กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายพิศาล พงศาพิชณ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การเกษตรต่างประเทศ เชื่อมไทย เชื่อมโลก” ณ ห้อง Cattleya โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร ว่า จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของโลกในปัจจุบันมีความผันผวนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ประกอบกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานด้านการเกษตรต่างประเทศให้มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งหมายถึงการแข่งขันของสินค้าเกษตรและอาหารของไทยในตลาดโลก
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักการเกษตรต่างประเทศในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การเกษตรต่างประเทศ จึงได้จัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือแผนการดำเนินงานด้านการเกษตรต่างประเทศ รวมทั้งบูรณาการงานด้านการเกษตรต่างประเทศให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรและอาหารของไทย ให้มีความพร้อมรับมือกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และมีบทบาทเชิงรุกอย่างสร้างสรรค์ สามารถปรับตัว และอยู่รอดได้ในสภาวะการแข่งขันของโลกในปัจจุบัน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประมาณ 150 คน จากหน่วยงานภายในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการเกษตรต่างประเทศจะได้มารับฟัง และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันกับผู้ร่วมเสวนาจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนขับเคลื่อนงานด้านการต่างประเทศ
“การเกษตรต่างประเทศ มีบทบาทสำคัญทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการส่งเสริมความเข้มแข็งในกิจกรรมทุกระดับตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ นั่นคือผู้ผลิตและผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ที่เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการในวันนี้จะมีบทบาทสำคัญในการบูรณาการงานด้านการเกษตรต่างประเทศระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีเอกภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้สอดคล้องของนโยบายรัฐบาล โดยมุ่งความสำเร็จของสินค้าเกษตรและอาหารไทยในตลาดโลก ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม และเศรษฐกิจฐานรากของไทยส่งเสริมภาคเกษตรไทยให้เข้มแข็ง เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป” นายพิศาล กล่าว