![NOTES การผ่าตัดทางนรีเวชแบบไร้รอยแผลภายนอก ฟื้นตัวไว ใช้ชีวิตได้เร็ว]()
กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--โรงพยาบาลไทยนครินทร์
“…แบบนี้ต้องเข้ารับการ
ผ่าตัดค่ะ…” ไม่ว่าใครได้ยินแบบนี้ก็ต้องตกใจ
ผ่าตัด!!! …
ผ่าตัดต้องเจ็บมากแน่ ๆ …จะลุกไหวไหม …ต้องนอนอยู่เฉย ๆ กี่วัน …
ผ่าตัดก็หยุดงานนานสิ เศรษฐกิจแบบนี้เจ้านายต้องไล่ฉันออกแน่ …แล้วทริปเที่ยวที่จองไว้จะทำยังไง …ให้พักฟื้นนาน ๆ ไม่ได้ออกกำลังกาย ฉันอึดอัดนะ!!!
แต่ในปัจจุบันนี้ การ
ผ่าตัดทางนรีเวชไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
จากภาพเดิมของการ
ผ่าตัดทางนรีเวชที่มักคิดกันว่า การ
ผ่าตัดจะต้องมีการเปิดหน้าท้อง มีแผลยาว หลัง
ผ่าตัดมีความเจ็บปวดมาก พักฟื้นนาน ภาพเดิม ๆ เช่นนั้นจะไม่ใช่อีกต่อไป เพราะในปัจจุบันการ
ผ่าตัดทางนรีเวชได้รับการพัฒนาจนมี การ
ผ่าตัดผ่านกล้อง ซึ่งการ
ผ่าตัดผ่านกล้องนี้ จะมีแผลทางหน้าท้องที่มีขนาดประมาณ 0.5 - 1 เซนติเมตร จำนวนประมาณ 3 - 4 แผล เพื่อเป็นช่องทางใส่เครื่องมือ
ผ่าตัดในช่องท้อง โดยหลังได้รับการ
ผ่าตัดผ่านกล้อง ความเจ็บปวดหลัง
ผ่าตัดจะน้อยกว่า และระยะเวลาพักฟื้นน้อยกว่าการ
ผ่าตัดเปิดหน้าท้อง นอกจากนี้อัตราการติดเชื้อและการเกิดพังผืดในช่องท้องหลัง
ผ่าตัดผ่านกล้องจะมีน้อยกว่าการ
ผ่าตัดเปิดหน้าท้องมาก
ปัจจุบัน การ
ผ่าตัดยังพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง จนถึงปัจจุบัน มีการ
ผ่าตัดผ่านกล้องแบบไร้รอยแผลภายนอก (Natural Orifice Transluminal Endoscopic Surgery หรือ NOTES)
การ
ผ่าตัดผ่านกล้องแบบไร้รอยแผลภายนอก มาจากภาษาอังกฤษ คือ Natural Orifice Transluminal Endoscopic Surgery หรือ NOTES เป็นการ
ผ่าตัดโดยใช้กล้องและเครื่องมือเพื่อเข้าไปทำการ
ผ่าตัดโดยใช้ช่องทางเข้าทางธรรมชาติของผู้ป่วย สำหรับการ
ผ่าตัดทางนรีเวชนั้น ช่องทางธรรมชาติในการ
ผ่าตัดคือช่องคลอด โดยความเจ็บปวดและการฟื้นตัวหลัง
ผ่าตัดด้วยวิธีนี้จะน้อยกว่าการ
ผ่าตัดผ่านกล้องโดยปกติ และไม่ทำให้เกิดรอยแผลใด ๆ บนร่างกายที่สามารถสังเกตได้จากภายนอก
สำหรับโรคและภาวะที่เหมาะสมกับการ
ผ่าตัดผ่านกล้องไร้รอยแผลภายนอก เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ เนื้องอกรังไข่บางชนิด ภาวะก่อนเป็นมะเร็งของปากมดลูก ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม การ
ผ่าตัดผ่านกล้องแบบไร้รอยแผลภายนอก จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือและแพทย์ที่มีความชำนาญ นอกจากนี้ ด้วยสภาวะของโรคและสภาวะของร่างกายของผู้ป่วยแต่ละคนไม่เหมือนกัน วิธีการ
ผ่าตัดผ่านกล้องแบบไร้รอยแผลภายนอกอาจจะไม่สามารถใช้กับโรคทางนรีเวชได้ทุกโรค จึงควรมีการปรึกษาหารือกับแพทย์ผู้ชำนาญการถึงวิธีการรักษา ข้อดี ข้อเสีย ของการ
ผ่าตัดแต่ละวิธีเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่เหมาะสม