กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--เอสซีจี
ในพื้นที่ชนบทและห่างไกล ยังมีเด็กนักเรียนจำนวนมากที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ในการเรียนและอ่านเขียนหนังสืออย่าง “โต๊ะ” ทำให้เด็กต้องนั่งก้มตัวอ่านหนังสือหรือนอนราบกับพื้นเพื่อเขียนหนังสือเป็นประจำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสรีระของเด็กในอนาคต เช่น มีอาการปวดหลัง ปวดคอ และส่งผลเสียต่อสายตาได้ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย จึงร่วมกับ เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ออกแบบและผลิตโต๊ะกระดาษ 3 in 1 เพื่อส่งมอบให้เด็ก ๆ ได้ใช้โต๊ะเรียนที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการนั่งที่ผิดหลักการยศาสตร์อันจะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว โดยเมื่อเร็วๆ นี้ คุณสุชัย กอประเสริฐศรี ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กิจการบรรจุภัณฑ์กระดาษ เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ร่วมมอบ “โต๊ะกระดาษ 3 in 1 เพื่อการเรียนรู้” จำนวน 25,000 ชุด ให้แก่ ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปมอบให้แก่นักเรียนในพื้นที่ชนบทในเครือข่ายของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ทั่วประเทศ
“โต๊ะกระดาษ 3 in 1 เพื่อการเรียนรู้” ทำจากกระดาษรีไซเคิลน้ำหนักเบา มีความแข็งแรง คงทน ช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งไปยังพื้นที่ทุรกันดาร ใช้วัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และสามารถนำกลับสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ทั้งหมด ไม่ก่อให้เกิดขยะที่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม สามารถประกอบขึ้นรูปได้ง่าย และมีฟังก์ชั่นในการใช้งานถึง 3 อย่างในตัวเดียว ทั้งเป็นโต๊ะนั่งเขียนและอ่านหนังสือ เป็นที่เก็บของและอุปกรณ์การเรียน และพับเป็นกระเป๋าใส่สมุดหนังสือหิ้วไปใช้งานที่บ้านและโรงเรียนได้ โดยมีคำแนะนำในการใช้งานไว้ให้เด็ก ๆ ได้อ่านและปฏิบัติตามที่ด้านข้างโต๊ะ พร้อมทั้งคู่มือในการประกอบแนบมาให้ด้วย ซึ่งนอกจากจะใช้ประโยชน์ได้หลากหลายแล้ว ยังทำให้เด็กได้เรียนรู้และสนุกไปกับการปรับใช้โต๊ะกระดาษตามความต้องการของตัวเองได้ง่าย ๆ อีกด้วย
ดิเรกข์ อินสกุล นักออกแบบ เอสซีจี แพคเกจจิ้ง กล่าวว่า “โจทย์สำคัญของมูลนิธิศุภนิมิตฯ คือการออกแบบโต๊ะที่น้ำหนักเบา พกพาง่าย และใช้งานได้หลากหลาย เราจึงเลือกใช้กระดาษ มาพัฒนารูปแบบให้ตรงตามการใช้งานและเหมาะกับสรีระของเด็ก สามารถดัดแปลงได้หลายฟังก์ชั่น โดยเลือกใช้กระดาษลอนหนา คำนวณจุดรับแรงกดให้ดี เน้นความแข็งแรง และออกแบบโครงสร้างให้เด็กประกอบเองได้ ไม่ซับซ้อน ข้อดีอีกอย่าง คือ สามารถสอดแทรกการเรียนรู้ไว้ในตัว เหมือนกับปริศนาที่ให้เด็กได้ทดลองประกอบเป็นของใช้อย่างที่ตัวเองต้องการ และหลังจากใช้งานจนชำรุดแล้ว วัสดุกระดาษพวกนี้สามารถนำกลับมารีไซเคิล เข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่ได้ง่าย ไม่ถูกทิ้งเป็นขยะ กระดาษจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด และเราก็ดีใจที่เห็นว่าเด็ก ๆ สนุกกับการประกอบโต๊ะกระดาษและนำไปใช้งานได้จริง”
ณัฐวิกา สุขภิรมย์เกษม ผู้จัดการกลุ่มงานเสริมสร้างความผูกพันผู้อุปการะและผู้บริจาค มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “เมื่อทางมูลนิธิฯ ตัดสินใจจัดหาโต๊ะให้น้อง ๆ สิ่งแรกที่เราคิดก็คือ อะไรคือวัสดุที่เบา พกง่าย และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย คำตอบที่ทุกคนคิดตรงกันคือ กระดาษ ดังนั้น เราจึงเลือกร่วมงานกับเอสซีจี แพคเกจจิ้ง ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีพันธกิจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมตรงกับเป้าหมายโครงการของเรา ซึ่งเอสซีจี แพคเกจจิ้ง ได้ตอบรับเราอย่างดี ตั้งแต่การร่วมวางแผนและคิดคอนเซ็ปต์โต๊ะกระดาษ ปรับปรุงรูปแบบให้ออกมาดูดี แข็งแรง เด็กเอาไปใช้งานได้จริง โดยเราใช้เวลาทำงานและพัฒนาด้วยกันมาเกือบปี ทำให้เรารู้ว่าเอสซีจี แพคเกจจิ้ง เป็นมืออาชีพด้านการออกแบบจริง ๆ สามารถดีไซน์และปรับปรุงจนกลายมาเป็นโต๊ะกระดาษ 3 in 1 สำหรับน้อง ๆ ที่ดีที่สุด ซึ่งเราประทับใจการทำงานกับทางเอสซีจี แพคเกจจิ้ง มาก”
“ขั้นตอนการประกอบโต๊ะง่ายมาก หนูดูจากเอกสารตัวอย่างก็เข้าใจเลย รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ ที่ได้โต๊ะกลับไปใช้ที่บ้าน หนูจะเอาไปแบ่งให้น้องใช้ด้วยกันค่ะ” เด็กหญิงพอเลวันเดย์ นักเรียนโรงเรียน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี กล่าว
เอสซีจี แพคเกจจิ้ง และมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ยินดีที่ได้มีส่วนร่วมให้เยาวชนไทยก้าวข้ามอุปสรรคในการเรียนรู้ ด้วยไอเดียสร้างสรรค์จนเกิดเป็นคุณค่าเพื่อสังคมที่น่าอยู่และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน