สยามนิรมิต ...อัครการแสดง วิจิตร มหัศจรรย์

ข่าวทั่วไป Wednesday October 26, 2005 16:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
"สยามนิรมิต เมืองแห่งเทพ เมืองแห่งความสุข ร่มเย็น สยามประเทศแห่งความสงบ งดงามดั่งเทพเนรมิต" สยามนิรมิต อัครการแสดงระดับโลก ที่ผู้ชมจะได้สัมผัส 5 มิติจากการแสดง ได้แก่ ความยิ่งใหญ่ ความวิจิตรสวยงาม ความมหัศจรรย์ ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน และความทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมไทย ผลงานสร้างสรรค์ศิลปะการแสดงครั้งยิ่งใหญ่ โดย พัณณิน กิติพราภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รัชดานิรมิต จำกัด ด้วยงบลงทุนทั้งสิ้นกว่า 1,500 ล้านบาท ที่พร้อมเปิดแสดงแล้ว ณ โรงละครรัชดาแกรนด์เธียเตอร์ ถนนเทียมร่วมมิตร (เยื้องศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคมศกนี้ สามารถซื้อบัตรได้ที่ ไทยทิคเก็ตมาสเตอร์ ทุกสาขา และสยามนิรมิต โทร 0-2649-9233-4, 0-2649-9222 ต่อ 138-140 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
แรกสัมผัสถึงความเป็นสยามนิรมิต ณ บริเวณลานช้าง ที่บรรจงตกแต่งให้นักท่องเที่ยวได้ซึมซับบรรยากาศแห่งความเป็นไทย อิ่มท้องกับอาหาร "กินดี 4 ภาค" แบบเฮฟวี่ค็อกเทล ด้วยสำรับอาหารโบราณของแต่ละภาค พร้อมชมการแสดงเรียกน้ำย่อยซึ่งเป็นการแสดงประเภท Street Performance เช่น การแสดงยอยศพระลอ ประกอบเสียง synthesize ของดนตรีตะวันออกผสานกับตะวันตก หรือระหว่างบรรเลงของสล้อซอซึงของภาคเหนือ ก็จะมีเสียงเพลงพื้นเมืองน้อยใจยามาร่วมแจมอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีการแสดงวิถีชีวิตไทยทั้งในบ้าน บนบก และในน้ำ ภายในบริเวณหมู่บ้านไทย 4 ภาค อาทิ การทำเครื่องปั้นดินเผาที่ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ด้วยฝีมืออย่างละเอียดละออ ลองลิ้มชิ้มรสกับอาหารรสเลิศที่ปรุงกันสดๆ ภายในบริเวณบ้านสาธิตวิธีการทำหนังตะลุงที่เป็นมรดกศิลป์เลื่องชื่อของภาคใต้ น่าอัศจรรย์ใจนับตั้งแต่ก้าวแรกกับลักษณะวิถีไทย ซึ่งจะกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ที่จะเป็นแหล่งดึงดูดให้ชาวไทยและผู้คนต่างชาติต่างภาษาได้แวะเวียนมาชมกัน
