กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
นายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า กิจกรรมจิตอาสา “ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี…เราสร้างไปด้วยกัน” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๘ พรรษาพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ที่จัดขึ้นระหว่าง 28 - 31 กรกฎาคม 2563 ณ ท้องสนามหลวง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา อาสามีส่วนร่วมโดยนำนักศึกษาอาชีวศึกษาจิตอาสาจากวิทยาลัยเทคนิคนนทบุรี วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชูทิศ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกมหานคร และวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรีร่วมให้บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนให้กับประชาชนฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมด้วยนักศึกษาจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอี่ยมละออ วิทยาลัยบริหารธุรกิจและการท่องเที่ยวกรุงเทพ วิทยาลัยสารพัดช่างสี่พระยา วิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร และวิทยาลัยการการอาชีพบ้านโป่ง จ.ราชบุรี ที่ได้ประกอบอาหารและเครื่องดื่มมาแจกจ่ายให้กับประชาชนกว่า 500 ชุดเป็นประจำทุกวัน ทั้งนี้ ตลอดการจัดงาน ประชาชนที่มาขอรับบริการมีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก โดยมีประชาชนนำเครื่องใช้ไฟฟ้ามาซ่อมรวมทั้งสิ้น 293 ชิ้น แต่ที่น่าสนใจคือมีประชาชนส่วนหนึ่งนำเครื่องใช้ไฟฟ้ามาซ่อมเพื่อต้องการจะลงทะเบียนขอรับข้าวสังข์หยดปลอดสาร 1 กิโลกรัม ที่ปลูกโดยนักศึกษาวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง
ด้านน้องไนซ์ หรือ นายราชศักย์ ราชสงฆ์ นักศึกษาชั้น ปวส. 1 สาขาพืชศาสตร์ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง เล่าว่า ข้าวสังข์หยด เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองที่มีแหล่งกำเนิดในจังหวัดพัทลุง และเป็นข้าวพันธุ์แรกของไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication:GI) จัดเป็นกลุ่มข้าวที่มีสีแดงหรือม่วงเป็นข้าวเจ้า ไวต่อช่วงแสง มีลักษณะเมล็ดเล็ก เยื่อหุ้มเมล็ดมีสีแดง โดยข้าวสังข์หยดจะมีกากใยสูง ช่วยในการขับถ่ายและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ มีสารแกมมา โอริซานอล ช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลในเลือด มีสารที่ช่วยลดการเกิดฝ้า และมีสารกาบาช่วยการไหลเวียนของโลหิตในสมองและการทำงานของไตดีขึ้น ลดความดันโลหิต ลดไขมันในเส้นเลือด ทำให้สมองผ่อนคลายหลับสบายและช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์
ข้าวสังข์หยด เป็นข้าวนาปี จะปลูกในฤดูนาปี ปีละครั้ง ซึ่งตนและเพื่อน ๆ ได้เรียนรู้การปลูกข้าวสังข์หยดปลอดสารจากครูสุณี กาญจนจันทร์ ครูสาขาวิชาพืชศาสตร์ โดยลักษณะประจำพันธุ์ของข้าวสังข์หยดคือ ทรงกอตั้ง ใบเขียว มีคุณสมบัติพิเศษสามารถต้านทานต่อโรคแมลงศัตรูพืชและปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี และเนื่องจากพื้นที่ดินในจังหวัดพัทลุงส่วนใหญ่เป็นกรด และมีความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ เพื่อเพิ่มประโยชน์ของธาตุอาหารที่มีต่อข้าวให้สูงขึ้น จึงจำเป็นต้องยกระดับค่าดินให้ดีขึ้น โดยใช้ปูนขาวหรือวัสดุปรับปรุงดินประเภทปูนอัตรา 180 – 190 ก.ก.ต่อไร่ จากนั้นปลูกถั่วเพื่อทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี สุดท้ายไถเตรียมดินพร้อมปลูกข้าว โดยข้าวสังข์หยดจะเริ่มปลูกประมาณปลายเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม เก็บเกี่ยวเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ มีอายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 160 วัน การปลูกจะนิยมใช้แบบนาหว่านน้ำตม และเก็บเกี่ยวโดยใช้รถเกี่ยวและนวดข้าว สำหรับวิธีการสีข้าวสังข์หยดที่นิยม มี 2 วิธี ได้แก่ การสีแบบข้าวกล้อง โดยสีกะเทาะเฉพาะเปลือกข้าวออกจะได้เป็นเมล็ดสีแดง และ การสีแบบข้าวซ้อมมือ โดยสีขัดเอาเยื่อหุ้มออกประมาณ 20 – 25 % จะได้เมล็ดข้าวสารที่มีลักษณะสีแดงมีสีขาวปนเล็กน้อย ปัจจุบันการปลูกข้าวสังข์หยดในวิทยาลัยปลูกในพื้นที่ 150 – 200 ไร่ โดยได้ผลผลิตต่อไร่เฉลี่ย 300 – 330 กิโลกรัม ทั้งนี้ ข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือสังข์หยดปลอดสารจำหน่ายกิโลกรัมละ 50 บาท มีบริการจัดส่งทั่วประเทศ สนใจติดต่อได้ที่โทร.085-079-2569 หรือโทร. 081-898-4247 หรือ ที่ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง