กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย
PLANET โชว์ไตรมาส 2/63 พลิกกำไร บิ๊กบอส "ประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์" ปลื้มที่กำไรขั้นต้นดี ลั่นเดินหน้ารุกธุรกิจเทคโนโลยีเกิดใหม่ต่อเนื่อง มั่นใจ ผลงานทั้งปีพลิกเป็นบวก คงเป้ารายได้ปี 2563 โต 10%
นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการ ผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2563 จำนวน 13.89 ล้านบาท คิดเป็น 8.88% ของรายได้รวม เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 1.12 ล้านบาท หรือ -0.67% ของรายได้รวม บริษัทฯมีผลกำไรเพิ่มขึ้น 15.01 ล้านบาท เป็นผลจากกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นและการลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
รายได้จากการขายสินค้าและบริการในไตรมาส 2/63 มีจำนวน 154.83 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 165.38 ล้านบาท ลดลง 10.55 ล้านบาท หรือลดลง 6.36% ขณะที่รายได้รวมในงวดหกเดือนแรกของปี 2563 มีจำนวน 328.35 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 326.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.65%
“ผลจากการที่บริษัทฯ มุ่งเน้นเพิ่มรายได้จากกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีเกิดใหม่ (Emerging Technology Business) มีส่วนช่วยผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น เนื่องจาก ช่วงวิกฤติโควิด-19 หลายองค์กรธุรกิจเริ่มมีการปรับตัวมาใช้เทคโนโลยี Cloud ส่งผลให้ Cloud Meeting Platform สำหรับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) ของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี” นายประพัฒน์กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง อาทิ IoT Platform สำหรับพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City), TeleHealth Platform (การรักษาทางไกล) สำหรับกิจกรรมด้านสาธารณสุข และ ระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากหน่วยงานต่างๆ โดยบริษัทฯ จะพยายามผลักดันอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2563 ให้เพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 23% จากปีก่อนที่ 21%” นายประพัฒน์กล่าว
ส่วนโครงการจัดซื้อของภาครัฐที่ชะลอตัวจากวิกฤติโควิด-19 แต่การจัดซื้อจัดจ้างในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดี ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างรอผลในหลายโครงการใหญ่ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มเติมงานในมือ หรือ Backlog ที่ปัจจุบันมีตัวเลขอยู่ที่ 300 กว่าล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมผลประกอบการทั้งปี 63 จะสามารถพลิกกลับมาเป็นบวก ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ปี 2563 เติบโต 10% จากปีก่อน
นายประพัฒน์ กล่าวต่อถึงผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 1.18 ล้านบาท หรือคิดเป็น -0.36% ของรายได้รวมเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีผลกำไรสุทธิ 0.80 ล้านบาท หรือ 0.25% ของรายได้รวม บริษัทฯ มีกำไรลดลง 1.98 ล้านบาท สาเหตุมาจากผลขาดทุนในไตรมาสที่ 1/63 จึงทำให้ยังมีผลขาดทุนสะสมสำหรับงวดหกเดือนแรกของปีนี้