NFC ในรุ่น XB43 และ XB33 ได้อีกด้วย ลำโพงทั้ง 3 รุ่นพร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ศกนี้ เป็นต้นไป โดยมีสี และรายละเอียดราคาดังนี้
SRS-XB43 วางจำหน่ายในราคา 7,490 บาท มีให้เลือกด้วยกัน 2 สีคือ สีดำ และสีน้ำเงินSRS-XB33 วางจำหน่ายในราคา 5,490 บาท มีให้เลือกด้วยกัน 4 สีคือ สีดำ, สีน้ำเงิน, สีน้ำตาลเทา และ สีแดงสดSRS-XB23 วางจำหน่ายในราคา 3,990 บาท มีให้เลือกด้วยกัน 5 สีคือ สีดำ, สีฟ้า, สีน้ำตาลเทา และสีแดงปะการัง และสีเขียวมะกอก
Sound Bar รุ่น HT-G700
HT-G700 เป็นลำโพง Sound Bar ที่ให้คุณภาพเสียงเซอร์ราวด์สุดกระหึ่มราวกับยกโรงภาพยนตร์ มาไว้ในห้องนั่งเล่น ด้วยเทคโนโลยี Dloby Atmos 3.1 Ch และ DTS:X ซึ่ง HT-G700 มาพร้อมลำโพงหน้า 3 ตัว ที่ทำงานผ่านระบบประมวลผลสัญญาณของโซนี่ กระจายเสียงให้ โอบล้อมผู้ใช้งานรอบทิศทาง กินพื้นที่กว้างกว่าเดิม จึงให้ประสบการณ์ ที่เต็มอรรถรสยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Immersive Audio Enhancement เอกสิทธิ์เฉพาะจากโซนี่ ที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับ HT-G700 ให้คุณได้สัมผัสกับเสียงเซอร์ราวนด์สามมิติ เสมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงที่ให้เสียงครอบคลุม 360 องศา และยังสามารถปรับเลือก upscale สัญญาณเสียงจากระบบเสียง สเตอริโอ เป็นเสียงเซอร์ราวด์มากสุดถึง 7.1.2 แชนแนล นอกจากนี้ HT-G700 ยังได้รับการดีไซน์ใหม่เพื่อให้ตอบรับกับตำแหน่งในการนั่งฟังโดยขยายจากโซฟา 3 ที่นั่ง เป็นโซฟาแบบ L-Shape โดยที่ยังคงให้เสียงที่ชัดเจน ทั้งยังปรับให้การกระจายเสียงเซอร์ราวด์มีความเหมาะสมกับทีวีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 55 นิ้วขึ้นไป HT-G700 ยังมีลำโพงเซ็นเตอร์ที่ให้เสียงสนทนาที่คมชัดในทุกระดับเสียง และยังสามารถใช้ฟังเพลงประเภทต่าง ๆ ได้อย่างไพเราะ และเต็มไปด้วยรายละเอียด เป็นการยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงในการรับชมรายการทีวี และภาพยนตร์อย่างแท้จริง
HT-G700 มาพร้อม Subwoofer แบบไร้สาย ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จึงให้เสียงเบสที่หนักแน่น และเต็มพลัง เชื่อมต่อใช้งานกับทีวีได้อย่างสะดวกผ่านระบบ Bluetooth(R) หรือช่องต่อ HDMI หรือ HDMI (eARC) รวมถึงการออกแบบรูปลักษณ์ให้จัดวางใช้งานกับทีวีจอใหญ่ 55” นิ้วขึ้นไปได้อย่างสวยงามลงตัว โดยเฉพาะทีวีบราเวียตั้งแต่รุ่น X8000 Series ขึ้นไป สินค้าพร้อมวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม ศกนี้ ในราคา 19,990 บาท
ผลิตภัณฑ์ High-Power Audio Systems รุ่น MHC-V83D, MHC-V43D และ MHC-V13
ชุดเครื่องเสียงแบบ One Box 3 รุ่นล่าสุด ในตระกูล V-Series ที่มาพร้อมพลังเสียงสุดกระหึ่มทรงพลังรอบทิศทางด้วยเทคโนโลยีล่าสุด Omnidirectional Party Sound และ Omnidirectional Party Light ให้เสียง และแสงสีรอบทิศทางแบบ 360 องศา เนรมิตบรรยากาศการฟังเพลง และงานปาร์ตี้ ให้สนุกสนานเร้าใจยิ่งกว่าเดิม ปรับรูปลักษณ์ใหม่ให้ดูทันสมัยกว่าที่เคย พร้อมการปรับปรุงเปลี่ยนวัสดุพื้นผิวด้านนอกเพื่อลดการสั่นสะเทือน เพิ่มพลังความชัดเจนของเสียงเบส นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงคุณภาพและองศาการจัดวางทวีตเตอร์ให้ขับเสียงแหลมใสในระยะที่ไกลขึ้น มาพร้อมลำโพงย่านเสียงกลางให้มิติเสียงกว้างแม้จะอยู่ด้านหลังเครื่องเสียง ยิ่งไปกว่านั้น ยังเพิ่มช่องเสียบไมค์เพื่อความสะดวกการใช้งาน และ เพิ่มวัสดุ กันกระแทก ที่มุมเครื่องด้านล่าง ช่วยลดความเสียหายเวลาเคลื่อนย้าย
