กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--คอมมิวนิเคชั่น อาร์ต
ในยุคที่การเชื่อมต่อโครงข่ายมีความซับซ้อนหลายมิติและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการที่ผู้ใช้งาน อุปกรณ์ แอปพลิเคชั่น บริการและข้อมูลที่รับ-ส่งออกนอกบริเวณเครือข่ายเอจ (Edge) ขององค์กรมีจำนวนมากขึ้น ประกอบกับลักษณะการทำงานของพนักงานจากระยะไกลจากที่บ้านยังเป็นเทรนด์ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชั่นทุกที่ทุกเวลาได้โดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งของผู้ใช้และอุปกรณ์ จึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์มากขึ้น ส่งให้องค์กรในปัจจุบันให้ความสนใจในกลยุทธ์ Zero Trust อันเป็นแนวคิดด้านความมั่นคงปลอดภัยแบบใหม่ที่ถือว่าระบบเครือข่ายทั้งหมดไม่ควรเชื่อถือซึ่งกันและกัน จึงต้องมีการตรวจสอบในระดับสูงเพิ่มมากขึ้น โดย Zero Trust ออกแบบระบบเครือข่ายโดยยึดข้อมูลเป็นศูนย์กลาง ใช้ซอฟต์แวร์และคุณสมบัติด้านความปลอดภัยควบคุมข้อมูลหรือทรัพย์สินสารสนเทศเหล่านั้นโดยรอบ (Software-Defined Network) และให้ความสำคัญแก่การพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้และอุปกรณ์มากขึ้น
ในฐานะที่ Fortinet(R) (NASDAQ: FTNT) ฟอร์ติเน็ตผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบอัตโนมัติและครบวงจร เป็นผู้นำและมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนากลยุทธ์ที่ใช้คุณสมบัติด้านความปลอดภัยเชื่อมโยงเครือข่าย (Security-Driven Networking Strategy) มาโดยตลอด จึงประกาศในวันนี้ถึงการเข้าซื้อกิจการของโอเพค (OPAQ) องค์กรผู้พัฒนาสถาปัตยกรรมคลาวด์ที่ได้รับสิทธิบัตร (Patented Zero Trust Cloud Architecture) โดยวางแผนประสานรวมสถาปัตยกรรมดังกล่าวเข้ากับสถาปัตยกรรมด้านความปลอดภัยซีเคียวริตี้แฟบริค (Security Fabric Architecture) ที่ครอบคลุมกว้างขวางของฟอร์ติเน็ต พัฒนาเป็นแพลทฟอร์มทางเลือกใหม่ที่ลูกค้าและคู่ค้าสามารถเลือกใช้โซลูชั่นเครือข่ายและความปลอดภัยที่ดีที่สุดของฟอร์ติเน็ตได้อย่างสะดวก
ในปัจจุบัน ผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์โดยทั่วไปมักจะมีแพลทฟอร์มด้านความปลอดภัยที่ยังแข็งแกร่งไม่เพียงพอ หรือขาดสถาปัตยกรรมคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่ยืดหยุ่น แต่หลังจากการซื้อกิจการในครั้งนี้ และรวมเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม Zero Trust Cloud Architecture และ Security Fabric Architecture เข้าด้วยกัน จะสามารถสร้างเป็นแพลทฟอร์มแซสซี (Secure Access Service Edge: SASE) ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม ส่งให้ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้จัดหาโซลูชั่นด้านความปลอดภัยเครือข่ายรายเดียวที่สามารถมีโซลูชั่นทั้งด้านเครือข่ายและความปลอดภัยที่เป็น Zero Trust ครบถ้วนอย่างแท้จริง โดยบนแพลทฟอร์มแซสซีใหม่นี้ ฟอร์ติเน็ตสามารถนำเสนอโซลูชั่นด้านความปลอดภัยของตนเองได้ครบถ้วน นับตั้งแต่ไฟร์วอลล์ประเภทเน็กซ์เจนเนอเรชั่น (NGFW) พร้อมกับศักยภาพการเชื่อมโยงเครือข่ายแอสดีแวน (SD-WAN) ชั้นนำในอุตสาหกรรม รวมทั้งโซลูชั่นความปลอดภัยสำหรับเว็บ (Web Security) แซนบ็อกซิ่ง (Sandboxing) การป้องกันอุปกรณ์ปลายทางระดับสูง (Advanced endpoint) การพิสูจน์ตัวตนเพื่อเข้าใช้งานแบบหลายปัจจัย (Identity/multi factor authentication) การป้องกันเวิร์คโหลดในมัลติคลาวด์ (Multi-cloud workload protection) ตัวกลางบริหารความปลอดภัยสำหรับแอปพลิเคชั่นบนคลาวด์ (Cloud application security broker: CASB) การแยกเบราว์เซอร์ (Browser isolation) และคุณสมบัตินานาประการของไฟร์วอลล์สำหรับเว็บแอปพลิเคชัน (Web application firewall)
แพลตฟอร์มของโอเพคนั้นได้รับการออกแบบมาสำหรับกลุ่มพันธมิตรประเภทต่างๆ โดยคำนึงถึงการเข้าใช้งานอย่างง่ายๆ จึงเอื้อให้ผู้ให้บริการประเภท MSSP ผู้ให้บริการโครงข่าย พันธมิตรประเภทเพิ่มมูลค่าในระดับสูงสามารถรวมแพลตฟอร์มแซสซีที่มีผู้ใช้บริการหลากหลายนี้ เข้ากับข้อเสนอด้านบริการศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย (Network Operations Center: NOC) และบริการด้านศูนย์ปฎิบัติการความปลอดภัย (Security Operations Center: SOC) และบริการระดับมืออาชีพขั้นสูงอื่นๆ สามารถเพิ่มมูลค่าแก่ข้อเสนอ และนำเสนอที่มีความแตกต่างให้กับลูกค้าของตนเองได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเข้าซื้อกิจการโอเพคอันเป็นองค์กรที่มีจุดเด่นเหนือผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัยระบบคลาวด์อื่นๆ ในครั้งนี้ จะส่งให้ฟอร์ติเน็ตสามารถจัดมอบ:
ศักยภาพด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุด มีความยืดหยุ่นที่สุด มีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยไซเบอร์ผ่านทางคลาวด์ชุดโซลูชั่นด้านความปลอดภัยระบบคลาวด์ที่รวบรวม และครอบคลุม ให้ความปลอดภัยแบบ True Zero Trust Security ที่เชื่อถือได้อย่างแท้จริง เหนือผู้ให้บริการ Zero Trust Network Access (ZTNA) อื่นๆ ที่ยังคงมีช่องว่างเสี่ยงต่อการถูกโจมตีโซลูชั่น ZTNA ที่ไม่เหมือนใครด้วยนวัตกรรมการรักษาความปลอดภัยซึ่งจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาระดับแนวหน้าของฟอร์ติเน็ตรวมการทำงานของการเชื่อมโยงเครือข่ายเข้ากับการทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยได้ครบวงจร ทั้งนี้รวมถึง ศักยภาพการทำงานของระบบเอสดีแวนชั้นนำในอุตสาหกรรมของฟอร์ติเน็ตที่กำลังได้รับความนิยม และเป็นการสนับสนุนวิสัยทัศน์ด้านความปลอดภัยที่ใช้เชื่อมโยงเครือข่าย (Security-Driven Networking Strategy) ของฟอร์ติเน็ตอีกด้วยเอื้อให้ฟอร์ติเน็ตมุ่งมั่นพัฒนาโซลูชั่น ZTNA ให้กับพันธมิตรและลูกค้ามากที่สุดในตลาด