กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เตือนประชาชนระวังป่วยเป็นโรคเมลิออยโดสิส แนะเลี่ยงสัมผัสดินและน้ำเมื่อมีบาดแผล หากมีอาการไข้นานเกิน 5 วัน ให้รีบไปพบแพทย์
โรคเมลิออยโดสิส (Melioidosis) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เบอโคโดเลีย สูโดมาลิอาย (Burkholderia pseudomallei) ซึ่งพบได้ทั่วไปในดินและน้ำ สามารถติดต่อจากการสัมผัสกับดินหรือน้ำ ผ่านทางบาดแผลที่ผิวหนัง หรือหายใจเอาฝุ่นจากดินหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อเจือปนอยู่เข้าไป เชื้อเมลิออยโดสิสสามารถอยู่ได้ในซากสัตว์ที่อยู่ในดินและน้ำ สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคนี้ส่วนใหญ่คือผู้ที่มีอาชีพที่ต้องสัมผัสดินและน้ำ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคไต และผู้ที่มีสุขภาพอ่อนแอ เช่น ติดสุราหรือทานยากดภูมิคุ้มกัน โรคนี้ก็อาจเข้าแทรกซ้อนได้ อาการโดยทั่วไปผู้ป่วยจะมีไข้สูง หรือมีไข้เป็นเวลานานโดยไม่ทราบสาเหตุ หายใจไม่สะดวก หรือหอบเหนื่อย ซึมแบบไม่รู้ตัว ผู้ป่วยบางรายมีอาการคล้ายโรคปอดบวมรุนแรง บางรายมีอาการคล้ายวัณโรค
นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวถึงสถานการณ์โรคเมลิออยโดสิส ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ว่า ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 กรกฎาคม 2563 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ได้รับรายงานผู้ป่วยโรคเมลิออยโดสิส จำนวนทั้งสิ้น 10 ราย มีผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ในพื้นที่จังหวัดสงขลา (จะนะ, เมือง และหาดใหญ่) พบผู้ป่วยเพศชายมากกว่าเพศหญิง โดยพบเพศชาย 8 ราย เพศหญิง 2 ราย กลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือกลุ่มอายุ 55 - 64 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 65 ปี ขึ้นไป และกลุ่มอายุ 35 - 44 ปี โดยอาชีพที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ อาชีพเกษตรกรรม และรับจ้าง และจากการสุ่มตรวจหาเชื้อเมลิออยโดสิส ในดิน โดยคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในปี พ.ศ. 2563 พบเชื้อเมลิออยโดสิส ในอำเภอเมือง, จะนะ, สะบ้าย้อย, สะเดา และคลองหอยโข่ง
สคร.12 สงขลา ขอแนะนำการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคเมลิออยโดสิส คือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสดินและน้ำโดยตรง หากต้องสัมผัสดินหรือ น้ำ เช่น ทำการเกษตร จับปลา ลุยน้ำ หรือลุยโคลน ควรสวมรองเท้าบูท ถุงมือยาง กางเกงขายาว หรือชุดลุยน้ำ และควรทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำสะอาด และฟอกสบู่ทันที รวมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดบาดแผลเมื่อต้องสัมผัสดินและน้ำหากมีแผลถลอกซึ่งสัมผัสกับดินหรือน้ำควรทำความสะอาดทันที ในบุคคลที่มีอาการของโรคเบาหวาน และมีบาดแผลรุนแรง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับดินและน้ำ นายแพทย์เฉลิมพล กล่าว
นอกจากนี้ เน้นย้ำประทานอาหารสุกสะอาด ไม่ประทานอาหารที่ปนเปื้อนจากดิน ฝุ่นดิน หลีกเลี่ยงการสัมผัสลมฝุ่น และการอยู่ท่ามกลางสายฝน ทั้งนี้ หากมีอาการไข้นานเกิน 5 วัน หรือมีบาดแผลอักเสบเรื้อรัง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคเมดิออยโดสิสสามารถโทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422