มาสเตอร์การ์ดมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมการชำระเงินให้ก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 13, 2020 08:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค เอเจนซี่ กว่า 3 ใน 4 ของคนกล่าวว่าพวกเขา “กังวล”1 กับสิ่งแวดล้อมและอยากให้องค์กรต่างๆ ลงมือจัดการกับผลกระทบที่เกิดกับโลก2 จากธุรกิจ ในขณะที่ผู้บริโภคเองมองหาวิธีช่วยรับมือกับสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงด้วยวิธีที่สามารถทำได้ หลายคนลดการใช้พลาสติกที่ใช้แล้วทิ้ง มาสเตอร์การ์ดตระหนักถึงความห่วงใยนี้ จึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจทั่วโลกพัฒนาโครงการผลิตบัตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับผู้ออกบัตรทั่วโลก คู่มือวัสดุสำหรับผลิตบัตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและรายชื่อบริษัทผู้ออกบัตรจัดทำขึ้นเพื่อให้สถาบันการเงินทั่วโลกมีทางเลือกที่ยั่งยืนและน่าพอใจกว่า และมีส่วนในการขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ๆ วันนี้มาสเตอร์การ์ดนำเสนอบัตรที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ยั่งยืนแก่ผู้บริโภคแล้วกว่า 12 ประเทศทั่วโลก สถาบันการเงินกว่า 60 แห่งร่วมออกบัตรที่ทำจากวัสดุที่ได้รับการรับรองแล้วเช่น พลาสติกรีไซเคิลจากทะเล วัสดุชีวภาพที่ไม่มีคลอรีนและย่อยสลายได้ สถาบันการเงินเหล่านี้ ได้แก่ ธนาคารดีบีเอส (ไต้หวัน), เครดิต อากริโคล และซานแทนเดอร์ ซึ่งจะทำการออกบัตรในเร็วๆ นี้ ด้วยข้อมูลดังกล่าวธนาคารต่างมีทางเลือกเพื่อติดต่อกับผู้ผลิตบัตร และยังมีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนด้วยตนเองโดยการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบในกระบวนการจัดหาและการผลิตบัตร โครงการนี้ถือเป็นหลักชัยในความพยายามหลายปีของมาสเตอร์การ์ดเพื่อเปิดตัวโครงการรับรองระดับโลกสำหรับบัตรที่ผลิตอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มต้นจากความร่วมมือในโครงการ Greener Payments Partnership (GPP) ระหว่างมาสเตอร์การ์ดและผู้ผลิตบัตรเจมัลโต (Gemalto) กีเซค+เดเวรียนท์ (Giesecke+Devrient) และ IDEMIA ในปี พ.ศ. 2561 เพื่อกำหนดแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลาสติกพีวีซีในการผลิตบัตร โดยบัตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนี้จะแทนที่บัตรชำระเงินที่ผลิตขึ้นจำนวนหกพันล้านใบต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่ทำมาจากพลาติกพีวีซี บัตรเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนโดยเฉลี่ยทุกๆ 3-4 ปี โดยบัตรเก่าจะถูกนำไปฝังกลบในที่ทิ้งขยะทั่วโลก “จุดมุ่งหมายของเราเรียบง่าย เราต้องการช่วยให้ธนาคารมอบบัตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแก่ลูกค้า เราจึงลงมือทำการเปลี่ยนแปลงที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ วิธีนี้ดีกว่าสำหรับสิ่งแวดล้อม ดีสำหรับธุรกิจและตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปแล้ว” อาเจย์ บัลลาห์ ประธานฝ่ายไซเบอร์และข้อมูล มาสเตอร์การ์ด กล่าว “เรายินดีที่เห็นความพยายามของเราสามารถผลักดันการเปลี่ยนแปลงในหลายภาคส่วนของโลกและหวังว่าจะมีองค์กรเข้าร่วมกับเรามากขึ้น เราใช้พลังความสามารถเพื่อรับมือกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ถือเป็นความท้าทายที่เร่งด่วน” ลิม ฮิม ชวน ผู้จัดการทั่วไปธนาคารดีบีเอส (ไต้หวัน) กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับมาสเตอร์การ์ดในโครงการสำคัญนี้เพื่อร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยบัตร DBS Eco Card ซึ่งเป็นบัตรเครดิตบัตรแรกในเอเชียที่ทำจากพอลิแลคติค แอซิด ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยไม่ปล่อยสารพิษระหว่างการเผาไหม้ดีบีเอสและมาสเตอร์การ์ดมุ่งมั่นการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยบัตรใบนี้ตอกย้ำความแน่วแน่ในการปกป้องสิ่งแวดล้อมเพื่อการก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน” มาสเตอร์การ์ดมุ่งมั่นลงทุนในเทคโนโลยีและทรัพยากรใหม่ๆ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจรวมถึงข้อมูลเชิงลึง เพื่ออุตสาหกรรมการชำระเงินทั่วโลกได้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน Global DigiSec Lab ซึ่งเป็นห้องแล็บของมาสเตอร์การ์ดในสหราชอาณาจักรที่ทำการค้นคว้าลงทุนด้านนวัตกรรมและความปลอดภัยของบัตร ได้ทุ่มสร้างเทคโนโลยีที่สามารถวิเคราะห์หาวัสดุที่ใช้ในการผลิตบัตรและประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเพื่ออุตสาหกรรมบัตรโดยรวม และเพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าบัตรทุกใบของมาสเตอร์การ์ดผลิตจากวัสดุที่ยั่งยืนได้รับการตรวจสอบและรับรองแล้วว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ห้องแล็บนี้ยังทำการวิจัยหาวิธีรีไซเคิลบัตรเก่าเพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย “เรารู้ดีว่า ผู้บริโภคกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมองหาหนทางที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทั่วโลก แนวคิดนี้ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค แต่ยังเสนอผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับแนวคิดด้านความยั่งยืนของเรา” มาร์โก บริอาธา หัวหน้าฝ่าย Digital & Payment เครดิต อากริโคล อิตาเลีย (Credit Agricole Italia) “ธนาคารเอ็มซีบีมุ่งมั่นร่วมปกป้องสิ่งแวดล้อมและมรดกท้องถิ่น เราพัฒนาบัตรโดยการใช้พอลิแลคติค แอซิด (PLA) ที่จะช่วยลดพลาสติกพีวีซีได้มากกว่าร้อยละ 80 ทุกครั้งที่ผู้บริโภคใช้บัตรเดบิตมาสเตอร์การ์ด พวกเขาได้ร่วมสนับสนุนมูลนิธิ Mauritian Wildilfe Foundation ในการฟื้นฟูระบบนิเวศน์ทั้งหมดเพื่อปกป้องสัตว์ป่าในเกาะมอรีเซียน” สเตฟานี ไหง ซุง หัวหน้าฝ่ายการออกบัตร ธนาคารเอ็มซีบี กล่าว ทางเลือกที่สนับสนุนความสำนึกในการปกป้องสิ่งแวดล้อม มาสเตอร์การ์ดได้ทำให้ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG) เป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างธุรกิจ โดยนำปัจจัยต่างๆ ทั้งเทคโนโลยี ความร่วมมือจากพันธมิตรและการมีส่วนร่วมของคนมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อบุกเบิกการเติบโตแบบยั่งยืนสำหรับทุกฝ่าย เราได้มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการ ความร่วมมือและเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อให้ผู้คนมีทางเลือกในการบริโภคอย่างยั่งยืนและยังเป็นทางเลือกที่เข้าใจง่าย ได้ประโยชน์และดีต่อโลกของเรา Priceless Planet Coalition (PPC) คือความร่วมมือขององค์กรในการลงทุนอย่างยั่งยืนเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม หุ้นส่วนทุกฝ่ายต่างมีจุดหมายเดียวกันคือ การทำความดี โดยโครงการนี้มุ่งมั่นที่จะปลูกต้นไม้ 100 ล้านต้นภายในเวลาห้าปี เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้บริโภค ความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงินสัญชาติสวีเดน Doconomy ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถติดตามทำความเข้าใจและแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านอุปกรณ์ดิจิตัลซึ่งจะเป็นการวางมาตรฐานใหม่สำหรับการชำระเงิน บริษัทยังได้เข้าร่วมกลุ่ม RE100 เพื่อมุ่งมั่นสู่การใช้พลังงานทดแทนและเพื่อเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อให้อุณภูมิโลกสูงเพียง 1.5 องศาเซลเซียสตามมาตราฐานที่ได้รับการรับรองจาก The Science Based Target Initiative (SBTi) หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของมาสเตอร์การ์ดเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ที่ https://www.mastercard.us/en-us/vision/corp-responsibility/sustainability.htmlมาสเตอร์การ์ดแน่วแน่ในการสร้างเศรษฐกิจดิจิตัลที่ครอบคลุมสำหรับทุกคน รวมถึงการเชื่อมต่อผู้คน 1 พันล้านคนกับ 50 ล้านธุรกิจ ในระบบเศรษฐกิจดิจิตัล และสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีให้มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