กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--ซีเอ็มโอ
“ซีเอ็มโอ” ประสบความสำเร็จ หลังจากเปิดตัวสตูดิโอสตรีมมิ่งครบวงจร เพียบพร้อมด้วยระบบภาพแสงเสียง - เอฟเฟกต์พิเศษ ต่างๆ รองรับการจัดงานคอนเสิร์ต และ
อีเวนต์ออนไลน์ทุกรูปแบบ เปิดให้บริการเพียง 2 เดือน จัดงานไปแล้วกว่า 20 อีเวนต์ ล่าสุด ประกาศความผู้นำด้าน Live Studio ต่อเนื่อง เปิด “Hybrid Event Hall” (ไฮบริด อีเวนต์ ฮอลล์) พื้นที่ขนาดใหญ่ ครบครันด้วยเทคโนโลยี มีมาตรฐาน รองรับการจัดงานในยุค New Normal ด้าน “ผู้บริหาร” แย้มครึ่งปีหลังแนวโน้มดีขึ้น รับสัญญาณภาพรวมอีเวนต์ฟื้นตัว มีงานรอรับรู้รายได้อีกกว่า 500 ล้านบาท
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO ผู้นำธุรกิจสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรแห่งอาเซียน ครอบคลุมธุรกิจด้านอีเวนต์,ด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ ได้ปรับตัวสู้ศึกมาโดยตลอดทั้งในแง่ของกลยุทธ์การตลาด และปรับโครงสร้างการบริหารงานภายใน โดยในส่วนของการตลาด บริษัทฯ เปิดสตูดิโอสตรีมมิ่งครบวงจร ทั้งหมด 3 สตูดิโอ มีขนาดที่หลากหลาย ครบครันด้วยระบบภาพแสงเสียง ตลอดจนระบบการถ่ายทอดสดออนไลน์ โดยหลังจากที่เปิดให้บริการมาประมาณ 2 เดือน ปรากฏว่ายอดจัดงานอีเวนต์ในสตูดิโอมีมากกว่า 20 งาน ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งมีแบรนด์ต่างๆ ในหลายอุตสาหกรรมเข้ามาเช่าพื้นที่จัดงานและให้บริษัทฯ ดูแลจัดงานทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นงานเปิดตัวสมาร์ทโฟน, งานประชุมในกลุ่มธุรกิจขายตรง, งานสัมมนาทางการเงินของกลุ่มธนาคาร, งานในกลุ่มธุรกิจบันเทิงและคอนเสิร์ต, งานประชุมวิชาการนานาชาติ ตลอดจนกิจกรรมทางการตลาดในกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอางค์สกินแคร์ เป็นต้น
“เห็นได้ชัดเจนว่า แนวทางการจัดงานในยุคนี้ หลายๆ ธุรกิจเริ่มปรับตัวและส่วนใหญ่เริ่มทำกิจกรรมในรูปแบบ ไฮบริด อีเวนต์ (Hybrid Event) กันแล้ว คือ การจัดอีเวนต์ในสถานที่จัดงานต่างๆ ควบคู่ไปกับการทำออนไลน์อีเวนต์ โดยมีการ Live Streaming (ไลฟ์ สตรีมมิ่ง) ผ่านแอฟพลิเคชั่นต่างๆ ด้วยเหตุผลนี้ บริษัทฯ เตรียมบุกตลาด เปิดธุรกิจ “Hybrid Event Hall” (ไฮบริด อีเวนต์ ฮออล์) พื้นที่จัดงานขนาดใหญ่ โดยจัดที่นั่งให้คนเข้าร่วมงานประมาณ 2,500 ที่นั่ง รองรับการจัดงานคอนเสิร์ต, งานอีเวนต์ทุกรูปแบบ, งานประชุม ตลอดจนงานสัมมนา โดยจัดพื้นที่เป็นไปตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยและป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 โดยทุกคนสามารถเลือกที่จะเข้าร่วมงานในฮอลล์ หรือ เลือกที่จะรับชมจากที่บ้านได้ ตอบโจทย์กับสถานการณ์ปัจจุบันได้เป็นอย่างดี” นายเสริมคุณ กล่าว
สำหรับแนวโน้มของ CMO ในช่วงไตรมาส 3-4 นี้ บริษัทฯ มีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากเร่งปรับกลยุทธ์ต่างๆ มาฟื้นฟูกิจการ ลุยงานอีเวนต์ออนไลน์ รวมไปถึงการร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจน แนวทางการจัดงานรูปแบบไฮบริด อีเวนต์ มีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการเจ้าของแบรนด์ต่างๆ เริ่มมีกำลังใจและความเชื่อมั่นในการจัดงาน โดยจะเห็นได้จากกระแสการตอบรับของผู้เข้าร่วมงานแฟร์ใหญ่ๆ ที่จัดขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นงาน Motor Expo 2020, งาน HomePro Expo 2020 ปรากฎว่ามีผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมากเกินความคาดหมาย ซึ่งส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ เริ่มที่จะเร่งจัดงานในลักษณะนี้เพิ่มมากขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่ CMO กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังมีงานที่มีความต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3-4 รวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท และอยู่ในระหว่างพัฒนางานให้ลูกค้าอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีงานในส่วนของพิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบ เข้ามาเสริมรายได้ให้กับบริษัท แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องยอมรับว่าจากผลกระทบของวิกฤติโควิด-19 คาดว่าในปีนี้ยังไม่สามารถทำกำไร แต่บริษัทฯ จะดำเนินธุรกิจควบคุมให้เกิดความเสียหายให้น้อยที่สุด เพราะบริษัทฯ ก็ได้ปรับโครงสร้างการบริหารงานของบริษัทในเครือ ให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูรายได้ ทั้งนี้ ในส่วนของผลประกอบการไตรมาส 2 ของปี 2563 (เมษายน-มิถุนายน 2563) บริษัทฯ มีรายได้รวม 37.55 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 78.66 ล้านบาท