กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--ไออาร์ พลัส
ICHI จัดทัพเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพบุกตลาด ดันผลงานครึ่งปีหลังยังคงความร้อนแรง หลังส่งอิชิตัน น้ำด่าง 8.5 เปิดตัวเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กระแสตอบรับดีเกินคาด เตรียมส่งอีก 2 SKU ใหม่เอาใจสายเฮลตี้ ทั้ง อิชิตัน วิตามิน วอเตอร์ ซี พลัส อี เสริมภูมิต้านทาน ป้องกันไข้หวัด และและอิชิตัน วิตซีซี เครื่องดื่มวิตามินซีสูง ในช่วงปลายกันยายน – ต้นตุลาคมนี้ ดันกำลังการผลิตขึ้น ส่วนอิชิตัน อินโดนีเซีย คาดรับรู้ส่วนแบ่งกำไรต่อเนื่องทั้งปี หนุนผลงานปี 63 โดดเด่นตามเป้า
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยถึง แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลัง ตั้งเป้าหมายจะเติบโตทั้งในแง่ของยอดขายและกำไร จากแผนทำการตลาดเชิงรุกบุกตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ก่อนหน้านี้เปิดตัว อิชิตัน น้ำด่าง 8.5 (ICHITAN PH PLUS 8.5) ผสมวิตามิน B รวม ในช่วงปลายมิถุนายนที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับดีมาก และคาดจะเข้ามาสนับสนุนผลงานในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมด้วย การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงปลายเดือนกันยายน ถึงต้นตุลาคมนี้ ได้แก่ อิชิตัน วิตามิน วอเตอร์ ซี พลัส อี (ICHITAN Vitamin C Water (C200)) เสริมภูมิต้านทาน ป้องกันไข้หวัดวางจำหน่าย 2 ขนาด 550 ml ราคา 20 บาท และ 350 ml ราคา 10 บาท เจาะตลาดทั้ง Modern Trade และ Traditional Trade และอิชิตัน วิตซีซี (ICHITAN Vitt CC) เครื่องดื่มวิตามินซีสูง ขนาด 280 ml ราคา 15 บาท วางขายผ่าน Traditional Trade, MAKRO และ Mini Big C อีกทั้ง เปิดตัว เย็นเย็น X Dragonball Z และ เย็นเย็น Super Cooling จับตลาดผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม
รวมทั้ง การจัดแคมเปญกระตุ้นตลาดที่มีประสิทธิภาพกว่าเดิม พร้อมวางกลยุทธ์ร่วมกับพันธมิตร ได้แก่ TRUE IKEA และ Grab ผนึกกำลังเพื่อส่งเสริมการขาย สนับสนุนให้ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ที่เดิมเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจ ให้กลับมาคึกคักไม่แพ้ช่วงครึ่งปีแรก
“เนื่องจากปีนี้เรามี Category ใหม่มาเติมเต็มความสามารถในการผลิตให้ดีขึ้น และสนับสนุนให้กำไรครึ่งปีหลังดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ปีนี้จะเป็นปีที่อิชิตันไม่มี Low season เนื่องจากกระแสเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกำลังมาแรง แม้ตลาดยังเล็กแต่มีศักยภาพการเติบโตสูง เป็นโอกาสให้อิชิตันชิงความเป็นเจ้าตลาดได้ โดยวางเป้าสินค้าใหม่กลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในช่วงครึ่งปีหลังนี้ทำยอดขายได้ 400 ล้านบาท และด้วยจุดแข็งของโรงงานของอิชิตันมีกำลังการผลิตสูงสุด 1,500 ล้านขวด/ปี ทำให้เรามีเครื่องดื่มไซส์ 10 บาทที่จำหน่ายได้ดีมากในตลาด Traditional Trade ซึ่งไม่มีใครสามารถทำได้ เป็นอีกกลุ่มสินค้าที่เสริมกำไรปีนี้ให้แข็งแกร่ง และการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น” นายตัน กล่าว
ด้านตลาด OEM และการส่งออกได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่กลยุทธ์ในการรักษามาร์เก็ตแชร์ได้ในระดับที่ดี ทำให้ภาพรวมการส่งออกใน CLMV ยังประคองตัวได้ และเตรียมขยายตลาดไปยังประเทศฟิลิปปินส์ และมาเลเซียเพิ่มเติม หลังเห็นเทรนด์การเติบโตของอิชิตัน อินโดนีเซีย ที่คาดจะรักษาความสามารถในการทำกำไรต่อเนื่องในปีนี้ ชูผลิตภัณฑ์ Thai Milk Tea โดดเด่น และได้รับการตอบรับจากฐานลูกค้าเดิมที่เหนียวแน่น ทำให้ประเมินว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดปรับตัวดีขึ้น จะทำให้ภาพรวมกิจกรรมการตลาดและยอดขายคึกคักตามไปด้วย อีกทั้ง มีแผนออกรสชาติใหม่ บุกตลาดอินโดนีเซียต่อเนื่อง ได้แก่ Thai Coconut Water, ชาพร้อมดื่ม Teh Tawar และ อิชิตันน้ำด่าง 8.5 ผสมวิตามิน B รวม
อย่างไรก็ดี อิชิตันยังคงเน้นกลยุทธ์ 3N ประกอบด้วย New Product การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มชาพรีเมี่ยม “ชิซึโอกะ” ที่ประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่า กลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่อิชิตัน กำลังมุ่งไป จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค รวมทั้ง New Market การหาตลาดใหม่ในการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ และ New Business การมองหาธุรกิจใหม่เพื่อต่อยอดการเติบโต
โดยในปีนี้ ตั้งเป้าหมายรายได้จะเติบโตราว 5% จากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 5,300 ล้านบาท ขณะที่รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา อิชิตันมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 2,655 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 10.4% ขณะที่ กำไรสุทธิอยู่ที่ 308.5 ล้านบาท เติบโต 22.9% อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 20.6% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 11.6% โดยเป็นการเติบโตสวนทางภาพรวมตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศไทยที่ปรับลดลง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 มีมูลค่าตลาดชาพร้อมดื่ม 5,639 ล้านบาท ลดลง -12.71% ในเชิงมูลค่า และลดลง -13.02% ในเชิงปริมาณ แบ่งเป็นชาเขียวพรีเมี่ยมสัดส่วน 11.49% ของมูลค่าตลาดชาทั้งหมด โดยชาเขียวพร้อมดื่มชิซึโอกะ มีส่วนแบ่งการตลาดชาพรีเมี่ยมอยู่ที่ 28.09% ยังคงตอกย้ำเบอร์หนึ่งตลาดชาพรีเมี่ยมต่อเนื่อง