กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย
บริษัท โอริกซ์ สเตนเลส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทในกลุ่มของโอริกซ์ สเตนเลส โฮลดิ้ง บี.วี. ประสบความสำเร็จในการระดมเงินทุนหมุนเวียนด้วยสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในวงเงิน 660 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตของ โอริกซ์ สเตนเลส กรุ๊ป ในเอเชีย โดยสินเชื่อดังกล่าวได้รับการจัดโครงสร้างให้เป็นการกู้ยืมโดยถือเกณฑ์สินทรัพย์เป็นหลักประกัน (Borrowing Base) และเป็นหนึ่งในโซลูชั่นทางการเงินที่มีความยืดหยุ่นและเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการธนาคารไทย
คอนเซ็ปต์การให้กู้ยืมแบบ Borrowing Base ซึ่งผู้ให้กู้จะเสนอวงเงินสินเชื่อตามมูลค่าของสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดหาเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในบริบททางธุรกิจที่มีความผันผวน เป็นวัฏจักร หรือตามฤดูกาล ในเบื้องต้น โอริกซ์ สเตนเลส มีแผนที่จะใช้สินเชื่อดังกล่าวเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการจัดซื้อสินค้าคงคลัง ซึ่งจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการพัฒนาในตลาดสแตนเลสสตีลทั่วโลก รวมถึงความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของส่วนประกอบพื้นฐานเช่นนิกเกิล การกู้ยืมแบบ Borrowing Base ทำให้มั่นใจว่ามีการระดมทุนอย่างเพียงพอในช่วงเวลาที่ต้องการและสอดคล้องกับการพัฒนาธุรกิจ เพื่อประโยชน์ของทั้งผู้ให้กู้และผู้ขอกู้
ทั้งนี้ บริษัท โอริกซ์ สเตนเลส (ประเทศไทย) จำกัด ได้แต่งตั้งให้ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย เป็นผู้จัดการระดมเงินกู้ (Lead Arranger) รับผิดชอบการจัดโครงสร้างและจัดการธุรกรรมสินเชื่อหมุนเวียน (Revolving Credit Facility) โดยมีธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย และ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นผู้ให้กู้ (Lender) ภายใต้ข้อตกลงนี้ ในขณะที่ เอชเอสบีซี สิงคโปร์ รับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานสินเชื่อ (Facility Agent) และ บริษัท นอร์ตัน โรส ฟุลไบรท์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดทำเอกสารทางกฎหมาย
นายโรแลนด์ เม้าส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน โอริกซ์ สเตนเลส กรุ๊ป กล่าวว่า “นับเป็นเวลาเกือบทศวรรษแล้วที่ โอริกซ์ สเตนเลส ดำเนินธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการระดมทุนหมุนเวียนด้วยการกู้ยืมแบบ Borrowing Base จากผู้ให้บริการทางการเงินในท้องถิ่นก็ถือเป็นวิสัยทัศน์ของเรามาตั้งแต่แรก ดังนั้นการปิดยอดการระดมทุนในประเทศไทยเมื่อเร็วๆ นี้จึงถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งในการพัฒนาการดำเนินงานในประเทศไทยของเราให้ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังเป็นการตอกย้ำสถานภาพที่ดีของ โอริกซ์ สเตนเลส ทั้งในยุโรปและตลาดทุนไทย”
นายมาไทน์ สมิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอริกซ์ สเตนเลส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวย้ำว่า “โอริกซ์ สเตนเลส มุ่งมั่นรักษาพันธสัญญาของเราที่มีต่อประเทศไทยและชาวไทยมาโดยตลอด นอกจากโอกาสทางธุรกิจที่เราได้รับแล้ว เรายังรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินในรูปแบบใหม่ในประเทศไทย”
นายสิริชัย เต็มภูมิสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท โอริกซ์ สเตนเลส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “การระดมเงินทุนหมุนเวียนด้วยสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อเป็นทุนสำหรับสินค้าคงคลังเป็นรูปแบบการจัดหาเงินทุนที่ชาญฉลาดที่สุดซึ่งตรงกับโมเดลธุรกิจของเรา และเราก็ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารที่แข็งแกร่งและมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในฐานะพันธมิตรที่ตระหนักถึงเรื่องนี้”
นายเคลวิน แทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของ โอริกซ์ สเตนเลส ผ่านการอำนวยความสะดวกทางการเงินที่ยืดหยุ่นและเป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในโซลูชันทางการเงินรูปแบบใหม่ที่นำเสนอเป็นครั้งแรกในประเทศไทย”
นายปัญญา คงคาไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นผู้ร่วมให้บริการเงินกู้ในครั้งนี้เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและยั่งยืนของ โอริกซ์ สเตนเลส ในประเทศไทย และเสริมสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในระยะยาวกับ โอริกซ์ สเตนเลส กรุ๊ป”
บริษัท โอริกซ์ สเตนเลส (ประเทศไทย) จำกัด ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในด้านเศรษฐกิจและการเงินเท่านั้น แต่โมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนในการแปรรูปเศษวัสดุสเตนเลสตามแนวคิดขยะเหลือศูนย์ยังส่งผลให้ โอริกซ์ สเตนเลส (ประเทศไทย) เป็นมาตรฐานและประภาคารสำหรับเศรษฐกิจหมุนเวียนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ในปีที่ผ่านมา การรีไซเคิลเศษสเตนเลสสตีลของบริษัทฯ มีส่วนช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 300,000 ตัน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการปกป้องสังคมจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพทางภูมิอากาศ