![นักวิชาการ 'สงขลานครินทร์’ รับรางวัล Southeast Asia Women 2020 จากการขับเคลื่อนงานวิชาการติดตามสภาพภูมิอากาศและระบบนิเวศชายฝั่ง]()
กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
นักวิชาการ
ม.สงขลานครินทร์ ได้รับคัดเลือกจาก Young Southeast Asia Leader Initiative (YSEALI) Women’s Leadership Academy Alumni Network เครือข่ายเพื่อสนับสนุนบทบาทการเป็นผู้นำของผู้หญิงและส่งเสริมความร่วมมือภายในภูมิภาค
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้รับรางวัล Southeast Asia Women 2020 จากความมุ่งมั่นใช้งานวิชาการติดตามการเปลี่ยนแปลง
ภูมิอากาศและ
ระบบนิเวศชายฝั่ง
ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หรือ ม.อ. เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาชายฝั่งอ่าวไทยและอันดามันอย่างจริงจังมาโดยตลอด ซึ่งในปี 2560 ที่ผ่านมา ม.อ.ได้มีการจัดตั้งสถานวิจัยสมุทรศาสตร์ชายฝั่งและการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมิอากาศ เพื่อขับเคลื่อนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมิอากาศและ
ระบบนิเวศชายฝั่ง ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDG (Sustainable Development Goal) ในหัวข้อว่าด้วยการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมิอากาศ และ การใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเล ตามกรอบการดำเนินงานด้านการพัฒนาขององค์การสหประชาชาติ โดยที่ผ่านมา มีนักวิจัย ม.อ. ได้ลงพื้นที่ในการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องการประเมินศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอนของ
ระบบนิเวศหญ้าทะเล เพื่อทำงานเชิงวิชาการในการติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมชายฝั่ง
ทั้งนี้ จากความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างจริงจังของนักวิชาการ ม.อ. ทำให้ Young Southeast Asia Leader Initiative (YSEALI) Women’s Leadership Academy Alumni Network ซึ่งเป็นเครือข่ายสนับสนุนบทบาทการเป็นผู้นำของผู้หญิงและส่งเสริมความร่วมมือภายในภูมิภาค
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้คัดเลือก ผศ.ดร.พิมพ์ชนก บัวเพชร อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. เป็น 1 ใน 80 คน จาก 10 ประเทศ และกลุ่มสาขา ให้รับรางวัล Southeast Asia Women 2020 ในกลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์และการศึกษา
ผศ.ดร.พิมพ์ชนก บัวเพชร อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. กล่าวว่า ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย Southeast Asian Women โดยได้เข้าอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องการประเมินศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอนของ
ระบบนิเวศหญ้าทะเล ซึ่งเป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องอาศัยเครือข่ายและการสื่อสารให้แก่ทุกภาคส่วน เพื่อช่วยกันบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมิอากาศ และทำงานด้านวิชาการด้านการติดตามการเปลี่ยนแปลงของชายฝั่งและสภาพ
ภูมิอากาศ จึงทำให้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในครั้งนี้
“ต้องขอบคุณมหาวิทยาลัยที่เห็นความสำคัญของดูแลสิ่งแวดล้อมตามชายฝั่ง จึงสนับสนุนให้มีการจัดตั้งสถานวิจัยสมุทรศาสตร์และให้โอกาสตนได้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนงานวิจัยเกี่ยวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมิอากาศและ
ระบบนิเวศชายฝั่ง โดยมีเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมิอากาศและใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเล ตามกรอบการดำเนินงานขององค์การสหประชาชาติ” ผศ.ดร.พิมพ์ชนก กล่าว