ในรุ่น MHC-V83D จะโดดเด่นด้วยระบบเสียงรอบทิศทางที่มาจากลำโพงทวีตเตอร์ประสิทธิภาพสูง 4 ตัว ประกอบด้วย ลำโพงทวีตเตอร์ฮอร์น และ ลำโพงมิดเรนจ์ อยู่ที่บริเวณด้านหน้าและด้านหลัง ทำงานร่วมกับลำโพงวูฟเฟอร์ และสุดยอดเทคโนโลยีเสียงอันทรงพลัง Jet Bass Booster ซึ่งจะให้เสียงเบสที่หนักแน่น ช่วยในการกระจายเสียงเพลงให้ดังกระหึ่มครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น ในขณะที่รุ่น MHC-V43D และ MHC-V13 มาพร้อมลำโพงทวีตเตอร์ด้านหน้า 2 ตัว ที่ช่วยในการกระจายเสียงให้ครอบคลุมทั่วสถานที่เช่นเดียวกัน
สำหรับ MHC-V83D ยังมาพร้อมกับระบบเสียงและแสงสี สำหรับบรรยากาศงานปาร์ตี้แบบรอบทิศทาง 360 องศา และแสงสีจากตัวลำโพง Speaker Light พร้อมเปลี่ยนห้องนั่งเล่นให้กลายเป็นคลับสุดฮิปด้วยแสงสีน้ำเงินเข้ม สีฟ้า สีเขียวที่กระจายแสงรอบทิศทาง รวมทั้งโปรแกรมสร้างรูปแบบเส้นสายของแสงที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมี Taiko Mode สำหรับการตีกลองแบบต่าง ๆ เช่น bongo, djembe, surdo และ Taiko เป็นต้น โดยการเคาะบริเวณฝาบนของเครื่องสร้างสรรค์จังหวะที่ต้องการ
ในขณะที่รุ่น MHC-V43D จะมาพร้อมกับระบบแสงสีแบบครึ่งวงกลม พร้อมลูกเล่นไฟเส้น บวกกับแสงสีที่ตัวลำโพงวูฟเฟอร์ เพิ่มบรรยากาศความสนุกสนานของการฟังเพลง ทุกรุ่นยังมาพร้อม Ambient Light Mode ที่จะปรับเปลี่ยนแสงสีสร้างบรรยากาศของการฟังเพลงในแนวพักผ่อนฟังสบาย นอกจากนี้คุณจะได้สนุกสนานไปกับฟังก์ชั่นคาราโอเกะ ด้วยลูกเล่นใหม่ที่จะสร้างประสบการณ์ในการร้องเพลงให้สนุกสนานยิ่งขึ้น รวมถึงลูกเล่นล่าสุดที่ให้คะแนน และ
จัดอันดับคะแนนการร้องเพลงผ่านแอพพลิเคชั่น Fiestable เพิ่มความสนุกสนานในการร่วมแข่งขันร้องเพลงกันในครอบครัว และเพื่อนฝูง นอกจากนี้ยังสามารถจำลองการเล่นกีตาร์เพื่อเล่นแจมกับนักดนตรีคนโปรดใน 3 หมวดตามแนวดนตรี ได้แก่ Clean สำหรับเพลงป็อบ Overdrive สำหรับเพลงแนวร็อค กับแนวเมทัล และ Bass สำหรับกีตาร์เบส และในรุ่น MHC-V83 ยิ่งกว่านั้นทุกรุ่นยังมาพร้อมลูกเล่นใหม่อย่าง Party Playlist ให้ทุกคนได้เป็นดีเจ เลือกเล่นเพลงได้โดยการค้นหา และสร้างลิสต์เพลงโปรดบนสมาร์ทโฟน และส่งผ่านทางแอพพลิเคชั่น Fiestable
สำหรับ High-Power Audio System V-Series ใหม่ ที่เปิดตัวในครั้งนี้มีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน พร้อมวางจำหน่ายโดยมีรายละเอียดราคาดังนี้ MHC-V83D ราคา 18,990 บาท MHC-V43D ราคา 10,990 บาท จะวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม และ MHC-V13 ราคา 5,990 บาท วางจำหน่ายเดือนสิงหาคม
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร 02-715-6100 หรือเยี่ยมชม www.sony.co.th และทดลองประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ได้โชว์รูมโซนี่ สโตร์ ทุกสาขา ร้านโซนี่ เซ็นเตอร์ และร้านค้าผู้แทนจำหน่ายที่เลือกสรร