กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค
เมื่อเร็วๆ นี้ มาสเตอร์การ์ด ประกาศย้ำจุดยืนในการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศเมียนมาร์ เตรียมจัดตั้งสำนักงานแรกในเมืองย่างกุ้ง และเตรียมแต่งตั้งผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจประจำประเทศ มาสเตอร์การ์ดตั้งใจที่จะสนับสนุนการพัฒนาระบบชำระเงินแบบดิจิทัลของเมียนมาร์ พร้อมสร้างสังคมไร้เงินสดที่มีความทันสมัยและประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงได้ การจัดตั้งสำนักงานประจำประเทศเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในระยะยาวของมาสเตอร์การ์ดในการต่อยอดนโยบายระดับประเทศด้านดิจิทัลของเมียนมาร์ ทั้งยังเป็นการสะท้อนถึงความมั่นใจของมาสเตอร์การ์ดที่มีต่อประเทศเมียนมาร์ตลอดมา
ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ Asia Development Bank คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพีของประเทศเมียนมาร์จะดีดตัวขึ้นเป็น 6% ในปี 2021 ซึ่งจะทำให้เมียนมาร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมียนมาร์ประสบความสำเร็จมากมายในการปรับเปลี่ยนประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัล อาทิเช่น แม้ว่าประชากรที่มีบัญชีธนาคารจะมีไม่ถึง 1 ใน 4 แต่ประชากรกว่า 80% มีโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเอง และส่วนใหญ่ทำธุรกรรมทางการเงินและโอนเงินในรูปแบบดิจิทัลผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งรัฐบาลเมียนมาร์ได้ใช้ประโยชน์จากจุดนี้วางรากฐานสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของระบบชำระเงินในปัจจุบันที่ถูกออกแบบให้ผู้ประกอบการและธุรกิจสามารถใช้โอกาสจากวิธีการชำระเงินของผู้บริโภค ร้านค้าและรัฐบาลในการทำธุรกิจได้
นายซาฟดาร์ คาน ประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “ด้วยวิสัยทัศน์อันล้ำสมัยที่ทำให้ประชาชนและธุรกิจสามารถชำระเงินผ่านระบบที่มีความซับซ้อนอย่างการชำระเงินแบบเรียลไทม์ได้ ถือได้ว่าประเทศเมียนมาร์กำลังอยู่ในช่วงสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ มาสเตอร์การ์ดได้ร่วมมือกับหลายร้อยประเทศทั่วโลกในการพัฒนาและขยายระบบนิเวศของการชำระเงินของประเทศนั้นๆ ซึ่งความมุ่งมั่นของมาสเตอร์การ์ดที่มีต่อเมียนมาร์นั้นไม่ต่างกัน โดยจะเน้นไปที่การนำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับโลก ผนวกกับการมีสำนักงานประจำประเทศและความเข้าใจในสภาพแวดล้อมภายในประเทศ มาสนับสนุนและช่วยให้อนาคตของเมียนมาร์ ก้าวสู่ความเป็นดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย”
“ในขณะที่เมียนมาร์เดินหน้าพัฒนาด้านดิจิทัล การส่งเสริมชาวเมียนมาร์ให้มีทักษะและความรู้ที่จำเป็นต่อการมีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลยังคงเป็นสิ่งสำคัญ มาสเตอร์การ์ดจึงจะนำเอาประสบการณ์และทักษะหลายสิบปีในด้านเทคโนโลยีมาช่วยเร่งพัฒนาบุคลากรในเมียนมาร์ นอกจากนี้ ด้วยความมุ่งมั่นขององค์กรที่ต้องการสร้างทีมงานฝีมือคุณภาพจากคนในพื้นที่ มาสเตอร์การ์ดกำลังจัดตั้งทีมประจำประเทศเพื่อต่อยอดการทำงานในพื้นที่และผลักดันเป้าหมายขององค์กรในการสร้างผลสำเร็จในระยะยาวที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับประเทศ” นายคาน กล่าวเสริม
มาสเตอร์การ์ดทำงานร่วมกับรัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเมียนมาร์มาโดยตลอดเกือบสิบปีในการพัฒนาระบบการชำระเงินให้เป็นระบบดิจิทัล และประสบความสำเร็จในการจัดตั้งโครงการและการดำเนินงานที่สำคัญมากมาย อาทิ:
มาสเตอร์การ์ดเป็นผู้ให้บริการระหว่างประเทศรายแรกที่ออกใบอนุญาตให้กับธนาคาร Co-operative Bank (CB) ซึ่งทำให้สามารถออกบัตรมาสเตอร์การ์ดและใช้จับจ่ายภายในประเทศได้ร่วมมือกับธนาคาร Co-operative Bank และรัฐบาลเมียนมาร์เพื่อย่นระยะเวลาการจดทะเบียนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก จากหนึ่งเดือนเหลือวันเดียว ผ่าน “MSME Webportal” หรือเว็บพอร์ทัลของภาครัฐร่วมมือกับธนาคาร Myanmar Apex Bank เปิดตัวบัตร “MAB Lady’s” บัตรเครดิตใบแรกของเมียนมาร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะร่วมมือกับธนาคาร Yoma Bank พัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นของธนาคารให้เป็นดิจิทัลและปรับเปลี่ยนให้สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าและธุรกิจเอสเอ็มอีได้ตรงจุดยิ่งขึ้นจัดข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรมาสเตอร์การ์ดให้เพลิดเพลินไปจนถึงปี 2021 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 8 ปีของมาสเตอร์การ์ดในเมียนมาร์