กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--เมืองไทย แคปปิตอล
บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล จับมือธนาคารออมสิน ลงนามเซ็นสัญญาเงินกู้ซอฟท์โลน มูลค่า 4,958 ล้านบาท เพิ่มสภาพคล่อง เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค Covid-19 ฟาก"ชูชาติ เพ็ชรอำไพ" ประธานกรรมการบริหาร ประเมินธุรกิจครึ่งปีหลังแนวโน้มดี ความต้องการสินเชื่อกลับสู่ภาวะปกติ มั่นใจหนุนผลงานปี 63 เติบโตตามเป้าหมาย
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า บริษัทฯร่วมกับธนาคารออมสิน (GSB) ลงนามเซ็นสัญญาเงินกู้ซอฟท์โลน มูลค่ารวม 4,958 ล้านบาท เพื่อนำไปช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ( Covid-19) ได้เต็มที่ โดยปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ช่วยเหลือลูกค้าที่เข้ามาตรการพักชำระหนี้ไปมากกว่า 140,000 ราย และลูกค้าที่ขอลดการชำระค่างวดอีกกว่า 80,000 ราย
สำหรับลูกค้ากลุ่มดังกล่าว เป็นกลุ่มลูกค้าที่ดีของบริษัทฯเสมอมา เมื่อสถานการณ์โรคไวรัส Covid-19 เริ่มคลี่คลายแล้ว เชื่อว่าลูกค้ากลุ่มดังกล่าวกลับมามีความสามารถในการชำระหนี้ได้ตามปกติในเดือนกรกฎาคม 2563 ทำให้ไม่ก่อให้เกิดเป็นหนี้เสีย (NPL) ตามมาในภายหลัง
"ปัจจุบัน บริษัทฯได้มีการตั้งสำรองอย่างเพียงพอและเหมาะสมตามมาตรฐาน TFRS 9 ทำให้มีอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพสูงเกินกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงทางการเงินและแข็งแกร่งอย่างมาก บริษัทฯประเมินว่าความต้องการสินเชื่อน่าจะเริ่มกลับมาเป็นปกติได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2563 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้"
ประธานกรรมการบริหารอีกว่า นอกจากมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าในการผ่อนผันเรื่องการชำระแล้ว ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังได้คืนกำไรให้แก่ลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นพิเศษ ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 4 เป็นระยะเวลา 3 เดือน เหลือเพียง 22% คือ ตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 อีกด้วย
ในด้านการทำงานเพื่อสังคมนั้น ประธานกรรมการบริหารและกรรมผู้จัดการ ร่วมกับบริษัทฯ ได้บริจาคเงินมูลค่า 60 ล้านบาทให้แก่ โรงพยาบาล 7 แห่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร ที่ต้องดูแลรักษาผู้ป่วย Covid-19 และบริจาคอีก 50 ล้านบาทให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดสุโขทัยเพื่อเป็นการตอบแทนชุมชน รวมถึงบริจาคถุงยังชีพอีกกว่า 200,000 ชุด มูลค่ารวม 60 ล้านบาท ให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทั่วประเทศผ่านทางกระทรวงมหาดไทยตามหนังสือเชิญชวนของท่านนายกรัฐมนตรี