![ไทยคมรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2563]()
กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--
ไทยคม
บริษัท
ไทยคม จำกัด (มหาชน) (“THCOM”) ผู้ให้บริการ
ดาวเทียมไทย รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2563 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563
บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2/2563 จำนวน 498 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบผลขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่ 2/2562 จำนวน 135 ล้านบาท รวมทั้งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากผลกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1/2563 ที่ 198 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้จากเงินชดเชย สุทธิกับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 223 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว ในไตรมาสที่ 2/2563 บริษัทมีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติเป็นจำนวน 2 ล้านบาท
บริษัทรายงานรายได้จากการขายและการให้บริการสำหรับไตรมาส 2/2563 รวมทั้งสิ้น 873 ล้านบาท ลดลง 28% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และลดลง 9.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา สาเหตุหลักจากการลดลงของลูกค้าบรอดแบนด์ และการยุติการใช้บริการของลูกค้าบางส่วนเนื่องจาก
ดาวเทียมไทยคม 5 ปลดระวาง
อัตราการใช้บริการของลูกค้าของ
ดาวเทียมแบบทั่วไป คือ
ดาวเทียมไทยคม 6,
ไทยคม 7 และ
ไทยคม 8 ณ สิ้นไตรมาส 2/2563 มีอัตราการใช้บริการของลูกค้าเมื่อเทียบกับความสามารถในการให้บริการของ
ดาวเทียม อยู่ที่ระดับ 63% ลดลงจาก 65% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/2563 และสำหรับการให้บริการ
ดาวเทียมบรอดแบนด์
ไทยคม 4 มีอัตราการใช้บริการของลูกค้าเมื่อเทียบกับความสามารถในการให้บริการของ
ดาวเทียม อยู่ที่ระดับ 19% ลดลงจาก 21% ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดระดับการใช้งานแบนด์วิธจากลูกค้าผู้ใช้บริการต่างประเทศ
นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.
ไทยคม กล่าวว่า “ไตรมาสนี้กำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จากเงินชดเชยซึ่งเป็นรายการพิเศษ โดยบริษัทให้ความสำคัญต่อการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารายได้จะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่บริษัทยังคงรักษาระดับกำไรสุทธิจากการดำเนินงานไว้ได้ที่ 2 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทได้ลงทุนในบริษัทร่วมทุนกับ 2 พันธมิตรใหญ่ คือ (1) ร่วมทุนกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (CAT) จัดตั้ง บริษัท เนชั่น สเปซ แอนด์ เทคโนโลยี จำกัด (NSAT) เพื่อให้บริการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ
ดาวเทียม อาทิ ธุรกิจ
ดาวเทียมวงโคจรระยะต่ำ (Low Earth Orbit Satellite) และ (2) ร่วมทุนกับ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด (ARV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) จัดตั้งบริษัท เอทีไอ เทคโนโลยีส์ จำกัด (ATI) เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการเกี่ยวกับอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนเพื่อการเกษตร โดย
ไทยคมมุ่งหวังให้ความร่วมมือที่เกิดขึ้นกับพันธมิตรทั้งสองนี้ เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาธุรกิจที่ยั่งยืน ช่วยต่อยอดรายได้ที่มั่นคง และเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจให้กับบริษัท”
ในส่วนของกลุ่มบริษัทในเครือ บริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (แอลทีซี) และ บริษัท ทีพลัสดิจิทัล จำกัด (ทีพลัส) ในประเทศลาว รายงานจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (ไม่รวม fixed wireless) ในระบบรวมทั้งสิ้น 1.51 ล้านราย ซึ่งมีส่วนแบ่งในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอันดับหนึ่งในประเทศลาว คิดเป็นประมาณ 61.1% ของตลาดรวม ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 60.3%
เกี่ยวกับ
ไทยคม
บริษัท
ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจ
ดาวเทียมแห่งเอเชียและผู้ให้บริการด้านสื่อสารผ่าน
ดาวเทียมครบวงจร ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2534 ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญร่วม 3 ทศวรรษ ส่งผลให้
ไทยคมได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ประกอบการชั้นนำในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ อุตสาหกรรมบรอดคาสต์ โทรคมนาคม และพันธมิตรทั้งในภาครัฐและภาคธุรกิจ และ
ไทยคมยังได้รับการยอมรับติดอันดับ 1 ใน 10 ผู้ประกอบการ
ดาวเทียมในระดับโลก แพลตฟอร์มบริการด้านบรอดคาสต์และบรอดแบนด์ของ
ไทยคม ได้รับการออกแบบเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการสื่อสารผ่าน
ดาวเทียมอย่างครบวงจร รองรับการขยายธุรกิจของลูกค้าและพันธมิตร มุ่งสู่การก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบ
ไทยคมคือผู้ริเริ่มและบุกเบิกอุตสาหกรรม
ดาวเทียมอย่างแท้จริง เพราะ
ไทยคมคือผู้ให้บริการ
ดาวเทียมรายแรกของโลก ที่ได้จัดส่ง
ดาวเทียมบรอดแบนด์ ภายใต้ชื่อไอพีสตาร์ขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยในปัจจุบัน
ไทยคมให้บริการผ่าน
ดาวเทียมจำนวน 4 ดวง ครอบคลุมประเทศในภูมิภาคเอเชีย โอเชียเนีย และแอฟริกา
บริษัท
ไทยคม จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “THCOM”