กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--IR PLUS
บมจ.ธนพิริยะ หรือTNP ต้นแบบค้าปลีกท้องถิ่นของคนไทย อวดผลงานงวด Q2/63
มีรายได้จากการขายและบริการ 513.94 ลบ. กำไรสุทธิอยู่ที่ 28.15 ลบ. โตกว่า 34% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ดันผลงานงวด 6 เดือนแรกปีนี้มีรายได้จากการขายและบริการ 1,061.54 ลบ. กำไรสุทธิโตกว่า 62% หรืออยู่ที่ 59.71 ลบ. เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจ บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.030 บ./หุ้น รับเงินเข้ากระเป๋าวันที่ 4 ก.ย.นี้ “ธวัชชัย และ อมร พุฒิพิริยะ” สองแม่ทัพใหญ่ เปิดแผนครึ่งปีหลัง เดินหน้าขยายสาขาใหม่ตามแผน โดยจะทยอยเปิดสาขาเพิ่มอีก 3 สาขา จากครึ่งปีแรกเปิดไปแล้วจำนวน 2 สาขา มั่นใจยอดขายรวมปี 2563 เติบโตได้ตามแผน 10-15%
นายธวัชชัย พุฒิพิริยะกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึง ผลประกอบการบริษัทฯงวดไตรมาส 2/2563 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 28.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 34.61และมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 5.45 เนื่องจากยอดขายรวมเติบโตขึ้น และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น โดยมีรายได้จากการขายและ การให้บริการอยู่ที่ 513.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 21.13 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.29 ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 83.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 10.90 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.10 และมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 16.16
สำหรับผลประกอบการบริษัทฯ งวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 59.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 22.88 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 62.12 โดยมีอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 5.59 มีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1,061.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 117.78 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.48 โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากยอดขายในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2563 สูงขึ้น จากการซื้อสินค้าล่วงหน้าของผู้บริโภคเนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงการเพิ่มขึ้นของยอดขายจากการขยายสาขาของบริษัทฯ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกมีสาขาเปิดให้บริการจำนวน 30 สาขา
ขณะที่ กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 170.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 34.63 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25.51 โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 16.05 การเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นเกิดจากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่ารายได้จากการขายส่งของสำนักงานใหญ่ และการได้รับค่าสนับสนุนการขายจากผู้จำหน่ายซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทฯ มีการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา คณะกรรมการมีมติให้จ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด จากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 จำนวน 0.030 บาท/หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 20 สิงหาคม 2563 และวันที่จ่ายปันผลวันที่ 4 กันยายน 2563
ด้านเภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะรองกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานใน ไตรมาส 2/2563 และงวดครึ่งปีแรกของปีนี้ ออกมาเป็นที่น่าพอใจ TNP มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนความสำเร็จของร้านค้าปลีกท้องถิ่นคนไทยมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และไม่ได้รับผลกระทบในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากร้านสาขาของบริษัทฯ ยังคงเปิดให้บริการครบทุกสาขา สินค้าอุปโภคและบริโภคเป็นสินค้าจำเป็นในการดำรงชีวิต สนับสนุนยอดขายให้เติบโตขึ้น สำหรับแผนงานครึ่งปีหลังของปี 2563 บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายสาขาใหม่ตามแผน
โดยตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ปีนี้ เพิ่มอีก 5 สาขา ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 63 มีสาขารวมกันทั้งสิ้น 33 สาขา จากสิ้นปี 2562 มี 28 สาขาครอบคลุม 3 จังหวัดภาคเหนือ ปัจจุบันมี 30 สาขา ได้แก่ จังหวัดเชียงราย 24 สาขา จังหวัดพะเยา 4 สาขา และจังหวัดเชียงใหม่ 2 สาขา พร้อมหาสินค้าใหม่เข้ามาจำหน่าย โดยเฉพาะสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งเป็นสินค้ามาร์จิ้นสูง จากการร่วมมือกับพันธมิตรนำสินค้าเข้ามาจำหน่าย
ปี 2563 ตั้งเป้าจะเติบโตได้ตามแผน 10-15% จากปีก่อนอยู่ที่ 1.96 พันล้านบาท โดยการเติบโตจะมาจากการเติบโตของสาขาเดิมและสาขาใหม่ ซึ่งในปีนี้บริษัทคาดยอดขายจากสาขาเดิม หรือ Same Store Sales Growth จะเติบโตใกล้เคียงก่อนที่ 2% พร้อมกันนี้บริษัทยังเดินหน้าขยายสาขาตามแผน