หลังจากนั้นได้ฤกษ์เข้าชมสยามนิรมิต อัครการแสดงระดับโลก ภายในโรงละครรัชดาแกรนด์เธียเตอร์ที่นำความงดงามของศิลปวัฒนธรรมไทย และความเจริญรุ่งเรืองของประวัติศาสตร์ชาติไทยมาร้อยเรียงเรื่องราวนิรมิตให้มีชีวิต โลดแล่นบนเวทีขนาดมโหฬารที่มีความกว้าง 65 เมตร ลึก 40 เมตร กรอบเวทีสูง 12 เมตร หรือพื้นที่เวทีเท่ากับ 1 ใน 3 ของสนามฟุตบอล Wembly ของประเทศอังกฤษ วินาทีอัครการแสดงที่ยิ่งใหญ่ เริ่มด้วยเสียงกระหึ่มของกลองสะบัดชัยที่ผู้แสดงโชว์ลีลาพริ้วไหว ตามด้วยขบวนแห่นางรำ นางฟ้อนออกมาจากทั่วทุกสารทิศแต่งกายในชุดล้านนาสีสันสดใส เยื้องย่างขึ้นสู่เวทีขนาดยักษ์ ขณะนั้นภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าคือ อาณาจักรล้านนา ที่เห็นเค้าโครงลวดลายจากจิตรกรรมฝาผนังเรื่องสังข์ทอง วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับขบวนชาวล้านนา ตามเสด็จองค์มหาราชาร่วมงานบุญตามประเพณีลอยยี่เป็ง ต่อด้วยความรุ่งเรืองของทะเลใต้ ที่บ่งบอกความเป็นใต้ได้อย่างชัดเจน โดยลอยปาเต๊ะบนกรอบเวทีด้านบน พร้อมเรือสำเภาขนาดใหญ่เคลื่อนเข้ามากลางเวที หลังจากนั้นทุกท่านจะได้เพลิดเพลินกับมหรสพ และการละเล่นของชาวใต้ที่ผสมผสานกันอย่างกลมกลืนทั้งไทยพุทธและมุสลิม เชื่อมต่อด้วยฉากอีสาน ในบรรยากาศการเฉลิมฉลองอย่างอึกทึกครึกโครมที่มีบรรดาหนุ่มสาวอีสานร้องรำ เต้นระบำรำเซิ้งกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะจบฉากนี้ ยังได้เห็นความเร้นลับของนางอัปสราที่ยืนตระหง่านอยู่ภายในฉากปราสาทหิน ซึ่งปรากฏความวิริยะอุตสาหะของผู้ทำฉาก ที่มีภาพแกะสลักละเอียดเล่าเรื่องทั้งที่ทับหลังและหน้าบัน เสมือนหนึ่งผู้ชมได้เดินทางไปสู่ดินแดนในอดีตนี้จริงๆ ทันทีที่เสียงกระดิ่งระฆังแห่งเทวสถานบูชาเงียบลง ฉับพลันสายน้ำก็เอ่อท่วมจนเต็มลำธารแห่งดินแดนภาคกลาง การเปลี่ยนฉากกระทำได้อย่างรวดเร็วพร้อมพาผู้ชมย้อนเวลากว่าสามร้อยปีสู่กรุงศรีอยุธยาราชธานี มีท่าน้ำที่เห็นคนลงเล่นน้ำว่ายน้ำจริง การทำบุญใส่บาตร วิถีชีวิตริมน้ำของชาวนาสยามในฉากภาคกลาง โดยมีสายน้ำเป็นเอกลักษณ์ของอู่ข้าวอู่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ ตื่นตาตื่นใจกับการพายเรือในสายน้ำจริงๆ มีพิธีทำขวัญข้าวของชาวนาภาคกลาง ที่บันทึกเสียงโดยแม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง เสียงฟ้าร้องสั่นสะเทือน เทคนิคสายฟ้าผ่าที่แลบแปล๊บๆ เป็นประกายเจิดจ้าสะท้อนเข้าสายตา และเทคนิคที่ทำให้สายฝนกระหน่ำลงมาจริงๆ บนเวที สามารถเสกข้าวที่ปลูกไว้ให้ออกรวงได้ในพริบตา แถมท้ายด้วยขบวนเห่เรือพยุหยาตราที่วิจิตรตระการตา โดยช่วงขับคำหอมที่เลื่องชื่อครูแจ้ง คล้ายสีทอง ที่ขับเสภาเห่เรือได้อย่างไพเราะเพราะพริ้งจนผู้ชมรู้สึกขนลุกด้วยความประทับใจ
