กรุงเทพฯ--21 ส.ค.--ไอบีเอ็ม ประเทศไทย
วันนี้ ไอบีเอ็มและโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ประกาศใช้โซลูชันคลาวด์อัจฉริยะ พร้อมเตรียมย้ายเวิร์คโหลด SAP จากระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบ on-premise ในปัจจุบัน สู่ไอบีเอ็มคลาวด์ ภายใต้โมเดล Platform-as-a-service หรือ PaaS ที่จ่ายตามการใช้งานจริง มีความปลอดภัยสูง และมีการการันตีประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งจะช่วยให้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์สามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ขณะเดียวกันก็ได้รับประโยชน์จากระบบคลาวด์สำหรับธุรกิจที่เปิดกว้างและมีความปลอดภัยมากที่สุดระบบหนึ่ง
ในแต่ละปีโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ให้บริการรักษาผู้ป่วยมากกว่า 1.1 ล้านคนจากกว่า 190 ประเทศ ด้วยเหตุนี้ การมอบประสบการณ์การบริการและนวัตกรรมทางคลินิกที่ก้าวล้ำจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับทางโรงพยาบาล ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยระบบที่ครบวงจรพร้อมด้วยประสิทธิภาพที่วางใจได้เพื่อรองรับความเป็นเลิศในด้านการดำเนินงาน
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ตัดสินใจเพิ่มเสถียรภาพของระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบ on-premise ในองค์กร ด้วยขีดความสามารถใหม่ๆ ของระบบคลาวด์ โดยผนวกรวมระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบ on-premise เข้ากับสภาพแวดล้อมบนระบบคลาวด์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
ในการนี้ บำรุงราษฎร์จะใช้แอพพลิเคชันที่บริหารจัดการโดย SAP บนไอบีเอ็มคลาวด์ รวมถึงบริการซิเคียวริตี้แบบ managed services ที่พร้อมใช้งานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยภายใต้ข้อตกลง ไอบีเอ็มจะช่วยโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ย้ายระบบ SAP และ S/4HANA แบบ on-premise ไปยังสภาพแวดล้อมที่มีความปลอดภัยสูงของไอบีเอ็มคลาวด์ ที่มาพร้อมการรับประกันประสิทธิภาพความพร้อมในการให้บริการสูงถึง 99.9% โดยการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์สามารถลดต้นทุนโดยรวม (TCO) และลดความเสี่ยงด้านการดำเนินงานโดยรวมลง
ระบบโครงสร้างพื้นฐานใหม่นี้จะช่วยให้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์สามารถส่งมอบบริการผ่านระบบที่พร้อมใช้งานตลอดเวลาและมีความน่าเชื่อถือ ที่มีระบบซิเคียวริตี้มาตรฐานสูงระดับองค์กร ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ไอทีของโรงพยาบาลฯ ลดภาระงานบริหารจัดการระบบไอทีและงานบำรุงรักษาที่เป็นกิจวัตรประจำวันลงและสามารถหันไปทุ่มเวลากับโครงการเชิงกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน การย้ายระบบไปยังไอบีเอ็มคลาวด์ที่มีความปลอดภัยสูง รวมทั้งความสามารถในการบริหารจัดการระบบซิเคียวริตี้ของไอบีเอ็มคลาวด์ ยังจะช่วยให้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์สามารถเพิ่มความยืดหยุ่นฟื้นตัวไวและการรักษาความปลอดภัยได้ โดยที่การดำเนินงานขององค์กรยังคงเดินหน้าอย่างไม่มีสะดุด อีกทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีก้าวล้ำอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) อนาไลติกส์ บล็อกเชน แมชชีนเลิร์นนิ่ง เพื่อสนับสนุนก้าวย่างดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน
“อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพกำลังก้าวไปสู่ยุคใหม่ ที่เป็นยุคแห่งโรงพยาบาลอัจฉริยะและการดูแลสุขภาพ 4.0 การเข้าใจถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมด้านการดูแลสุขภาพและบริการทางการแพทย์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ช่วยให้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล สามารถรักษามาตรฐาน รวมถึงได้รับการยกย่องให้เป็นโรงพยาบาลชั้นนำระดับสากล เราเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์และบริการสำหรับผู้ป่วยที่ก้าวล้ำ ที่ได้มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพื่อเสริมคุณภาพของการรักษาผู้ป่วยและการบริการ รวมไปถึงศักยภาพของทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง” นายอิกนาซิโอ ดิแอซ ซานเชซ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว “เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนการพลิกโฉมอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ ขณะที่ IBM Services for Managed SAP Applications ก็เป็นตัวเลือกที่ใช่ที่มาพร้อมนวัตกรรมและความปลอดภัยสูงสุดบนไอบีเอ็มคลาวด์ อันจะช่วยให้เราสามารถบรรลุพันธกิจไม่เพียงแค่ในวันนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงในอนาคตอันใกล้ด้วย"
"การบริการที่มีความปลอดภัย คาดการณ์และป้องกันปัญหาล่วงหน้าได้ รวมทั้งแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ปลอดภัย เสถียร และสอดคล้องกับกฎข้อบังคับภายใต้การกำกับดูแล คือสิ่งที่องค์กรต่างๆ กำลังมองหาในโลกธุรกิจดิจิทัลในปัจจุบัน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพที่มีกฎข้อบังคับเข้มงวด” นายอภิชาติ อรุณคุณารักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโกลบอล เทคโนโลยี เซอร์วิสเซส ของไอบีเอ็ม ประเทศไทย กล่าว “ไอบีเอ็มมีความยินดีที่วันนี้เราได้นำแพลตฟอร์มไอบีเอ็มคลาวด์ รวมทั้งบุคลากร และบริการภายใต้เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญเชิงอุตสาหกรรมของไอบีเอ็ม เข้าสนับสนุนให้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์สามารถส่งมอบการดูแลผู้ป่วยจำนวนหลายล้านคนด้วยมาตรฐานชั้นนำระดับโลก”