กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
หากพูดถึง ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เชื่อว่าคนรักรถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่จะนึกถึงรถจักรยานยนต์ที่เป็นสไตล์คลาสสิกอันเลื่องชื่อของแบรนด์และเพื่อตอกย้ำหัวใจในการทำงานของไทรอัมพ์ที่ต้องการมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวยคลาสสิกร่วมสมัยเข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถและสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบตามสโลแกน “FOR THE RIDE” ครั้งนี้จะพาทุกคนไปชมรถจักรยานยนต์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิกที่มีจำหน่ายในประเทศไทยกันว่ามีรุ่นอะไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนรักรถจักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิกที่กำลังมองหารถคู่ใจเอาไว้ครอบครอง
“ไทรอัมพ์ ทรักซ์ตัน อาร์เอส cafe racer ในตำนาน”
ประเดิมกันที่รถสไตล์ cafe racer ในตำนานตัวจริงเสียงจริงสุดเร้าใจอย่าง “ทรักซ์ตัน อาร์เอส” (Thruxton RS) ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซีซี ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มอบความสมดุลที่ลงตัวระหว่างสไตล์อันโดดเด่น สมรรถนะสุดเร้าใจ การบังคับที่ยอดเยี่ยม และขีดความสามารถระดับชั้นนำที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อให้สมกับสไตล์อันดุดันและงามสง่า เป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของตำนานรถจักรยานยนต์เจ้าสนามแข่งของไทรอัมพ์อย่างแท้จริง
“ไทรอัมพ์ สตรีท สแครมเบลอร์” โมเดิร์นคัสตอม Scrambler พร้อมภาพลักษณ์สไตล์ออฟโรด
ส่วนใครเป็นสายคลาสสิกแต่ก็ชื่นชอบรถจักรยานยนต์ที่สามารถลุยด้วยได้ ต้องไม่พลาดสไตล์อันงดงามของ ”สตรีท สแครมเบลอร์” (Street Scrambler) รถจักรยานยนต์ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 900 ซีซี ความเป็นโมเดิร์นคลาสสิกแบบวิถีชีวิตในเมืองที่โดดเด่น แต่พร้อมลุยบนเส้นทางที่แบบออฟโรด รวมทั้งความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งทำให้รถรุ่นนี้มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งใน มอเตอร์ไซค์ที่ทั้งขี่ง่ายและมีสไตล์
“ไทรอัมพ์ สแครมเบลอร์ 1200 ขับขี่สนุกเร้าใจทั้งบนถนน และทางวิบากยกระดับไปอีกขั้นด้วยมาตรฐานใหม่ในด้านความสามารถและความมีสไตล์ของรถจักรยานยนต์สแครมเบลอร์กับ “สแครมเบลอร์ 1200 เอ็กซ์ซี” (Scrambler 1200 XC) และ “สแครมเบลอร์ 1200 เอ็กซ์อี” (Scrambler 1200 XE) สุดยอดการผสมผสานของเครื่องยนต์ขุมพลังสูบคู่ 1,200 ซีซี เข้ากับเทคโนโลยีสนับสนุนผู้ขี่ที่ล้ำสมัยระดับแนวหน้า สไตล์การตกแต่งแบบโมเดิร์นคัสตอมสุดงดงาม และ DNA การดีไซน์แบบดั้งเดิมที่ดีที่สุด พร้อมไปกับคุณในทุกสภาพถนน
ให้คุณสามารถบุกตะลุยบนทางวิบากได้อย่างมั่นใจและมีสไตล์
“ไทรอัมพ์ สตรีท ทวิน” สไตล์ต้นแบบที่โดดเด่นเหนือกาลเวลา
“สตรีท ทวิน” (Street Twin) รถจักรยานยนต์อันเป็นจิตวิญญาณแห่งการสร้างแรงบันดาลใจของบอนเนวิลล์รุ่นดั้งเดิมปี 1959 ที่ยังคงถูกสานต่อมาถึงปัจจุบัน โดยได้รับการรังสรรค์ด้านสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ขนาด 900 ซีซีที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์สวยงามขึ้นและขี่สนุกยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือรถคัสตอมคลาสสิกที่ประสบความสำเร็จที่สุด เหมาะสำหรับนักขี่ที่ต้องการใส่ความเป็นตัวของตัวเองต่อยอดจากคุณลักษณะสายพันธุ์แท้ของรถโมเดิร์นคลาสสิก ซึ่งโด่งดังไปทั่วโลกจากสมรรถนะที่รอบด้านประโยชน์ใช้สอยสูง ขี่ง่าย ขี่สนุก และสไตล์ต้นแบบที่โดดเด่นเหนือกาลเวลา
“ไทรอัมพ์ สปีด ทวิน” มาตรฐานใหม่ของการขับขี่แบบไดนามิก
