กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--เวิร์คลิ้งค์ ดาเอเจนซี่
นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (WICE ) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2/63 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 1,038.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 546.19 ล้านบาท จำนวน 491.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 90.05 % และมีกำไรสุทธิ 55.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9.43 ล้านบาท จำนวน 45.84 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 486.24%
ส่วนผลประกอบการครึ่งแรกปี 63 บริษัทมีรายได้รวม 1,690.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,029.17 ล้านบาท จำนวน 660.87 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 64.21% และมีกำไรสุทธิ 85.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 21.08 ล้านบาท จำนวน 64.46 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 305.84%
ทั้งนี้ ผลประกอบการทั้งรายได้และกำไรของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณงานขนส่งทางอากาศ (Air Freight) และงานบริการขนส่งข้ามพรมแดน (Cross border Service ) ปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นไปตามการเติบโตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากจีนคลายล็อกดาวน์และมีปริมาณการขนส่งสินค้าขากลับมากขึ้น อีกทั้งการขนส่งในประเทศเติบโตด้วยเช่นกัน
สำหรับภาพรวมธุรกิจโลจิสติกส์ช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ตามปริมาณงานภาคขนส่งในประเทศและต่างประเทศที่มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นมาตั้งแต่ครึ่งปีแรก โดยเฉพาะประเทศจีนที่มีปริมาณงานเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งไตรมาส 3/63 เป็นช่วงเข้าสู่ไฮซีซั่นจนถึงปลายปี สนับสนุนให้มูลค่าการค้าระหว่างประเทศปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจโลจิสติกส์มีความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้นตาม
ขณะที่ทิศทางการดำเนินงานของบริษัทช่วงครึ่งหลังปี 63 จะเป็นช่วงแห่งการเก็บเกี่ยวทั้งด้านรายได้และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น หลังจากที่บริษัทลงทุนเข้าไปขยายธุรกิจเพิ่มในตลาดจีน ผ่านเครือข่ายสาขาของ WICE ทั้ง WICE Logistics (Singapore) Pte.Ltd. (WICE SG) ,WICE Logistics (Hong Kong) Ltd. (WICE HK ), EUROASIA TOTAL LOGISTICS CO., LTD. (ETL) และ WICE Logistics (Shenzhen) Company Ltd. (WICE SZ) ด้วยแผนการร่วมโปรโมทงานบริการทุกรูปแบบในตลาดจีน รวมถึง ฮ่องกง เซียงไฮ้ กวางโจว เซินเจิ้น โดยเฉพาะงานบริการขนส่งข้ามพรมแดน (Cross border Service ) และมีแผนขยายฐานลูกค้าใหม่ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มปริมาณงานให้มากยิ่งขึ้น บริษัทเชื่อว่าภาคการผลิตและภาคธุรกิจของจีนกลับมาเปิดดำเนินการปกติ หลังจีนผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งจะทำให้ความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภค และวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น จึงเป็นโอกาสเพิ่มการรับงานในอนาคต
ทั้งนี้จากการเดินหน้าโปรโมทงานบริการของโครงข่ายพันธมิตรโลจิสติกส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจและผลักดันการเติบโตร่วมกันในอนาคต บริษัทเชื่อว่ารายได้รวมทั้งปี 63 จะเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ 20% หรืออยู่ที่ 2,700 ล้านบาท ปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากการงานบริการทางอากาศ (Air Freight) 46%, การขนส่งทางทะเล (Sea Freight) 20%, ขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross border Service ) 20% , และงาน Logistics 14%