กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--สีฟ้า กรุ๊ป
บนเส้นทางธุรกิจร้านอาหารคุณภาพที่อยู่เคียงคู่คนกรุงเทพฯ มาอย่างยาวนาน คงมีชื่อ “ร้านสีฟ้า” ติดโผลเป็นลำดับต้นๆ ที่หลายคนต้องนึกถึง เพราะด้วยสโลแกนฮิตติดหูอย่าง “อย่าลืม สีฟ้า เวลาหิว” ทำให้ภาพอาหารไทย-จีนต้นตำรับนับร้อยเมนู ลอยเด่นขึ้นมาในความคิด กระตุ้นน้ำย่อยในท้อง จนอยากลิ้มรสชาติความอร่อยที่คุ้นเคย
“กร รัชไชยบุญ” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สีฟ้า กรุ๊ป จำกัด ทายาทเจเนอเรชั่นที่ 3 ผู้อยู่เบื้องหลังความภาคภูมิใจและเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ของ ร้านสีฟ้า สู่ปีที่ 84 กับบทเรียนความท้าทายยิ่งใหญ่ในธุรกิจร้านอาหารยุคปัจจุบัน ทั้งการแข่งขันที่สูง สถานการณ์โรคระบาด เศรษฐกิจ รวมไปถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วตลอดเวลา ซึ่งต้องอาศัยมุมมอง วิสัยทัศน์ การวางแผนงาน ประสบการณ์ นำมาพัฒนาและปรับตัวให้เข้ากับทุกเหตุการณ์ ภายใต้เสน่ห์การทำงานแบบ Family Business
ร้านสีฟ้า เริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2479 โดย เปล่ง รัชไชยบุญ ชายผู้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากเมืองจีน ต่อสู้ดิ้นรนทำงานในเมืองไทย จนวันหนึ่งได้ร่วมมือกับเพื่อนอีกคน ก่อตั้งร้านอาหาร ณ อาคารเล็กๆ ห้องเดี่ยวชั้นเดียวในชื่อย่านราชวงศ์ ขายเฉพาะ ไอศกรีม กาแฟ ผลไม้แช่แข็ง กิจการดำเนินด้วยดีจนต้องขยายร้านกว้างขึ้น และเมื่อร้านอาหารบริเวณรอบข้างปิดตัวลง ร้านจึงริเริ่มทำอาหารคาว โดยจ้างกุ๊กมาคิดสูตร ซึ่งส่วนมากเป็นอาหารจีน ด้วยความที่เป็นย่านคนชั้นสูงเป็นเจ้าของตึก ลูกค้าของร้านในช่วงนั้นจึงเป็นกลุ่มคนมีฐานะดี ขับรถมากิน บ้างก็นั่งกินในรถ โดยมีถาดอาหารติดรถเสิร์ฟ ถือเป็นภาพที่คุ้นตาสำหรับคนแถวนั้น ต่อมามีการขยับขยายร้านอีกครั้ง ด้วยการทาสีผนังใหม่เป็นสีฟ้า แสงไฟจาหลอดนีออนสะท้อนกับผนังในร้านทำให้ผู้คนทั่วไปที่ผ่านมาเห็นเรียก ร้านอาหารแห่งราชวงศ์นี้ว่า “สีฟ้า”
โดยปัจจุบัน สีฟ้า กรุ๊ป (SEE FAH Group) เจริญเติบโตก้าวหน้าอย่างมั่นคง ประกอบไปด้วย 1. SEE FAH Restaurant บริหารจัดการร้านอาหารสีฟ้า 19 สาขา พร้อมทั้งบริการ SEE FAH Catering จัดเลี้ยงนอกสถานที่ 2. SEE FAH Lumpini บริหารจัดการ (Opearation Service) ให้กับ RBSC Polo Club และกลุ่มโรงแรม ปัจจุบันดูแลจัดการอาหารและเครื่องดื่ม ให้กับ ธุรกิจโรงแรม ดูแลให้กับโรงแรมแมนดาริน ในนามห้องอาหารครัวหลวง และกลุ่มโรงแรม Center Point และ Grand Center Point ทั้งหมด 8 แห่ง ในกรุงเทพฯและพัทยา ในนาม Blue Spice และ 3. SEE FAH Food โรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนหนึ่งส่งให้กับบริษัทในเครือกลุ่ม สีฟ้า และเบเกอรี่ ตลอดจนผลิตอาหาร Frozen ส่งให้กับสายการบิน Air Asia
