บีแลนด์ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 48

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 23, 2020 13:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--อินสไปร์ คอมมิวนิเคชั่นส์ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 นำโดย นายปีเตอร์(ซุยฮัง) กาญจนพาสน์ รองประธานกรรมการบริษัท และกรรมการบริหาร รายงานผลประกอบการที่เติบโตขึ้นตามลำดับโดยเตรียมจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นบางกอกแลนด์ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท ซึ่งลดลงร้อยละ 33.3 จากปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริษัทได้จ่ายเป็นเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท และเงินปันผลส่วนที่เหลืออีกจำนวนหุ้นละ 0.02 บาท นั้น คณะกรรมการบริษัทจะได้เสนอเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 48 ในวันนี้ โดยรายงานในปีนี้นับเป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทายเป็นอย่างมาก โดยสาเหตุหลักมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจทั่วโลกอันเกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-19 ทำให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจหลายภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการ บีแลนด์ จึงยังมั่นใจว่าจะพาธุรกิจเติบโตอีกต่อไปอย่างแน่นอน นายปีเตอร์ (ซุยฮัง) กาญจนพาสน์ รองประธานกรรมการบริษัท และกรรมการบริหาร บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ได้ถือครองหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อิมแพ็ค โกรท เป็นจำนวน 741,250,000 หน่วย บันทึกต้นทุนสุทธิที่ 10.60 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่า 7,857 ล้านบาท ซึ่งได้แสดงไว้ในรายงานประจำปีฉบับนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 ราคาปิดของราคาตลาดต่อหน่วยเป็น 14.60 บาท หรือเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนร้อยละ 37.7 รวมถึงบริษัทได้ทำการขายที่ดิน (ศรีนครินทร์) ให้กับบุคคลที่ไม่มีความเกี่ยวโยงกัน เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 14,953 ล้านบาท ซี่งได้ทำการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเรียบร้อยไปแล้วเป็นจำนวนรวม 13,815 ล้านบาท คงเหลือส่วนที่ต้องทำการโอนกรรมสิทธิ์อีกคิดเป็นมูลค่า 1,138 ล้านบาท” นายปีเตอร์ กล่าว “จากเหตุการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-19 ครั้งนี้ ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก จากที่รัฐบาลได้ประกาศระงับการดำเนินกิจการในหลาย ๆ ธุรกิจ เพื่อช่วยระงับและควบคุมการแพร่ระบาด ในส่วนของศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค ได้ปิดทำการตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม และเพิ่งได้เปิดให้บริการโดยมีข้อจำกัดต่าง ๆ อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา ธุรกิจค้าปลีกหลายแห่งได้รับคำสั่งให้ปิดหรือเปิดดำเนินด้วยขอบเขตที่จำกัด จึงทำให้เกิดการลดลงของรายได้ของบริษัท อาทิ การให้เช่าของ คอสโม บาซาร์ บีไฮฟ ช้อปปิ้ง มอลล์ สำนักงานคอสโม และอาคารบางกอกแลนด์ เป็นต้น เช่น เดียวกับโรงแรม โนโวเทล อิมแพ็ค กรุงเทพ ที่มีการดำเนินงานลดลงจนถึงระดับต่ำสุด และโรงแรม ไอบิส อิมแพค กรุงเทพ ก็ปิดให้บริการตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม เช่นกัน” นายปีเตอร์ กล่าวเสริม ผลประกอบการ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 กลุ่มบริษัทได้รายงานผลกำไรรวมจากการดำเนินธุรกิจปกติเป็นจำนวน 988 ล้านบาท และ กำไรสุทธิหลังหักรายการพิเศษและภาษีเป็นจำนวน 1,217 ล้านบาท ฐานะการเงินของกลุ่มบริษัทมีการเติบโตอย่างแข็งแรง ดังมีรายละเอียดยืนยันต่อไปนี้ มูลค่าสินทรัพย์สุทธิหลังปรับปรุงลดลง 1.2% เป็น 49,481ล้านบาท (ปี 2562 - 50,068 ล้านบาท)มูลค่าสินทรัพย์สุทธิหลังปรับปรุงต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 5.9% เป็น 2.85 บาทต่อหุ้น (ปี 2562 - 2.69 บาทต่อหุ้น)กำไรสุทธิในส่วนของบริษัทใหญ่ลดลง 33.0% เป็น 1,217 ล้านบาท (ปี 2562 - 1,816 ล้านบาท)กำไรต่อหุ้นลดลง 28.6% เป็น 0.070 บาท (ปี 2562 - 0.098 บาทต่อหุ้น)สินทรัพย์รวมลดลง 1.6% เป็น 63,224 ล้านบาท (ปี 2562 - 64,222 ล้านบาท)ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง 2.3% เป็น 45,767 ล้านบาท (ปี 2562 - 46,822 ล้านบาท) “ตามที่ได้กล่าวไว้เบื้องต้น สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-19 บริษัทจะยังคงใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากต่อการลงทุนในอนาคตจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น บริษัทจะมุ่งจัดการเกี่ยวกับสินค้าที่ยังคงมีค้างอยู่ และปรับปรุงสถานที่เช่าที่บริษัทมีอยู่ในหลายโครงการเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม บริษัทดำเนินการจัดสร้าง โครงการ “คอสโม วอล์ค” ได้เสร็จสมบูรณ์ที่สามารถเดินเชื่อมลอยฟ้าโดยใช้บันไดเลื่อนที่เชื่อมต่อกับ คอสโม บาซาร์ และอาคารสำนักงาน คอสโม ไปยังโรงแรม ไอบิส กรุงเทพ อิมแพ็ค และ อาคารแสดงสินค้าอิมแพ็คได้ ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านค้าแบรนด์เนมชั้นนำ เช่น ร้านแฟคตอรี่ เอาท์เลท ไนกี้ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ร้านเสื้อผ้า เอทูแซด ร้านดูโฮม และมิสเตอร์ ดีไอวาย เป็นต้น ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่า คอสโม วอล์ค จะเป็นส่วนเพิ่มความ สะดวกสบายอย่างมากแก่ลูกค้าในการเข้าเยี่ยมชมที่ อิมแพ็ค และคอสโม บาซาร์ ในอนาคต ภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบันที่ไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางการเมือง ผมคาดว่าเป็นอีกปีหนึ่งที่ยากลำบากของเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม จากการปลอดภาระหนี้สินใด ๆ และฐานะทางการเงินที่มั่นคงของเรา รวมถึง การดำเนินธุรกิจ ต่อเนื่องไปอย่างเข้มแข็งของบริษัท จะทำให้บีแลนด์ยังคงสามารถยืนหยัดอยู่ได้ท่ามกลางแรงกดดันและสิ่งท้าทายต่าง ๆ อันอาจเกิดขึ้นจากความสับสนวุ่นวายทางการเมืองและความไม่แน่นอนอื่น ๆ สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา-19” นายปีเตอร์ กล่าวสรุป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