![นิสิตสัตวแพทย์ จุฬาฯ จิตอาสา ฉีดวัคซีน ทำหมันสุนัขและแมวจรจัด ดูแลสวัสดิภาพสัตว์ในรั้วจุฬาฯ]()
กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปัญหาสุนัขและ
แมวจรจัดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้เกิด
โรคพิษสุนัขบ้าซึ่งเป็น
โรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การฉีดวัคซีนและการทำหมันสุนัขและ
แมวจรจัดเพื่อลดจำนวนประชากรสุนัขและ
แมว จึงเป็นมาตรการหนึ่งในการเพิ่มสวัสดิภาพแก่สัตว์และลดผลกระทบจากปัญหาต่างๆ ที่ตามมาเพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน โดยกลุ่ม
นิสิตสัตวแพทย์
จุฬาฯ เพื่อสวัสดิภาพสัตว์ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนและการทำหมันสุนัขและ
แมวจรจัดในพื้นที่ชุมชนรอบ
จุฬาฯ มาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว สำหรับในปีนี้จะมีการจัดโครงการดังกล่าวครั้งใหญ่ภายใต้ชื่อโครงการ “สัตวแพทย์
จุฬาฯ เพื่อสวัสดิภาพสัตว์ในรั้ว
จุฬาฯ” ซึ่งเป็นโครงการระยะยาว จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2563 เป็นต้นไป
พงษ์ศิริ นาคผดุงสุข
นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะสัตวแพทยศาสตร์
จุฬาฯ ประธานชมรมสวัสดิภาพสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์
จุฬาฯ เปิดเผยถึงที่มาของชมรมนี้ว่ามีมาตั้งแต่ปี 2559 เริ่มจากกลุ่มดูแลสวัสดิภาพของสัตว์จรจัดทั้งในคณะและบริเวณรอบๆ โดยได้รับการจัดตั้งเป็นชมรมในปีนี้ สมาชิกชมรมเป็น
นิสิตคณะสัตวแพทยศาสตร์
จุฬาฯ กิจกรรมของชมรมมีการจัด Workshop ให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพสัตว์เบื้องต้น โดยอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นผู้ให้ความรู้ เพจ Facebook : Johnjud ให้ความรู้ในการดูแลสัตว์ สวัสดิภาพสัตว์ และประชาสัมพันธ์หาบ้านสัตว์ กิจกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิต อาทิ การทำของเล่น การฉีดวัคซีน การถ่ายพยาธิ การหยดยากำจัดเห็บหมัดและพาสัตว์ในโครงการไปเดินเล่น เป็นต้น
โครงการช่วยเหลือสุนัขและ
แมวจรจัดรอบ
จุฬาฯ ในระยะแรกเริ่มจากสุนัขและ
แมวจรจัดในคณะสัตวแพทยศาสตร์ จากนั้นจึงขยายไปยังพื้นที่โดยรอบ ขั้นตอนการดำเนินงานเริ่มจากการสำรวจพื้นที่ว่ามีสุนัขและ
แมวจำนวนเท่าใด จากนั้นจึงให้ความช่วยเหลือด้วยการฉีดวัคซีน ทำหมัน การสำรวจและทำข้อมูลประวัติสุนัขและ
แมวจรจัดในชุมชนรอบ
จุฬาฯ ให้บริการความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน
โรคพิษสุนัขบ้ารวมทั้งการดูแลสัตว์อย่างถูกต้อง ซึ่ง
นิสิตในชมรมฯ มีการแบ่งหน้าที่กันทำงานในส่วนต่างๆ เช่น ฝ่ายประสานงาน ฝ่ายดูแลสุขภาพสุนัขและ
แมว ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฯลฯ
“สมาชิกชมรมมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 50 คน ไม่รวม
นิสิตปี 1 โดยมี อ.สพ.ญ.ดร.จุฑามาศ เบญจนิรัตน์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ปีที่ผ่านมาเราสามารถทำหมันสุนัขและ
แมวจรจัดบริเวณอาคารสถาบัน 2 ได้เกือบ 100% โดยใช้วิธีการ TMR (Tap Mature Release) ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากสำนักบริหาร
ระบบกายภาพ
จุฬาฯ มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย มูลนิธิ SOS สานสายใยชีวิต เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ และโรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์
จุฬาฯ มีการหาบ้านให้ลูกสุนัขเพิ่งเกิด นำไปฉีดวัคซีน และคัดกรองผู้ที่สนใจจะนำลูกสุนัขไปเลี้ยงว่ามีความพร้อมหรือไม่” พงษ์ศิริ กล่าว
สำหรับโครงการในปีนี้ พงษ์ศิริ เผยว่าเน้นการลงพื้นที่สำรวจประชากรสุนัขและ
แมวจรจัดโดยเพิ่มพื้นที่ สำรวจในคณะเภสัชศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ หอพัก
นิสิตจุฬาฯ และสำนักงานวิทยทรัพยากร อาคารสถาบัน 2 อาคารสถาบัน 3 โดยจะประสานงานกับคณะและหน่วยงานดังกล่าว หลังจากนั้นจะประชาสัมพันธ์สู่สาธารณะเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของสุนัขและ
แมวใน
จุฬาฯ
“ประสบการณ์ที่ได้รับจากการทำงานในโครงการนี้ ทำให้ได้รับความรู้ในเรื่องการควบคุมประชากรสัตว์ ได้ฝึกทักษะในการจับบังคับสุนัขและ
แมว การป้อนยา การทำแผล ได้เรียนรู้การเข้าหาสัตว์ ที่สำคัญคือรู้สึกดีใจที่ได้หาบ้านให้น้องหมาน้อง
แมว อยากให้คนที่สนใจจะเลี้ยงสัตว์ขอให้ดูความพร้อม หาข้อมูลหรือปรึกษาสัตวแพทย์ก่อน และรับผิดชอบชีวิตเขาให้เต็มที่ให้ถึงที่สุด การรับเลี้ยงสุนัขและ
แมวจรจัดเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งจะเปลี่ยนชีวิตเราให้มีความรับผิดชอบในการดูแลสัตว์และช่วยให้สัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย” พงษ์ศิริ กล่าวแนะนำ