กรุงเทพฯ--21 ส.ค.--ไออาร์ พลัส
ซินเน็คฯ เผย Q2/63 ร้อนแรง กำไรสุทธิอยู่ที่ 166 ล้านบาท โตเกือบร้อยละ 40 รายได้จากการขายและให้บริการ 8,693 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 รับปัจจัยบวกสินค้าไอทีเป็นที่ต้องการสูงจับกระแสสินค้า Work From Home ในช่วง COVID-19 ควบคู่การขยายพอร์ตนำสินค้าใหม่เข้ามาสนับสนุนและบุกตลาดเกมมิ่ง นำบิ๊กแบรนด์เข้ามาเสริมทัพ หนุนซินเน็คเป็นดิสทริบิวเตอร์ไอทีเบอร์ 1 ในประเทศไทยได้อย่างไรข้อกังขา ประกอบกับครึ่งปีหลังได้อานิสงส์สินค้ากลุ่ม 5G และสินค้าใหม่เปิดตัว เป็นช่วง ไฮซีซั่นของธุรกิจ แถมล่าสุดบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.14 บาท กำหนดจ่าย 8 กันยายนนี้ ตอกย้ำภาพรวมธุรกิจไอทีอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น และตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุน
นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SYNEX) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไอทีชั้นนำระดับโลกหลากหลายประเภท เปิดเผยถึง ภาพรวมผลการดำเนินบริษัทฯ ในช่วงไตรมาส 2/2563 เติบโตอย่างโดดเด่น แม้อยู่ในท่ามกลางวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ที่มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก แต่พิสูจน์แล้วว่าธุรกิจไอทีและเทคโนโลยีมีความจำเป็น และเป็นที่ต้องการสูงในช่วงเวลาดังกล่าว ซินเน็คฯ ในฐานะดิสทริบิวเตอร์ไอทีอันดับหนึ่งของประเทศไทย เรามีความพร้อมในการนำเสนอสินค้าและบริการทุกช่องทาง ควบคู่การบริหารจัดการภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผลประกอบการที่ออกมาเติบโตอย่างน่าประทับใจได้
โดยในงวดไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 166 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47 ล้านบาท หรือร้อยละ 40 จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีรายได้จากการขายและให้บริการ 8,693 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 812 ล้านบาท หรือร้อยละ 10 และมีกำไรขั้นต้น 384 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47 ล้านบาท หรือร้อยละ 14 เนื่องจากการเติบโตจากยอดขายของสินค้าในกลุ่มสินค้าประเภทอุปกรณ์สื่อสาร กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ และกลุ่นสินค้าเกมมิ่ง ตลอดจนการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และความต้องการของตลาด รวมถึงการให้บริการเต็มรูปแบบทั้งก่อนและหลังการขายเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า
ส่งผลให้รายได้และผลการดำเนินงานฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในช่วงกลางไตรมาส จากความต้องการสินค้าไอทีที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับการทำงาน และใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ภายหลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญต่อการควบคุมค่าใช้จ่ายทั้งด้านการจัดจำหน่ายและการบริหาร โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการ ให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว จึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและสร้างโอกาสการเจริญเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
ขณะที่ ผลการดำเนินงานสำหรับงวด 6 เดือนของปี 2563 มีรายได้จากการขายและให้บริการเท่ากับ 16,024 ล้านบาท ลดลง 1,411 ล้านบาท หรือร้อยละ 8 จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ในช่วงไตรมาสแรกของปี แต่ยอดขายฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงไตรมาสสองภายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 298 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ประมาณ 5 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.7 จากปีก่อน ทั้งนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญต่อการควบคุมค่าใช้จ่ายในอัตราที่เหมาะสม
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 26 สิงหาคม 2563 และวันที่จ่ายปันผล 8 กันยายน 2563 เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุน
“ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2563 สินค้าไอทีได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม Work From Home ได้แก่ Notebook, iPad, อุปกรณ์ Home Networking และ VDO จากสถานการณ์ COVID-19 กระตุ้นความต้องการซื้อ ควบคู่กับยอดขายออนไลน์ที่บริษัทเป็น official store ให้กับหลากหลายแบรนด์ชั้นนำเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากการจัดจำหน่ายสินค้าครบวงจร พร้อมบริการหลังการขาย และความสามารถในการทำกำไรที่ดี รวมถึง สัดส่วนรายได้จากสินค้า Apple เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ภาพรวมตลาดเกมในประเทศไทยยังคงเติบโตได้ร้อนแรง ซินเน็คฯ ได้ขยายพอร์ตสินค้ากลุ่มเกมมิ่งในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ แบรนด์ Razer และ EPOS สนับสนุนให้บริษัทฯ เป็นผู้นำตลาดเกมมิ่งที่ครองมาร์เก็ตแชร์ในพอร์ตเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครวมกับเกมมิ่งเกียร์เบอร์ 1 ในประเทศ” นางสาวสุธิดา กล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ซินเน็คฯ ได้รับอานิสงส์จากการเข้ามาของเทคโนโลยี 5G ในช่วงปลายปีนี้ รวมทั้ง การเปิดตัวของสินค้าใหม่กระตุ้นตลาดในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจของทุกปี พร้อมทั้ง การขยายพอร์ตนำสินค้าที่มีศักยภาพเข้ามาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ในช่วงที่ผ่านมาได้เปิดตัวแคมเปญ “Synnex Double Protection” มอบความคุ้มครองพิเศษให้กับลูกค้า โดยให้ระยะเวลารับประกันสินค้าเพิ่มอีก 1 เดือน และมอบประกันอุบัติเหตุคุ้มครองโดย AIG เมื่อซื้อสินค้าที่มีสัญลักษณ์ Trusted by SYNNEX เพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและพันธมิตร เพิ่มความครบวงจรทั้งบริการก่อนและหลังการขาย สร้างความแตกต่าง และตอกย้ำในฐานะผู้นำในตลาดนี้
“ปีนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี แม้สถานการณ์ของโควิด-19 จะกระทบภาพรวมธุรกิจในประเทศไทย แต่สินค้าไอทียังเติบโตและมีดีมานด์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เป็นนิวนอร์มอลที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น หลังจากนี้ ซินเน็คฯ มองแนวโน้มครึ่งปีหลังได้รับปัจจัยบวกจาก 5G เข้ามาสนับสนุน สินค้าใหม่จะทยอยเปิดตัว และเชื่อจะได้รับการตอบรับต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า” นางสาวสุธิดา กล่าวทิ้งท้าย