กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่
บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) โชว์ความแข็งแกร่ง แม้เจอสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ผลงานครึ่งปีแรกยังกำไร ส่วนทั้งปีมั่นใจยอดขายฟื้นตัวได้ ด้าน “ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง” ประกาศเดินหน้าสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นตามแผน ด้วยการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่ลงทุนน้อย ให้ผลตอบแทนรวดเร็ว
นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (WP) เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมครึ่งปีแรกของปี 2563 ยอดขายแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) โดยรวมภายในประเทศจะลดลง 13.3 % แต่ยอดขายของกลุ่มบริษัทฯ ลดลงเพียง 7% ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2563 กลุ่มบริษัทฯ ยังคงรักษาระดับการเติบโตให้อยู่ในทิศทางบวกได้ แสดงให้เห็นว่าธุรกิจโดยรวมของ WP ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เชื่อว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปีของกลุ่มบริษัทฯ ยังคงเติบโตอยู่ในทิศทางบวก เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 เริ่มคลายกังวล ส่งผลทำให้ยอดขายกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ประกอบกับกลุ่มบริษัทฯ ได้เพิ่มจุดกระจายสินค้าตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มลูกค้ามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า ในครึ่งปีหลังกลุ่มบริษัทฯ ได้เพิ่มกลยุทธ์สำคัญในการเสริมสร้างธุรกิจให้เติบโต อาทิ ร่วมมือกับ “วันเดอร์ ฟู้ด คอมปานี” ตั้งกิจการร่วมทุนทำธุรกิจด้านอาหาร รวมทั้งมีแผนพัฒนาเรื่องของการบริการ โดยการนำระบบ Loyalty program มาใช้เป็นเครื่องมือกระตุ้นยอดขายเพื่อให้เกิดการกลับมาซื้อสินค้าและบริการซ้ำ และเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้าตัวแทนจำหน่ายในระยะยาว พร้อมกับสร้างสถานะให้คู่ค้าเป็นมากกว่าคู่ค้าทั่วไป
นอกจากนี้ยังได้จัดแคมเปญโฆษณา “เคียงข้าง สร้างรอยยิ้ม” ที่จัดทำขึ้นเพื่อตอกย้ำให้เห็นว่าไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย พลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแก๊สหุงต้มของแบรนด์เวิลด์แก๊สก็ยังเป็นเหมือน “เพื่อนแท้” ที่อยู่เคียงข้างเพื่อสร้างความสุขและความอุ่นใจให้กับคนไทยอยู่เสมอ
“กลุ่มบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก และให้ผลตอบแทนที่รวดเร็ว เพื่อกระจายความเสี่ยง ต่อยอดรายได้และสร้างฐานธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ให้แข็งแกร่ง มั่นคงตามแผนยุทธศาสตร์ที่ได้วางไว้ อันจะนำมาเพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นในระยะยาวต่อไป” นางสาวชมกมล กล่าวในที่สุด