กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--AU Communication
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เร่งพัฒนาหลักสูตรหวังผลิตบัณฑิตเป็นนักเทคนิคการแพทย์คุณภาพของไทย ป้อนตลาดแรงงานทางการแพทย์ ในหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (เทคนิคการแพทย์) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานหลักสูตรจากสภาเทคนิคการแพทย์ด้วยดีมาตลอดระยะหลายปีจนเป็นที่ยอมรับเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสภาคณบดี 14 สถาบันที่ผลิตบัณฑิตเทคนิคการแพทย์คุณภาพของประเทศ และปัจจุบันได้รับการรับรองมาตรฐานระดับดีเด่นจากสภาเทคนิคการแพทย์โดยได้รับการยกเว้นการตรวจประเมินเป็นเวลา 5 ปีการศึกษา
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ลินดา เกณฑ์มา อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา กล่าวถึงนโยบายการผลิตบัณฑิตสู่เส้นทางนักเทคนิคการแพทย์ในครั้งนี้ว่า “เป็นที่น่ายินดีที่มหาวิทยาลัยจะเป็นแหล่งผลิตนักเทคนิคการแพทย์ที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นบุคลากรสำคัญทางการแพทย์ที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานและโลกปัจจุบันนี้อย่างมาก นับเป็นความสำเร็จอีกก้าวของมหาวิทยาลัย ด้วยความพยายามมุ่งสู่การเป็น Smart University ของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ที่มีการเรียนการสอนครบทั้งด้านวิทยาศาสตร์และศิลปะวัฒนธรรม นับแต่การก่อตั้งให้มีการสอนในสาขาวิชาเทคนิคการแพทย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 จนพัฒนาและได้รับการรับรองมาตรฐานหลักสูตรจากสภาเทคนิคการแพทย์ เป็นเวลา 5 ปีการศึกษา (2563-2567)”
ทั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. โชติช่วง พนโสภณกุล หัวหน้าภาควิชา วิทยาศาสตรบัณฑิต (เทคนิคการแพทย์) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้กล่าวถึงรายละเอียดของหลักสูตรว่า “ในวงการแพทย์ ยังมีบุคลากรวิชาชีพอีกหนึ่งกลุ่มที่จำเป็นและสำคัญมากในกระบวนการตรวจวินิจฉัยและวิเคราะห์ผลตรวจของคนไข้ ที่ปฏิบัติการอยู่ในห้องแล็บ ยิ่งในภาวะวิกฤติการระบาดของไวรัสและโรคอุบัติใหม่อย่างเชื้อไวรัสโคโรน่า -19 (COVID-19) ที่เพร่กระจายไปทั่วโลก ยิ่งทำให้ความต้องการของบุคลากรด้านเทคนิคการแพทย์มีความจำเป็นมากขึ้น ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ปรับปรุงหลักสูตรเพื่อสร้างมารตฐานสมรรถนะวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ สำหรับบัณฑิตจบใหม่ ในส่วนของมาตรฐานความรู้ความสามารถทางเทคนิคการแพทย์และมาตรฐานการฝึกงานใช้เป็นแนวทางการจัดการเรียนการสอน สำหรับสถาบันผลิตบัณฑิตเทคนิคการแพทย์และการจัดสอบเพื่อขอขึ้นทะเบียนใบประกอบวิชาชีพ โดยมีการปรับปรุงให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับวิทยาการก้าวหน้าและเทคโนโลยีนำสมัย ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาเทคนิคการแพทย์เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2560 ในการประชุมคณะกรรมการสภาเทคนิคการแพทย์ ครั้งที่ 3/2560 ให้ประกาศใช้ได้ ดังนี้
หลักการและเทคนิค นักศึกษาต้องประยุกต์ใช้ความรู้วิเคราะห์การทดสอบทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ได้การปฏิบัติตามหลักความปลอดภัย นักศึกษาสามารถปฏิบัติตามความปลอดภัยทางห้องปฏิบัติการ รวมทั้งความปลอดภัยต่อผู้ป่วย กับสิ่งตัวอย่าง จุลชีพก่อโรค สารเคมีและสารอันตรายต่าง ๆ รวมถึงขั้นตอนการกำจัดขยะติดเชื้อ ขจัดการปนเปื้อนจุลชีพ และการขจัดการปนเปื้อนสารเคมีและสารอันตรายต่าง ๆ ได้ขั้นตอนก่อนการวิเคราะห์ นักศึกษาต้องเก็บสิ่งตัวอย่างตามขั้นตอนการปฏิบัติ เก็บรักษาและตรวจวิเคราะห์ทางเทคนิคการแพทย์ได้ขั้นตอนการวิเคราะห์ นักศึกษาปฏิบัติงานในขั้นตอนต่าง ๆ แปลผลและแก้ไขปัญหาการควบคุมคุณภาพภายในได้อย่างปลอดภัย ทั้งต่อตนเอง ผู้อื่น และสิ่งแวดล้อมขั้นตอนหลังการวิเคราะห์ นักศึกษาสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดเก็บ วิเคราะห์และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของผลการทดสอบทางการแพทย์ได้ ติดตามและจัดการสิ่งตัวอย่าง ขยะติดเชื้อได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานจนถึงการทำลายในขั้นสุดท้ายได้การปฏิบัติตามกฎระเบียบ นักศึกษาเข้าใจและปฏิบัติตามนโยบาย ขั้นตอน และวิธีปฏิบัติของห้องปฏิบัติการได้อย่างเคร่งครัดระบบบริหารคุณภาพและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นักศึกษามีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. โชติช่วง กล่าวว่า “ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากวิสัยทัศน์ของท่านอธิการลินดาและคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยที่มองเห็นความสำคัญและให้การสนับสนุนหลักสูตรอย่างมาก รวมทั้งการทำงานเป็นทีมของคณาจารย์ในภาควิชา”
นอกจากนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. โชติช่วง ยังได้กล่าวถึงการปรับรูปแบบการเรียนการสอนของปีการศึกษา 2563 เพิ่มเติมด้วยว่า “เราเน้นให้นักศึกษาได้มีทั้งความรู้ และทักษะการปฏิบัติงาน ตลอดจนการสร้างเครือข่ายในโรงพยาบาลชั้นนำของรัฐทั่วประเทศ เพื่อให้นักศึกษาได้มีประสบการณ์ตรงในการฝึกปฏิบัติงานจริงในการทำงาน ได้สัมผัสกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง รวมถึงการพัฒนาด้านทักษะที่จำเป็นในการทำงานและการใช้ชีวิต อาทิ ด้านการทำงานเป็นทีม ทักษะการสื่อสาร การใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน และด้านภาษาต่างประเทศ เป็นต้น เมื่อจบการศึกษาก็สามารถเริ่มงานได้ทันที” นักเรียนและผู้ปกครองที่สนใจข้อมูลการศึกษาต่อสาขาวิชาเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 02-473-7000 ต่อ 3930 , 3931