กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--บุญรอดบริวเวอรี่
สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ จัดการแข่งขันกอล์ฟนัดพิเศษ ในรายการ "ทีจีเอ-สิงห์ ซูเปอร์ แมตช์ 2020" ซึ่งเป็นการดวลกันระหว่าง ทีมนักกอล์ฟทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน กับ ทีมนักกอล์ฟอาชีพ ที่เป็นอดีตนักกอล์ฟทีมชาติ ณ สนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563 ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้กับนักกีฬาชุดปัจจุบัน
รายการนี้ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ร่วมกับ สนามกอล์ฟกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ ให้การสนับสนุน สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขันกอล์ฟนัดพิเศษ โดยนำเอาอดีตนักกีฬาทีมชาติที่ปัจจุบันเล่นในระดับอาชีพ ลงแข่งขันกับนักกีฬาทีมชาติชุดปัจจุบัน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเปิดโอกาสให้น้องๆทีมชาติชุดปัจจุบัน สัมผัสกับแนวทางการเล่นของนักกีฬารุ่นพี่ที่สั่งสมประสบการณ์จากการเล่นในระดับอาชีพ ภายใต้ระบบการแข่งขันพิเศษ
"บิ๊กรัง" รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมฯ เผยถึงจุดประสงค์ของการแข่งขันว่า "วันนี้เป็นการแข่งขันกอล์ฟนัดพิเศษที่เรานำเอาอดีตทีมชาติรุ่นพี่ที่เทิร์นโปรแล้ว มาร่วมแข่งขันกับนักกอล์ฟรุ่นน้อง ทั้งการแข่งขันในระบบแมตช์เพลย์ และรูปแบบชาลเลนจ์ฐานต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ให้กับนักกอล์ฟของเรา ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มทักษะให้กับนักกอล์ฟเพื่อนำไปใช้ได้จริงในการแข่งขัน"
บิ๊กบอส สวิงไทย เผยต่อว่า "ทั้งนี้การแข่งขันที่จัดขึ้นมาก็เพื่อให้นักกีฬาของเราที่ปัจจุบันไม่มีแมตช์ออกไปแข่งขันยังต่างประเทศ เนื่องจากติดสถานการณ์ไวรัส โควิด-19 จะได้รับประสบการณ์จากการแข่งขัน ซึ่งก็ถือว่าสนามกรังด์ปรีซ์ เป็นสนามที่มีมาตราฐานที่ยอดเยี่ยม ไม่แพ้สนามในต่างประเทศ และเราก็พร้อมที่จัดการแข่งขันแบบนี้ขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเปิดโอกาสให้รุ่นพี่ได้นำเอาประสบการณ์ท่ายทอดให้กับรุ่นน้อง"
นักกีฬาทีมชาติไทยชุดปัจจุบันที่ร่วมการแข่งขันประกอบไปด้วย "พราว" ชเนตตี วรรณแสน, "ซิม" ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ, "ชมพู่" จุมพิตา จุลอักษร, "เอด้า" นพรัตน์ พานิชผล, "เดวิด" เด่นวิทย์ บริบูรณ์ทรัพย์, "นนท์" สุทธินนท์ ปัญโญ ขณะที่ทีมนักกอล์ฟอาชีพที่เป็นอดีตทีมชาติประกอบไปด้วย "โปรเบสต์" ปรินดา โพธิ์กัณฑ์ อดีตมือ 1 ไทยแอลพีจีเอ และแชมป์จาก ไต้หวันแอลพีจีเอ ทัวร์ หลายรายการ, "โปรนุ๊ก" บุษบากร สุขพันธ์ ที่ปัจจุบันเล่นใน สเต๊ปอัพทัวร์ ของญี่ปุ่น และกำลังไต้อันดับขึ้นมาเล่นใน เจแปน แอลพีจีเอ, "โปรออม" สุภมาส แสงจันทร์ ที่สร้างชื่อในระดับอาชีพทั้งใน ไชน่า แอลพีจีเอ และ ไต้หวัน แอลพีจีเอ รวมถึงใน ไทยแอลพีจีเอ, "โปรเพชร" สดมภ์ แก้วกาญจนา ที่เล่นใน เอเชี่ยน ทัวร์ และทำสถิติคว้าแชมป์ด้วยอายุน้อยที่สุด, "โปรเกะ" โคสุเก ฮามาโมโต้ ที่เล่นใน เอเชี่ยน ทัวร์ และรวมถึงในทัวร์ไทยทั้งศึก ออลไทยแลนด์ฯ และ ไทยพีจีเอ ทัวร์, "โปรดราก้อน" อติรุจ วินัยเจริญชัย สวิงดาวรุ่งที่คว้าแชมป์ในระดับ ไทยพีจีเอ ทัวร์ และรวมถึงเล่นใน ออลไทยแลนด์ฯ และในศึก เอเชียน ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์
รอบเช้าจะเป็นการเล่นในระบบ ซิงเกิ้ลแมตช์เพลย์ 18 หลุม โดยที่ 3 สวิงสาวทีมชาติไทย เป็นฝ่ายเอาชนะรุ่นพี่ไปได้ ขณะที่ในประเภทชายสวิงทีมชาติพ่ายให้กับรุ่นพี่ไป ก่อนที่รอบบ่ายจะเป็นการแข่งขันแบบ ซิงเกิ้ลแมตช์เพลย์ จำนวน 6 ฐาน ซึ่งประกอบไปด้วย ฐานที่ 1 ตีชอตพาร์ 3 หลุม 3 ลงเขา, ฐานที่ 2 ตีลูกเฟด ระยะ 120 หลา (หญิง) และระยะ 150 หลา (ชาย), ฐานที่ 3 ตีลูกดอว์ ระยะ 140 หลา (หญิง), ระยะ 170 หลา (ชาย), ฐานที่ 4 ตีลูกระยะ 150 หลา ด้วยเหล็ก 5, ฐานที่ 5 ตีระเบิดทรายจากระยะ 50-80 หลา และ ฐานที่ 6 พัตต์ระยะ 8 ฟุตให้ลงหลุม (ซัดเดนเดธ) โดยผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะอย่างสนุกสนาน และได้รับประสบการณ์กันไป