ส่วน “สปีด ทวิน” (Speed Twin) ตำนานรถจักรยานยนต์ที่หวนกลับมาสู่ไทรอัมพ์อีกครั้ง ถือเป็นรถจักรยานยนต์โฉมใหม่สุดเร้าใจที่เกิดจากการผสมผสานขีดความสามารถแบบโมเดิร์นคัสตอมสมัยใหม่ เข้ากับ DNA ที่โดดเด่นเหนือกาลเวลาของไทรอัมพ์ โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ด้านขีดความสามารถการขับขี่แบบไดนามิก มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซีซี ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีสนับสนุนผู้ขี่ขั้นสูง พร้อมสมรรถนะและสัมผัสแบบโรดสเตอร์สุดล้ำสมัย
“ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์” คุณลักษณะเฉพาะตัว แฝงด้วย DNA ตามแบบฉบับของ Bonneville รุ่นแรก
และหากพูดถึงรถจักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิกอันเป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์ ทุกคนต้องคุ้นเคยย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น “บอนเนวิลล์ที 100” (Bonneville T100) และ “บอนเนวิลล์ ที100 แบล็ค” (Bonneville T100 Black) ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบในการทำความรู้จักกับรถคลาสสิกตระกูล Bonneville ด้วยเอกลักษณ์ของต้นแบบขนานแท้ที่ได้รับบันดาลใจมาจาก Bonneville รุ่นต้นแบบปี 1959 มาพร้อมเครื่องยนต์ 900 ซีซี ซึ่งให้แรงบิดที่สูง ประหยัดน้ำมันอย่างดีเยี่ยมและมีเสียงท่อที่ทุ้มกระหึ่ม โดยเป็นรถจักรยานยนต์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิกที่มีคุณลักษณะเฉพาะตัวซึ่งแฝงด้วย DNA ตามแบบฉบับของบอนเนวิลล์รุ่นแรก
“ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ ที120” ต้นแบบที่ล้ำสมัยเหนือกาลเวลา สู่การวิวัฒนาการอย่างงดงาม
ส่วนใครที่ชอบรุ่นใหญ่ขึ้นมาอีกระดับต้องลอง “บอนเนวิลล์ ที120” (Bonneville T120) และ “บอนเนวิลล์ ที120 แบล็ค” (Bonneville T120 Black) ด้วยแรงบันดาลใจจากภาพลักษณ์แบบดั้งเดิมและความงามของต้นแบบบอนเนวิลล์ ทำให้ทั้ง 2 รุ่น ได้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้งในยุคสมัยใหม่ โดยมาพร้อมวิวัฒนาการด้านสมรรถนะด้านเครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซีซี ผสานเทคโนโลยีและขีดความสามารถที่ทันสมัยในขณะที่ยังคงมีสไตล์และคุณลักษณะแท้ ๆ แบบสัญชาติอังกฤษของบอนเนวิลล์อยู่อย่างครบครัน ถือเป็นต้นแบบรถจักรยานยนต์อย่างไร้ข้อกังขา รถรุ่นนี้จึงเป็นที่รักของเหล่านักขี่ทุกวัยและทุกประเภททั่วโลก
“ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ ที120 บัด อีคินส์” และ “ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ ที100 บัด อีคินส์” 2 รุ่น สเปเชียล อิดิชัน ระดับตำนาน
สำหรับสาวกรถไทรอัมพ์สายโมเดิร์นคลาสสิก ที่ชอบความเหนือระดับไปอีกขึ้น ต้องไม่พลาดถรุ่นสเปเชียล อิดิชัน ระดับตำนาน 2 รุ่น ได้แก่ “บอนเนวิลล์ ที120 บัด อีคินส์” (Bonneville T120 BUD EKINS) และ “บอนเนวิลล์ ที100 บัด อีคินส์” (Bonneville T100 BUD EKINS) ที่ถูกออกแบบขึ้นเป็นรุ่นพิเศษ เพื่อแสดงความชื่นชมในความสำเร็จของ Bud Ekins ตำนานแห่งวงการรถจักรยานยนต์อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นทั้งสตันท์แมนระดับเทพ นักแข่งโมโตครอสและนักขี่ข้ามทะเลทรายชั้นแนวหน้า โดย 2 รุ่นพิเศษนี้ สร้างความแตกต่างด้วย 2 โทนสีสุดโดดเด่น ขาวและแดง ที่มีการลงลายเส้นด้วยมือ และตราสัญลักษณ์ไทรอัมพ์แบบดั้งเดิมซึ่งถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกสำหรับการผลิตแบบเต็มรูปแบบสมัยใหม่ของไทรอัมพ์ พร้อมด้วยการออกแบบตัวถังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์แคลิฟอร์เนีย ซึ่งมาพร้อมกับตราโลโก้ “Flying globe” ในสไตล์แคลิฟอร์เนียสุดโดดเด่น รวมถึงโลโก้บ่งบอกความพิเศษของรุ่น Bonneville “Bud Ekins” สุดโดดเด่นบนแผงด้านข้าง
“ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์” รถจักรยานยนต์รุ่นที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ไทรอัมพ์ และ “ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค” ดุดันขึ้นด้วยสีดำล้วนสุดพรีเมี่ยม
ต่อกันด้วยรุ่นคลาสสิกสวยสะกดทุกสายตาที่คุณจะต้องหลงใหลตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นอย่าง “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์” (Bonneville Bobber) และ “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค” (Bonneville Bobber Black) รถจักรยานยนต์คัสตอมคลาสสิกสายพันธุ์แท้ที่ผสมผสานการออกแบบทางวิศวกรรมสุดหรูเข้ากับเทคโนโลยีและขีดความสามารถระดับชั้นนำของกลุ่ม รวมทั้งรูปแบบการขี่และเสียงแบบ hot rod สุดเร้าใจ หัวใจสำคัญของรถจักรยานยนต์ทั้งสองรุ่นคือเครื่องยนต์แรงบิดสูงสุดเร้าใจขนาด 1200 ซีซี พร้อมการปรับแต่งแบบ Bobber อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
“ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” คัสตอมสุดคลาสสิก ผสานความหรูหรา
ปิดท้ายกันที่ “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” (Bonneville Speedmaster) ด้วยภาพลักษณ์คัสตอมสุดคลาสสิก ที่มีความสวยงามตามแบบสัญชาติอังกฤษอย่างแท้จริง มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1200 ซีซี และคุณสมบัติของเบาะนั่งที่สะดวกสบายจึงสามารถมอบประสบการณ์ขี่รถ Cruiser ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้คุณได้ อีกทั้งเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงที่มีไว้เพื่อสนับสนุนผู้ขี่โดยเฉพาะ เพื่อมอบการบังคับรถความสะดวกสบายและการควบคุมในระดับที่เหนือชั้น ผสมผสานกับวิศวกรรมที่หรูหรา ตลอดจนการออกแบบและผลิตอย่างดงามพิถีพิถัน มีการตกแต่งรายละเอียดต่างๆ ในระดับพรีเมี่ยมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ทั้งนี้ เพื่อตอบรับกระแสความนิยมรถมอเตอร์ไซค์ตระกูลโมเดิร์นคลาสสิกอันเป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์ อีกทั้งเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น ไทรอัมพ์ ได้ประกาศปรับลดราคารถมอเตอร์ไซค์ตระกูลโมเดิร์นคลาสสิกทั้งหมด 16 รุ่น สูงสุดถึง 6 หมื่นบาท นอกจากนี้ พิเศษสำหรับผู้ที่จองรถไทรอัมพ์ภายในงานมอเตอร์โชว์ จะได้รับข้อเสนอดอกเบี้ยสุดพิเศษเฉพาะในงาน อีกทั้งได้รับ Triumph Survival Kit Limited Edition
สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมไทรอัมพ์ ทั้ง13 แห่งทั่วประเทศ หรือต้องการข้อมูลติดต่อ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เว็บไซต์ www.triumphmotorcycles.co.th ตลอดจนติดตามข่าวสาร และกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand
เกี่ยวกับ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์:
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1902 มีพนักงานทั่วโลกราว 2,000 คน มีบริษัทสาขาทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน กลุ่มประเทศเบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย และไทย ซึ่งทางบริษัทเข้ามาทำการตลาดและจัดจำหน่ายในนาม บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งแต่ปี 2015 และมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 620 รายทั่วโลก บริษัทฯ มีฐานการผลิตจักรยานยนต์เต็มรูปแบบ 2 แห่งที่ฮิงค์ลีย์ เขตเลสเตอร์ไซร์ ประเทศอังกฤษ และที่ประเทศไทย รวมทั้งมีโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์แบบ CKD (Completely Knocked Down) ในประเทศบราซิล และประเทศอินเดีย ปัจจุบันมีการผลิตรถจักรยานยนต์ราว 65,000 คันต่อปี โดยหัวใจหลักในการทำงานของ ไทรอัมพ์ คือ การมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวย คลาสสิก ร่วมสมัย เข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถ และสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