กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--กระทรวงแรงงาน
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ขานรับนโยบายรัฐบาล ช่วยผู้ว่างงานจากผลกระทบจากโรคโควิด-19 ใช้งบประมาณกว่า 4.8 ล้านบาท จัดโครงการจ้างงานระยะสั้นจ้าง 230 คนทั่วประเทศ รายได้ 10,500 บาท/เดือน
นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 อนุมัติมาตรการด้านงบประมาณเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เพื่อให้ส่วนราชการปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 หรือปรับเปลี่ยนเพื่อไปดำเนินการซึ่งก่อให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตรายย่อยรวมถึงการจ้างงาน ซึ่งจากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 พบว่า มีสถานประกอบกิจการที่มีการแจ้งหยุดกิจการชั่วคราวตามมาตรา 75 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 จำนวน 4,599 แห่ง ลูกจ้างได้รับผลกระทบ 919,410 คน ดังนั้น เพื่อเป็นการสนองตอบนโยบายของรัฐบาลที่จะบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จึงได้จัดทำโครงการจ้างงานระยะสั้นแก่แรงงานที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด 19 เพื่อให้แรงงานกลุ่มนี้มีรายได้สามารถดูแลตนเองและครอบครัวในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
อธิบดีกสร. กล่าวต่อไปว่า กสร. ได้ดำเนินการจ้างเหมาบริการแรงงานตามโครงการดังกล่าว จำนวน 230 คน ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในหน่วยงานส่วนกลาง จำนวน 40 คน ส่วนภูมิภาค 190 คน โดยได้จัดจ้างเป็นระยะเวลา 2 เดือน คือเดือนสิงหาคม-กันยายน 2563 และได้รับค่าจ้างเดือนละ 10,500 บาท รวมเป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 4,830,000 บาท ซึ่งแรงงานที่ได้รับการจ้างในครั้งนี้จะปฏิบัติหน้าที่ประชาสัมพันธ์ภารกิจและการดำเนินงานของกรม ให้คำปรึกษา แนะนำนายจ้าง ลูกจ้างเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ตามกฎหมาย สำรวจข้อมูลสถานประกอบกิจการที่มีการเลิกจ้าง ทั้งนี้ กสร. มุ่งหวังว่าการจัดสรรงบประมาณสำหรับการจ้างงานระยะสั้นนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ประชาชนที่ว่างงานได้มีงานทำ มีรายได้สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้