“พลเอก ประวิตร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำอีอีซี ก่อนประชุมครม.สัญจรภาคตะวันออก

ข่าวทั่วไป Monday August 24, 2020 17:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการในโอกาสการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ภาคตะวันออกจังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 24 – 25 สิงหาคม 2563 โดยเมื่อเวลา 11.20 น. ได้เดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำดอกกราย อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง เพื่อประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยรับฟังการบรรยายสรุปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) บรรยายสรุปภาพรวมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน บรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำในพี้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) พร้อมความเชื่อมโยงและวางแผนรองรับความเสี่ยงปัญหาการขาดแคลนน้ำ ช่วงฤดูแล้งปี 63/64 สภาอุตสาหกรรม บรรยายสรุปการวางแผนบริหารจัดการน้ำในนิคมอุตสาหกรรม อีสท์วอเตอร์ บรรยายสรุปการทำกิจกรรม CSR ในพื้นที่ภาคตะวันออก นายสำเริง แสงภู่งค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์น้ำภาคตะวันออกประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำต่อเนื่องจากปัจจัยของฝนเป็นส่วนสำคัญ โดยล่าสุดขณะนี้ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,150 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือ 42% ขณะที่สถานการณ์อ่างเก็บน้ำหลัก 6 แห่งในพื้นที่อีอีซี ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบางพระ อ่างฯหนองค้อ อ่างฯหนองปลาไหล อ่างฯดอกกราย อ่างฯประแสร์ และอ่างฯคลองใหญ่ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำใช้การได้ทั้งสิ้น 264 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อสิ้นสุดฤดูฝนอ่างฯ ขนาดใหญ่จำนวน 3 แห่งในพื้นที่อีอีซี จะมีปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 46% ซึ่งจากการประเมินแนวโน้มปริมาณน้ำอ่างฯ และแหล่งน้ำต่าง ๆ มั่นใจว่า มีใช้อย่างเพียงพอในฤดูฝนนี้ แต่ในฤดูแล้งหน้ายังคงต้องมีการควบคุมติดตามการบริหารจัดการและการจัดสรรน้ำอย่างเข้มข้นต่อเนื่องตามข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรี ทั้งแผนระยะเร่งด่วน 12 มาตรการ แผนระยะสั้น และแผนระยะยาว โดยขณะนี้หน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้คณะทำงานทั้ง 4 ชุดภายใต้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 2.คณะทำงานบริหารจัดการโครงข่ายน้ำอีอีซี ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำดอกกราย อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ อ่างเก็บน้ำประแสร์ อ่างเก็บน้ำหลักในพื้นที่จังหวัดชลบุรี อ่างเก็บน้ำในลุ่มน้ำวังโตนด จังหวัดจันทบุรี และระบบเชื่อมโยง 3.คณะทำงานพิจารณาแนวทางการกำหนดกลไกและโครงสร้างราคาค่าน้ำในพื้นที่อีอีซี และ 4.คณะทำงานทางเทคนิคการพัฒนาโครงการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลรองรับอีอีซี ได้เร่งพิจารณาหาแนวทางกำหนดแผนปฏิบัติการ รวมถึงมาตรการในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีการใช้น้ำที่เกิดความสมดุลในทุกกิจกรรม รวมถึงกำหนดมาตรการเพื่อเสริมความมั่นคงน้ำอีอีซีร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้พื้นที่อีอีซีซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญในการพัฒนาเชิงเศรษฐกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญเกิดความมั่นคงและเพียงพอมีเสถียรภาพทั้งการอุปโภค-บริโภค ระบบนิเวศ ภาคเกษตร อุตสาหกรรม รวมถึงการท่องเที่ยวซึ่งมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สำหรับแผนพัฒนาแหล่งน้ำในอีอีซี ซึ่งในช่วงปี’63 – 80 มีทั้งสิ้น 38 โครงการ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะส่งผลทำให้มีปริมาณน้ำมากขึ้นประมาณ 872 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการดำเนินการแล้ว 16 โครงการ อาทิ สระทับมา จ.ระยอง อ่างเก็บน้ำคลองพะวาใหญ่ จ.จันทบุรี อ่างเก็บน้ำคลองหางแมว จ.จันทบุรี เป็นต้น ซึ่งในการประชุม ครม.นอกสถานที่ครั้งนี้จะมีการเสนอให้ ครม.พิจารณากรอบดำเนินการแผนพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มเติมอีก 10 โครงการ โดยเป็นแผนงานโครงการที่อยู่ในแผนปี’63 – 80 จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองกระพง อ่างเก็บน้ำหนองกระทิง อ่างเก็บน้ำคลองโพล้ อ่างเก็บน้ำเขาจอมแห-เขานั่งยอง เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำรวมทั้งสิ้น 84 ล้าน ลบ.ม. ส่วนอีก 6 โครงการเสนอใหม่ ตามความต้องการในพื้นที่ อาทิ ประตูระบายน้ำคลองท่าลาด ขุดลอกอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ การพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ฐานทับเรือสัตหีบ และการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาระบบประปาในพื้นที่เกาะสีขัง เป็นต้น เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการพิจารณาจัดสรรงบประมาณดำเนินการในระยะต่อไปด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