กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
วายแอลจี เผยเดือนก.ค. ทองคำพุ่ง11% มองยังมีโอกาสไปต่อ แม้ราคาทองพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ส่งผลคนแห่ขายทองแต่ไม่ฉุดราคาทองร่วง เหตุ SPDR กองทุนขนาดใหญ่ยังคงเก็บทองคำเข้าพอร์ต ชี้ปัจจัยหนุนทองยังแน่น ทั้ง COVID-19 และความขัดแย้งจีน-สหรัฐ ล่าสุดโกลแมน แซคส์มองเป้าหมายทองปีหน้าแตะ 2,300 ดอลลาร์ ส่วนในประเทศพบตลาดทองสุดคึกคักนักลงทุนหน้าใหม่ตบเท้าเข้าลงทุนแน่น ทั้งจากกลุ่มที่ลงทุนในหุ้นและกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 สำหรับคำแนะนำลงทุนทองคำ มองแนวรับ1,939-1,906 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแนวต้านมองที่1,988-2,000ดอลลาร์ต่อออนซ์
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่า ราคาทองคำทั้งในตลาดโลกและในประเทศปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาผลตอบแทนทองคำในเดือนก.ค.เพียงเดือนเดียว พบว่าราคาทองคำปรับตัวขึ้นมากถึง 11% และปรับตัวขึ้นต่อในเดือน ส.ค. โดยล่าสุดปีนี้ราคาทองคำในตลาดโลกทำสติถิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 1,987.77 ดออลาร์ต่อออนซ์เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหากนับจากต้นปีพบว่าราคาทองคำปรับขึ้นมาแล้วประมาณ 30% ซึ่งการปรับตัวขึ้นมาในปีนี้ถือว่าเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับการเกิดวิกฤตครั้งก่อนๆ เนื่องจากผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 นั้นกระทบไปทั่วโลก นักลงทุนและธนาคารกลาง รวมถึงกองทุนทองคำต่างเข้าถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ดังนั้นการที่ราคาทองคำปรับขึ้นมาอย่างรวดเร็วในช่วงนี้จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
ส่วนทิศทางราคาทองคำจากนี้ จะปรับขึ้นไปอีกหรือไม่นั้น มองว่ายังมีโอกาสปรับขึ้นไปได้ เนื่องจากยังมีปัจจัยสนับสนุนหลายปัจจัยทั้งเรื่อง COVID-19 และความขัดแจ้งของจีน-สหรัฐ โดยล่าสุดโกลแมน แซคส์ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำเป็น 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายใน 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มจากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนสถานการณ์ทั่วไปแม้ว่าช่วงนี้จะมีคนนำทองออกมาขายค่อนข้างมากเพราะสามารถทำกำไรจากส่วนต่างที่สูงแต่ก็ไม่ได้มีผลให้ราคาทองคำตกลงไป เพราะกองทุนขนาดใหญ่อาทิเช่น กองทุน SPDR ยังคงเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง โดยในปีนี้ (นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ณ วันที่ 3 ส.ค.) SPDR เข้าซื้อสุทธิมากถึง 355.13 ตัน ถือเป็นการเข้าซื้อรายปีสูงสุดนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน SPDR ในปี 2547 อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมามาก จะมีแรงเทขายทำกำไรสลับออกมา จึงแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวัง สำหรับคนที่ต้องการซื้อทองคำ ควรหาจังหวะย่อ โดยสัปดาห์นี้มองแนวรับบริเวณ 1,939-1,906 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแนวต้านมองที่ 2,000-1,988 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ตาม การที่คนนำทองคำออกมาขายในช่วงนี้มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะช่วงนี้หลายๆคนมีปัญหาด้านสภาพคล่อง การนำทองคำมาแปลงเป็นเงินสด ก็จะทำให้เกิดการจับจ่ายและหมุนเวียนเศรษฐกิจได้ดีขึ้น นอกจากนี้ในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนี้ พบว่ามีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาในตลาดทองคำมากขึ้น โดยบางส่วนเป็นนักลงทุนที่มาจากกลุ่มที่ลงทุนในตลาดหุ้น และบางส่วนเป็นกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ซึ่งช่วงนี้ราคาทองเป็นจังหวะที่ดี เพราะในแต่ละวันราคาเปลี่ยนแปลงหลายรอบ ทำให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรระหว่างวันได้บ่อยขึ้น อย่างไรก็ดีในส่วนของ YLG ก็มีการเปิดอบรมสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่ต้องการหาความรู้ก่อนลงทุนในทองคำ ซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดี โดยเฉพาะนักลงทุนที่ต้องการลงทุนทองคำผ่านตลาด TFEX ทั้งในแบบโกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์ส(Gold Online Futures) ที่เป็นการซื้อขายทองคำล่วงหน้าในรูปแบบดอลลาร์สหรัฐ และโกลด์ฟิวเจอร์ส(Gold Futures) ที่เป็นการซื้อขายด้วยเงินบาท ซึ่งการลงทุนผ่าน TFEX ถือเป็นทางเลือกที่นักลงทุนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเพราะใช้เงินลงทุนน้อยกว่าการลงทุนในทองคำแท่ง วางเงินลงทุนเพียงไม่ถึง 1 ใน 10 ของมูลค่าสัญญา สำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนทองคำในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Gold Online Futures และ Gold Futures ) เพื่อเป็นอีกทางเลือกการลงทุน สามารถดูรายละเอียดได้ทาง www.ylgfutures.co.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-687-9999