จุดเด่นของ สีฟ้า ที่ยืนหยัดมาอย่างยาวนาน 84 ปี คือ การรักษาคุณภาพและรสชาติของอาหารแบบดั่งเดิม เอาใจใส่ในทุกชั้นตอน ตั้งแต่การพิถีพิถันคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุด บางประเภทก็คิดค้นและผลิตเองอย่าง บะหมี่ เป็ดย่าง ลูกชิ้นนานาชนิด น้ำพริกแกง แป้งขนมจีน ปลากุเลาเค็ม น้ำจิ้มบ๊วยกอ จิ๊กโฉ่ ซาลาเปา เป็นต้น รังสรรมาเป็นเมนูยอดนิยมตลอดกาลอย่าง บะหมี่แห้งราชวงศ์ ขนมจีบ หมูสะเต๊ะ เป็ดย่าง ข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ไข่ดาว อีหมี่ ตำลึงผัดหมูสับ แกงพริกขี้หนูเนื้อน่อง เมนูอาหารหม้อดินต่างๆ เป็นต้น รวมไปถึงไอศกรีมของหวานปิดท้ายมื้อ ที่ลูกค้าสีฟ้าชื่นชอบมากตั้งแต่ยุคบุกเบิกร้าน สมัยนั้นมีรสชาติคลาสสิกอย่าง วานิลลา กาแฟ และช็อกโกแลต ต่อมาสีฟ้าเริ่มทำไอศกรีมผลไม้ด้วย เพราะคุณแม่อรุณศรี รัชไชยบุญ ผู้ก่อตั้งร้านสีฟ้า เชี่ยวชาญเรื่องผลไม้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะทุเรียน สีฟ้าจึงเป็นเจ้าแรกๆ ที่เสิร์ฟไอศกรีมทุเรียนในประเทศไทย เริ่มต้นจากปั่นไอศกรีมเองภายในร้าน จนพัฒนาเป็นกรรมวิธีการผลิตที่ได้มาตรฐานจากครัวกลางของเราในปัจจุบัน เพื่อคงความอร่อยแบบฉบับสีฟ้า ที่ถ่ายทอดฝีมือกันมานานกว่า 80 ปี
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับวัตถุดิบคุณภาพ โดยข้าวทุกจานที่เสิร์ฟในร้านสีฟ้า คือข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ปลูกอย่างพิถีพิถันด้วยวิธีธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี โดยกลุ่มเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ จนวันนี้ สีฟ้าก้าวเข้าสู่ปีที่ 84 อย่างภาคภูมิและเปี่ยมประสบการณ์ เรารู้ว่าทำอย่างไรเมนูนี้จึงจะดีที่สุด และพยายามพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อปรุงจานอร่อยให้คุณ ไม่เคยหยุดพัฒนาทักษะของพนักงาน ทั้งการบริการ การจัดส่งเดลิเวอรี่ พนักงานครัว ซึ่งเปิดโอกาสให้ครีเอทเมนูใหม่ คงเอกลักษณ์ของตำรับอาหาร ร้าน สีฟ้า หลายเมนูอายุเท่าร้านสีฟ้า การันตีความอร่อยแบบต้นตำรับ
สำหรับ สีฟ้า เมนูซิกเนเจอร์ ประกอบไปด้วย
ขนมจีบ
ตำรับเก่าแก่ที่ลูกค้ารัก ตั้งแต่สีฟ้าอยู่ถนนราชวงศ์ ส่วนผสมหลักคือเนื้อหมูและกุ้งคัดพิเศษ ปรุงกับหน่อไม้ ต้นหอม และเครื่องเทศตำรับเฉพาะ แป้งขนมจีบทำมาเฉพาะสำหรับเมนูนี้ ทำให้ได้แป้งบาง นุ่มนวล ขนมจีบสีฟ้าทุกลูกปั้นด้วยมือที่ร้าน นึ่งสดใหม่ตลอดวัน เสิร์ฟกับ “น้ำจิ้มขนมจีบ” ที่ปรุงขึ้นเฉพาะ รสเปรี้ยวหวานเค็มพอเหมาะ ขนมจีบนึ่งอุ่นๆ เข้ากันดีกับกระเทียมเจียวหอมกรุ่น ผักชีและผักกาดหอมสดกรอบ อร่อยมากเมื่อกินพร้อมกันในคำเดียว
ขนมเบื้องญวน
เมนูหายาก ที่พิเศษทั้งเครื่องปรุงและทักษะของพ่อครัว พ่อครัวสีฟ้าต้องฝึกทำเป็นร้อยครั้งกว่าจะได้แป้งกรอบบาง เนื้อละเอียด เพราะต้องรู้จังหวะไฟ รู้ใจกระทะเหล็กคู่มือ ได้แป้งสีเหลืองทองแล้วก็ปรุงไส้ด้วยกุ้ง มะพร้าว หมูสับ ถั่วลิสง ถั่วงอก และเต้าหู้เหลือง อย่าลืมตักอาจาดแตงกวามาราดสักนิดเพื่อความกลมกล่อม กินด้วยกันแล้วอร่อยมาก
เป็ดย่าง
เป็ดย่างหนังกรอบตำรับ 8 ทศวรรษของสีฟ้า มาพร้อมน้ำราดเป็ด น้ำจิ้มเป็ด แตงกวาดองและขิงดองรสเปรี้ยวหวาน สั่งเมนูเดียวจะได้มา 5 อย่าง เป็นเมนูแสนพิเศษในใจนักกินเป็ดย่างรุ่นปู่ย่า แต่เชื่อว่าลูกค้าทุกวัยจะโปรดปราน เพราะย่างด้วยประสบการณ์ จนเป็ดหนังบางกรอบ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ น้ำราดเป็ดตำรับแต้จิ๋ว หอมเข้มข้นด้วยเต้าเจี้ยวคุณภาพดีและเครื่องพะโล้ ปรุงเฉพาะสำหรับเมนูนี้ จะราดข้าวหรือราดเป็ดก็อร่อยติดใจ
บะหมี่แห้งราชวงศ์
บะหมี่แห้งชามนี้เป็นขวัญใจลูกค้าสีฟ้ามา 80 กว่าปี สีฟ้าทำเองทุกอย่าง เพื่อคงความพิถีพิถันแบบดั้งเดิม ตั้งแต่เส้นบะหมี่สีเหลืองทองที่ใช้ไข่เป็ดเยอะเป็นพิเศษ เส้นบะหมี่ทำเองเป็นความภูมิใจของครอบครัวสีฟ้า บะหมี่ลวกใหม่ๆ คลุกซีอิ๊วขาวและน้ำมันกระเทียมเจียวพอหอม โรยตั้งฉ่ายปรุงกลิ่นรสจนพอดิบพอดี ลูกชิ้นปลาก็มีส่วนประกอบแค่ 2 อย่าง คือปลาทะเลสดๆ และเกลือ นวดจนเนียน ปั้นด้วยมือทุกลูก แล้วยังมีลูกชิ้นกุ้ง ฮื่อก๊วย เกี๊ยวปลา ที่สีฟ้าพิถีพิถันปรุง ให้ทุกอย่างคงความดั้งเดิมอยู่เสมอ
ข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ไข่ดาว
เจ้าของสูตร “หน้าไก่” ตำรับไหหลำคือโกกุ๊ก พ่อครัวคู่บุญของร้าน เป็นสูตรลับสุดๆ ที่สร้างชื่อให้สีฟ้าตั้งแต่อยู่ถนนราชวงศ์ โกกุ๊กเจียวต้นหอม รากผักชี กระเทียมไทย จนน้ำมันหอม สาดเหล้าจีนใส่กระทะร้อนๆ ให้พอได้กลิ่น คัดเนื้อไก่เฉพาะน่องและสะโพกนุ่มหนึบลงผัดพร้อมเห็ดฟาง สีเข้มน่ากินจากซีอิ๊วดำ ปรุงรสให้นุ่มนวล พอดิบพอดี แบบที่คนรุ่นปู่ย่าชอบนักหนา ทุกส่วนประกอบอร่อยโดดเด่น ตักหน้าไก่ผัดใหม่ร้อนๆ ราดข้าวสวยหอมมะลิอินทรีย์จากสุรินทร์ กุนเชียงบางกรอบนั่นก็สั่งจากร้านเก่าแก่ในเยาวราช ซื้อขายกันมาตั้งแต่รุ่นอากง แถมไข่ดาวกรอบๆ เหยาะแม็กกี้ฝาแดง (ถ้าใส่ฝาเหลืองถือว่าผิดตำรับ!) อีกสักหน่อย อิ่มอุ่นและอร่อยติดใจจริงๆ
บะหมี่แห้งอัศวิน
บะหมี่แห้งเครื่องเยอะจุใจ เมนูคู่บุญอายุ 80 กว่าปีของสีฟ้าจานนี้ ทำเองทุกอย่างยกเว้นปลูกผักกับออกทะเลไปจับกุ้ง มีเครื่องเคราทั้งลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา เกี๊ยวปลา ฮื่อก๊วย หมูแดง หมูหวาน เพิ่มเซี่ยงจี๊ เนื้อไก่ลวก และกุ้งทะเลตัวโตแบบอยากให้กินอิ่ม ตามแบบฉบับของกลุ่มนายตำรวจชั้นอัศวินแหวนเพชร ลูกค้าประจำของสีฟ้าสมัยอยู่ถนนราชวงศ์ ผู้ชื่นชอบเมนูคุณภาพที่รวมสารพัดความอร่อยไว้ในชามเดียว
ปิดท้าย ไอศกรีมทุเรียนเยลลี่
ไอศกรีมทุเรียนของสีฟ้า กินแล้วได้กลิ่นรสทุเรียนหอมหวานละมุน เพราะใส่เนื้อผลไม้เต็มๆ โดยเป็นเจ้าแรกๆ ที่นำราชาแห่งผลไม้ชนิดนี้มาทำไอศกรีม ด้วยความชำนาญเรื่องคัดสรรและเก็บรักษาผลไม้ของคุณย่าอรุณศรี รัชไชยบุญ ทำให้สีฟ้ายุคบุกเบิกมีทุเรียนใช้ตลอดปี ความรู้เรื่องการคัดสรรทุเรียนพันธุ์ดีและทำของหวานจากทุเรียนให้อร่อย ยังคงสืบทอดมาถึงรุ่นปัจจุบัน จับคู่ไอศกรีมกับเยลลี่สีแดงสดใสเนื้อหนึบ ให้คุณสั่งเป็นของหวานปิดท้ายมื้อ แบบอิ่มอร่อยพอดีๆ