กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--บียอนด์ โซลูชันส์
บมจ. ซีลิค คอร์พ (SELIC) เผยงบ Q2/63 มีกำไร 16.40 ลบ. แม้ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด19ด้านผู้บริหาร "เอก สุวัฒนพิมพ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ “ยุวดี เอี่ยมสนธิทรัพย์” กรรมการผู้จัดการ เผยปีนี้กลุ่มบริษัทฯ มุ่งเน้นความสามารถทำกำไร-เพิ่มส่วนแบ่งตลาดเฉพาะกลุ่มและปรับตัวเชิงกลยุทธ์ พร้อมเดินหน้าลดต้นทุน - จัดการห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ-การบริหารค่าใช้จ่ายทั้งขายและบริหาร รวมถึงปรับแผนภายในบริหารทรัพยากรที่เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) หรือ SELIC เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 มีกำไร 16.40 ล้านบาท ส่งผลให้ 6 เดือนแรกปีนี้กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรทั้งสิ้น 38.86 ล้านบาท ขณะที่รายได้ไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ 283.48 ล้านบาท ส่งผลให้ 6 เดือนแรกปีนี้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ทั้งสิ้น 612.35 ล้านบาท แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมได้ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนในไตรมาสนี้ ดังนั้นกลุ่มบริษัทฯ จึงยังมุ่งเน้นในด้านการบริหารต้นทุนและการจัดการค่าใช้จ่าย เพื่อให้เกิดความสามารถในการทำกำไร ซึ่งจะเห็นได้ว่าแม้กลุ่มบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ภาพรวมของผลการดำเนินงานยังคงรักษาการทำกำไรได้
“แม้ในปีนี้มีสถานการณ์โรคโควิด 19 ซึ่งมีผลกระทบต่อธุรกิจทั้งสองประเภท ส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อในประเทศและการส่งออกไปยังต่างประเทศ แต่เราเน้นให้ความสำคัญด้านการบริหารจัดการด้านต้นทุน พร้อมกับคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้ผลประกอบของบริษัทฯในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ยังสามารถทำกำไรได้” นายเอก กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 นั้น กลุ่มบริษัทฯ ให้ความสำคัญในการปรับตัวในการดำเนินธุรกิจโดยด้านการขายและการตลาดจะเน้นการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดแบบเฉพาะกลุ่มโดยเน้นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโต เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มสินค้าอุปโภคที่ใช้ในครัวเรือนอุตสาหกรรมบรรจุหีบห่อ และด้านการขนส่ง ขณะเดียวกันคอยติดตามแนวโน้มอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่อาจจะเริ่มฟื้นตัวกลับมาในครึ่งปีหลังนี้
สำหรับทิศทางช่วงที่เหลือของปี 2563 กลุ่มบริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง แนวโน้มฟื้นตัว หลังจากช่วงครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนมกราคม ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจโลกที่เกิดความไม่แน่นอน และซบเซา ถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยจะเริ่มคลี่คลายและกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวแต่แนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลังยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากการหดตัวของภาคการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกกำลังซื้อที่ลดลง รวมทั้งการท่องเที่ยวที่กระทบจากการปิดเมืองปัจจัยเหล่านี้เป็นปัจจัยลบต่อแนวโน้มอุตสาหกรรมโดยรวม และอาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้จากการขายของบริษัท
นางสาวยุวดี เอี่ยมสนธิทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวเสริมว่า กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการจัดการต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อการคงสภาพคล่องและกระแสเงินสดในการดำเนินงานและความสามารถในการทำกำไร การจัดการด้านต้นทุนรวมไปถึงการจัดการห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพและการบริหารค่าใช้จ่ายทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร โดยควบคุมและตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นออกและปรับแผนภายในให้เกิดการบริหารทรัพยากรที่เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น