กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงาน เกิดน้ำไหลหลากจากอิทธิพลพายุ "ซินลากู" (SINLAKU) ในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ น่าน อุตรดิตถ์ ลำปาง พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ พิษณุโลก เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี นครพนม และกาฬสินธุ์ รวม 32 อำเภอ 72 ตำบล 284 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,689 ครัวเรือน เสียชีวิต 3 ราย (หนองบัวลำภู พิษณุโลก อุดรธานี) บาดเจ็บ 1 ราย (พิษณุโลก) พื้นที่การเกษตรเสียหาย 38,190 ไร่ ปลาในกระชัง 20 ตัน ภาพรวมระดับน้ำลดลงทุกพื้นที่ ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลพายุ "ซินลากู" (SINLAKU) ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน (4 ส.ค.63 เวลา 06.00 น.) ส่งผลให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำไหลหลาก รวม 13 จังหวัด 32 อำเภอ 72 ตำบล 284 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,689 ครัวเรือน เสียชีวิต 3 ราย (หนองบัวลำภู พิษณุโลก อุดรธานี) บาดเจ็บ 1 ราย (พิษณุโลก) พื้นที่การเกษตร 38,190 ไร่ ปลาในกระชัง 20 ตัน ดังนี้ ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ น่าน เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่อำเภอเมืองน่าน อำเภอภูเพียง อำเภอนาน้อย อำเภอเวียงสา อำเภอปัว อำเภอบ้านหลวง และอำเภอท่าวังผา รวม 16 ตำบล 53 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 668 ครัวเรือน อุตรดิตถ์ ในพื้นที่อำเภอฟากท่า และอำเภอน้ำปาด รวม 4 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 371 ครัวเรือน ลำปาง ในพื้นที่อำเภอวังเหนือ อำเภอแจ้ห่ม และอำเภอเมืองปาน รวม 10 ตำบล 34 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 30 ครัวเรือน พะเยา ในพื้นที่อำเภอปง อำเภอเชียงม่วน และอำเภอเมืองพะเยา รวม 7 ตำบล 10 หมู่บ้าน เชียงราย ในพื้นที่อำเภอเวียงป่าเป้า รวม 7 ตำบล 93 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 10,372 ครัวเรือน เชียงใหม่ ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน แพร่ ในพื้นที่อำเภอเมืองแพร่ และอำเภอสอง รวม 4 ตำบล 13 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 10 ครัวเรือน พิษณุโลก ในพื้นที่อำเภอนครไทย รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ เลย เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่อำเภอเมืองเลย อำเภอเชียงคาน อำเภอปากชม และอำเภอนาด้วง รวม 9 ตำบล 37 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 795 ครัวเรือน หนองบัวลำภู ในพื้นที่อำเภอนากลาง และอำเภอนาวัง รวม 5 ตำบล 15 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 250 ครัวเรือน อุดรธานี ในพื้นที่อำเภอนายูง อำเภอน้ำโสม และอำเภอบ้านผือ รวม 5 ตำบล 13 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 190 ครัวเรือน นครพนม ในพื้นที่อำเภอบ้านแพง รวม 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 3 ครัวเรือน กาฬสินธุ์ ในพื้นที่อำเภอนาคู และหนองกุงศรี รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน
สถานการณ์ในภาพรวมระดับน้ำลดลงทุกพื้นที่ ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือน เป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม การจ่ายเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป