กรุงเทพฯ--30 ก.ค.--
นายสิทธิพร ปานใจ ผู้อำนวยการกลุ่มจัดตั้งและส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ จัดโครงการสัมมนาการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยนำผู้แทนสหกรณ์ ในเขตกรุงเทพฯ ที่อยู่ในการดูแล จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์เคหสถานคลองลัดภาชีร่วมพัฒนา จำกัด สหกรณ์เคหสถานศิรินทร์และเพื่อน จำกัด สหกรณ์การเกษตรภาษีเจริญ จำกัด สหกรณ์บริการอิสลามเนียะมะตุลลอฮ์ จำกัด และสหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์ จำกัด เดินทางไปเยี่ยมชมการดำเนินงานศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านสารภี อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อศึกษาเรียนรู้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อส่งเสริมให้ผู้แทนสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ได้ นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการศึกษาดูงานครั้งนี้กลับไปวางแผนการประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงทั้งระดับองค์กรและถ่ายทอดให้กับสมาชิกของตนเอง
ทั้งนี้ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านสารภี ก่อตั้งโดยนายสุชล สุขเกษม ซึ่งใช้เนื้อที่เพียง 1 ไร่ และรู้จักวางแผนการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างคุ้มค่า สร้างทุกสิ่งให้มีคุณค่า ไม่มีการทิ้ง และอนุรักษ์พลังงาน พร้อมทั้งสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงให้แก่เด็กและเยาวชนได้เดินทางเข้ามาศึกษาหาความรู้และฝึกปฏิบัติจากของจริง จุดเด่นของศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านสารภี คือ การเลี้ยงไก่ไข่ในตะกร้า และการเลี้ยงไก่ชิงช้าสวรรค์ ซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวในประเทศ และได้แบ่งพื้นที่ 1 ไร่ ออกเป็นส่วน ๆ พร้อมทั้งสร้างเป็นฐานการเรียนรู้ 60 ฐานอาทิ การเลี้ยงปลาในร่องสวน การเลี้ยงกบและปลาดุกในบ่อปูนซีเมนต์ เลี้ยงกุ้งในกระชัง เลี้ยงไก่หลุม เป็ดหลุม เลี้ยงไก่แบบตะกล้าแขวนกับต้นไม้ ไก่ชิงช้าสวรรค์ มูลไก่เป็นปุ๋ยไปในตัว อีกทั้งยังประหยัดพลังงานครัวเรือน โดยการนำมูลเป็ด และไก่ ไปหมักเป็นก๊าชชีวภาพ ใช้ในการหุงต้มในครัวเรือน การผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ทำน้ำส้มควันไม้ และการเกษตรด้านต่าง ๆ สร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 2 แสนบาทต่อปี ทำให้คุณสุชลได้รับการกล่าวขานเป็น “ปราชญ์เกษตร” ของท้องถิ่น ซึ่งการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 ในครั้งนี้ เป็นการส่งต่อความรู้และถ่ายทอดแนวคิดให้กับผู้แทนสหกรณ์ต่าง ๆ ได้รู้จักน้อมนำหลักเศรษฐกิจมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต และการประกอบอาชีพ เพื่อให้ทุกคนสามารถพึ่งพาตนเองได้ และนำความรู้จากการดูงานไปเสริมสร้างรายได้ที่มั่นคงต่อไป