ผ่านอารยธรรมล้ำค่าของสยาม ก็ถึงช่วงแห่งจินตนาการขององก์ 2 ท่องไปในไตรภพ ด้วยการร่วมดำดิ่งสู่นรกภูมิ ภายใต้สีแดงเพลิงแห่งความน่าสะพรึงกลัวและหวาดเกรง ซึ่งผู้ชมสามารถสัมผัสได้ถึงไอความร้อน และตื่นตะลึงไปกับหิมพานต์ตำนานเร้นลับ ซึ่งเป็นดินแดนที่น่าพิศวงระหว่างสวรรค์และนรกในจินตนาการ สัมผัสกับความรื่นรมย์ของเหล่าสรรพสัตว์ ความลี้ลับของนารีผลต้นไม้ในตำนาน เชื่อมต่อฉากได้อย่างแนบเนียนโดยนางมณีเมขลา ที่ใช้ลูกแก้วเรืองรอง หลอกล่ออสูรเทพรามสูร ที่ไล่ตามเพื่อแย่งชิงลูกแก้ว ล่องลอยทะยานขึ้นท้องฟ้าสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ในฉากนี้มีการใช้เทคนิคสไปเริลลิฟต์ที่ลงทุนด้วยงบกว่า 30 ล้านที่ช่วยเนรมติฉากสวรรค์วิมานไพชยนต์ให้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าผู้ชมได้อย่างรวดเร็ว ด้วยคุณสมบัติพิเศษของสไปเริลลิฟต์ที่สามารถยืดตัวสูงถึง 7 เมตร รวมทั้งยังรับน้ำหนักในระหว่างที่ยืดตัวสูงขึ้นได้ถึง 17,550 กิโลกรัม โดยใช้ระยะเวลาในการยกฉากไม่ถึง 1 นาที พร้อมฟังเหล่าคนธรรพ์ขับกล่อมด้วยสารพันดนตรี เพลิดเพลินสบายตากับเหล่าเทพยดา และนางฟ้าทั้งหลาย ซึ่งมีอินทิราเป็นเทพยดาสูงสุด การให้สีสันสว่างสดใสสบายตาของฉากสวรรค์นี้ ผู้ชมรู้สึกตัวเบาเหมือนนุ่น เสมือนล่องลอยอยู่ในสรวงสวรรค์ด้วย
หลังอัศจรรย์ใจกับการย้อนรอยประวัติศาสตร์ และท่องโลกจินตนาการแล้ว ด้วยความเชื่อที่ว่าทำดีได้ไปสวรรค์ ชนชาวสยามจึงมีประเพณีงานบุญมากมาย การแสดงช่วงนี้เป็นกิจกรรมต่างๆ เทศกาลรื่นเริงคล้ายๆ กับคาร์นิวัล นำเสนอประเพณีชาวสยาม อาทิ ปอยส่างลองของชาวไต ประเพณีบวชนาค ที่มีการแต่งกายสวยงามในชุดแบบพระเกียรติพระยศบนเสลี่ยงของท้องถิ่นต่างๆ การแห่เทียนพรรษา รดน้ำงานสงกรานต์ แห่ผีตาโขน จองพารา และตระการตากับนางนพมาศในกระทงขนาดยักษ์ ในงานประเพณีลอยกระทงที่สุโขทัย ที่มีการลอยกระทงเทียนอธิษฐานบนสายน้ำที่เอ่อล้นเต็มตลิ่งในวันเพ็ยเดือนสิบสองบนเวทีจริง ปิดท้ายด้วยการบรรเลงดนตรีที่สนุกสนาน ของบนเพลงฟินาเล่แห่งสยามนิรมิต
แม้ว่าตลอดช่วงเวลา 80 นาทีของการแสดง จะไม่มีบทพูด แต่ด้วยลำดับเสียงอันไพเราะของทำนองดนตรี ที่มีทั้งเร้าใจสลับกับดนตรีที่ฟังเพลิดเพลินสนุกสนาน เพลงประกอบบรรยากาศที่กลมกลืนกันได้อย่างลงตัว ผสนผสานกับภาพและฉากอันวิจิตร มหัศจรรย์ต่างๆ ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ก็สามารถเพิ่มสีสันและสร้างสุนทรียภาพให้ผู้ชมตลอดการแสดง
สยามนิรมิต...ผลงานศิลปะที่หาดูไม่ได้เด็ดขาดในพ.ศ.นี้ ช่วยสร้างคุณค่าทางจิตใจให้ชาวไทยร่วมภาคภูมิใจกับศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกก็จะต้องตื่นตะลึงกับการแสดงชุด "สยามนิรมิต" และเก็บความประทับใจกลับไปอย่างมิรู้ลืม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร. 0-2434-8300, 0-2434-8547
สุจินดา, แสงนภา, ปนัดดา--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