กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
ช. การช่าง ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ครั้งใหม่ มูลค่า 5,000 ล้านบาท ระบุปัจจัยสนับสนุนมาจากความเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำในธุรกิจก่อสร้างและการพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคของประเทศไทย
ดร. สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง การจัดออกหุ้นกู้ครั้งนี้จำนวน 3 ชุด ว่าบริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง จากเบื้องต้นที่ต้องการจะออกหุ้นกู้จำนวน 3,000 ล้านบาท แต่ผลการสำรวจความต้องการลงทุนในหุ้นกู้ (Bookbuild) เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 มีผู้ลงทุนแสดงความจำนงในการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทมากกว่ามูลค่าที่บริษัทมีแผนเสนอขายเดิมกว่า 2 เท่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อบริษัท จึงตัดสินใจเพิ่มยอดการออกหุ้นกู้เป็นจำนวน 5,000 ล้านบาท เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่
หุ้นกู้ชุดใหม่นี้มีจำนวน 3 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.31% มูลค่า 500 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.12% มูลค่า 3,000 ล้านบาท และหุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.50% มูลค่า 1,500 ล้านบาท โดยหุ้นกู้รุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี บริษัทมีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน ทั้งนี้ หุ้นกู้ทั้ง 3 ชุดดังกล่าว ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ในระดับ “A” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 63 และได้เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ระหว่างวันที่ 10 -11 และ 13 สิงหาคม 63 และออกหุ้นกู้ในวันที่ 14 สิงหาคม 63 โดยมีธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้
ดร. สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่หุ้นกู้ของบริษัทได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนอย่างมากในครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนในผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยผลประกอบการ ณ สิ้นปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 24,797 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,793 ล้านบาท ด้านฐานะทางการเงิน มีสินทรัพย์รวม 82,586 ล้านบาท หนี้สินรวม 54,773 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 27,813 ล้านบาท รวมถึงการมองเห็นถึงศักยภาพของบริษัทในโครงการลงทุนต่าง ๆ ที่ผ่านมารวมถึงในอนาคต อาทิ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซีเคพาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) โดยทั้ง 3 บริษัทดังกล่าว ดำเนินงานที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ อาทิ ระบบขนส่งมวลชนและสาธารณูปโภคพื้นฐานซึ่งอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานหรือสัญญาซื้อขายระยะยาว นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นความเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นนำในประเทศไทย ตลอดจนความสามารถในการรับงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่และโครงการที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง รวมทั้งความแข็งแกร่งในการดำเนินโครงการและความยืดหยุ่นทางการเงินที่เกิดจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัท โดยจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ นำไปชำระคืนหนี้ และ/หรือ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ตลอดจนเพื่อรองรับการลงทุนของโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อไป