กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--กรมวิชาการเกษตร
ในระยะที่มีฝนตกและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ กรมวิชาการเกษตร แนะเกษตรกรผู้ปลูกผักสลัด (โดยเฉพาะผักที่มีใบกว้าง เช่น กรีนคอส บัตเตอร์เฮด) ให้เฝ้าระวังการระบาดของโรคใบจุดตากบ สามารถพบได้ในทุกระยะการเจริญเติบโตของพืช เริ่มแรกจะพบแผลเป็นจุดฉ่ำน้ำสีน้ำตาลอ่อนกระจายอยู่ทั่วใบ เมื่อแผลขยายใหญ่ขึ้นจะมีลักษณะกลมหรือค่อนข้างกลม เรียงซ้อนกันเป็นชั้น กลางแผลมีสีเทาหรือสีขาว และพบเส้นใยของเชื้อราเจริญขึ้นเหนือเนื้อเยื่อของพืช ขอบแผลเป็นสีน้ำตาลลักษณะคล้ายตากบ แผลมีหลายขนาดตั้งแต่จุดเล็กถึงจุดใหญ่ขนาด 1-10 มิลลิเมตร ถ้าอาการรุนแรง แผลจะต่อกันทำให้เกิดอาการใบไหม้ กรณีที่เกิดกับใบอ่อนอาจทำให้เกิดอาการใบหงิกงอได้
สำหรับการปลูกผักสลัดในแปลงปลูก เกษตรกรควรจะทำแปลงปลูกให้มีการระบายน้ำที่ดี และควรเตรียมดิน โดยไถพรวนดินให้ลึกจากผิวดินมากกว่า 20 เซนติเมตรขึ้นไป และตากดินไว้ให้นานอย่างน้อย 30 วัน เพื่อให้เศษซากพืชและวัชพืชย่อยสลาย อีกทั้งควรใช้เมล็ดพันธุ์ที่ปลอดโรค หรือให้ฆ่าเชื้อที่อาจติดมากับเมล็ดด้วยการแช่ในน้ำอุ่น 49-50 องศาเซลเซียส นาน 20-25 นาที
กรณีปลูกผักสลัดในระบบไฮโดรโปรนิกส์ เกษตรกรควรเตรียมพื้นโรงเรือนให้ดีด้วยการโรยหินกรวด เพื่อป้องกันน้ำขังและมีอากาศถ่ายเทสะดวก ภายหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว เกษตรกรควรทำความสะอาดโต๊ะปลูก หากเริ่มพบโรคใบจุดตากบ ให้พ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชเบโนมิล 50% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 12 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารแมนโคเซบ 80% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 80 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ถ้าพบโรคระบาดรุนแรง ให้เกษตรกรปลูกพืชอื่นสลับหมุนเวียนอย่างน้อย 3 ปี