![เทรนด์ไมโครก้าวสู่อันดับหนึ่งของโลกอีกครั้ง ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยสำหรับไฮบริดจ์คลาวด์]()
กรุงเทพฯ--16 ก.ค.--เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย)
จากรายงานวิเคราะห์ฉบับล่าสุดพบว่า เทรนด์ไมโครครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า
อันดับรองลงมามากถึงสามเท่า
บริษัทเทรนด์ไมโคร (TYO: 4704; TSE: 4704) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่น
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ ได้ออกมาประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ครองส่วนแบ่งตลาดขึ้นเป็นอันดับ 1 ประจำปี 2019 สำหรับผลิตภัณฑ์ปกป้อง
ข้อมูลบน
ไฮบริดจ์ค
ลาวด์ อ้างอิงจากรายงาน Worldwide Hybrid Cloud Workload Security Market Shares, 2019 (รหัสเอกสาร #US46398420 ฉบับเดือนมิถุนายน 2020) ของทาง IDC
จากสัดส่วนในตลาดถึง 29.5% ในปีที่ผ่านมา ถือว่ามากกว่าผู้จำหน่ายอันดับสองถึงสามเท่า จนทำให้ เทรนด์ไมโคร ถูกระบุไว้ในรายงานว่าเหมือนเป็น “ลิงกอริลลาร่างยักษ์กว่า 800 ปอนด์” ในตลาดนี้ รวมทั้งเป็น “ผู้นำที่แข็งแกร่งมายาวนานในด้านระบบป้องกันสำหรับโหลดงาน SDC”
“ตามที่ IDC กล่าวไว้ในรายงานนั้น ตำแหน่งผู้นำตลาดของเราไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ แต่มาจากการสังเกตพบถึงความสำคัญของระบบความปลอดภัยสำหรับโหลดงานที่เปลี่ยนไปตั้งแต่สิบกว่าปีมาแล้ว ซึ่งเราเองก็ได้เฝ้าพัฒนาความสามารถเพื่อรองรับกับความต้องการดังกล่าวมาโดยตลอด” Wendy Moore รองประธานด้านการตลาดผลิตภัณฑ์ของเทรนด์ไมโครกล่าว “ขณะที่ผู้จำหน่ายรายอื่นต่างโฆษณาอย่างโจ่งแจ้งว่าตนเองเป็นผู้นำตลาดนั้น ทาง IDC กลับอธิบายต่างออกไป โดยมองว่าเทรนด์ไมโครได้พยายามครองตำแหน่งผู้นำมาอย่างต่อเนื่องด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และความสามารถใหม่ ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าในด้าน
ไฮบริดจ์ค
ลาวด์ และบริการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับค
ลาวด์ที่เติบโตอย่างมาก”
ทั้งนี้ ทาง IDC ได้นิยามการป้องกันการโหลดงานบน
ไฮบริดจ์ค
ลาวด์ไว้ว่า เป็นการป้องกันเวอร์ช่วลแมชชีน และคอนเทนเนอร์ที่ทำงานบนสภาพแวดล้อมแบบ SDC ซึ่งเทรนด์ไมโครเริ่มเคลื่อนไหวในการบุกตลาดนี้ตั้งแต่ปี 2009 ด้วยการลงทุนมหาศาลกับระบบตรวจจับ และป้องกันการบุกรุก รวมทั้งซอฟต์แวร์ไฟร์วอลล์สำหรับสภาพแวดล้อมการทำงานบนค
ลาวด์ หรือดาต้าเซ้นเตอร์แบบเวอร์ช่วล
รายงานนี้ยังอธิบายเพิ่มเติมถึงกุญแจสำคัญที่ทำให้เทรนด์ไมโครก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งผู้นำอย่างนวัตกรรมสำหรับค
ลาวด์ที่สำคัญต่าง ๆ และการเข้าซื้อกิจการ Cloud Conformity เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับการตั้งค่าบนค
ลาวด์ที่ผิดพลาดของลูกค้าด้วย นอกจากนี้ จากความร่วมมือกับทาง Snyk ยังช่วยให้สามารถระบุหาช่องโหว่ที่เกิดจากการที่ทีมงาน DevOps นำซอร์สโค้ดที่เป็นโอเพ่นซอร์สมาใช้ใหม่ได้ด้วย
จากความสำเร็จในการซื้อธุรกิจของ Cloud Conformity ซึ่งได้ตำแหน่งพาร์ทเนอร์แห่งปีของ AWS ด้านเทคโนโลยีในปี 2019 ทางเทรนด์ไมโครเองก็ได้พัฒนาความสามารถที่ครอบคลุมนอกเหนือจากระบบของ AWS อย่างต่อเนื่อง เช่น การสนับสนุนเวอร์ช่วลแมชชีนบน Google Cloud Platform (GCP), การปกป้องแพลตฟอร์ม Kubernetes, รวมทั้งการผสานเข้ากับระบบสแกนอิมเมจคอนเทนเนอร์ใน Google Kubernetes Engine (GKE) เป็นต้น
เทรนด์ไมโครยังได้พัฒนาตัว GCP Connector เพื่อค้นหา และปกป้องอินซแตนซ์เวอร์ช่วลแมชชีนของ GCP ได้แบบอัตโนมัติ จนทำให้ได้รับยกย่องเป็นพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีประจำปี 2019 ของ Google Cloud ในด้านความปลอดภัย
นอกจากนี้ ทาง IDC ยังกล่าวเสริมว่า “แม้จะครองตำแหน่งผู้นำ แต่เทรนด์ไมโครก็ไม่ได้หยุดนิ่ง โดยยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่อง” จนล่าสุดเทรนด์ไมโครได้เปิดตัว Cloud One เมื่อปลายปี 2019 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม SaaS แบบยูนิฟายด์ ที่ครอบคลุมความต้องการด้านความปลอดภัยบนค
ลาวด์ของลูกค้าไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเซิร์ฟเวอร์ดาต้าเซ็นเตอร์ และเวอร์ช่วลแมชชีน, โหลดงาน IaaS, คอนเทนเนอร์ และบริการที่เกี่ยวข้อง, การจัดการรูปแบบความปลอดภัยของค
ลาวด์, บริการสตอเรจบนค
ลาวด์ทั้งแบบไฟล์ และอ๊อพเจ็กต์ รวมทั้งระบบ Serverless ด้วย
ทั้งนี้ ผลการจัดอันดับส่วนแบ่งตลาดเทรนด์ไมโครของ IDC ครั้งนี้ ได้ครองอันดับแรกเหมือนกับในรายงานอื่นอย่าง Forrester Wave(TM): Cloud Workload Security, Q4 2019 ด้วย