กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
วันนี้ อินเทล คอร์ปอเรชั่น ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติของเทคโนโลยี Intel? Active Management Technology (Intel? AMT) ในงาน อินเทล ดิเวลล็อปเปอร์ ฟอรัม เทคโนโลยีชนิดนี้ทำงานในระดับแพลตฟอร์มที่ประกอบไปด้วยโปรเซสเซอร์ ชิปเซ็ต และการ์ดเครือข่ายของอินเทล โดยจะช่วยให้ผู้จัดการแผนกไอทีสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในระบบเครือข่ายของตนเองได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยลดรายจ่ายค่าในการใช้บริการที่ปรึกษาด้านเทคนิค และตรวจสอบสินทรัพย์อีกด้วย
Intel AMT เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีชั้นยอดในกลุ่ม *T ของอินเทล ซึ่งจะช่วยให้ผู้จัดการแผนกไอทีค้นหาและแก้ไขปัญหาของคอมพิวเตอร์ได้ด้วยการทำงานแบบรีโมตโดยไม่ต้องอยู่ในสถานที่นั้นๆ ซึ่งผิดจากก่อนหน้านี้ที่การแก้ไขปัญหาจะทำได้ก็ต่อเมื่อเราต้องอยู่ในจุดที่เกิดปัญหาเท่านั้น ทำให้ผู้จัดการแผนกไอทีเพียงคนเดียวก็สามารถเซ็ตอัพคอมพิวเตอร์เครื่องได้ใหม่
ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์อัพเดต รวมทั้งค้นหาและแก้ไขปัญหาจำนวนมากได้ โดยผ่านการทำงานแบบรีโมตด้วยเทคโนโลยี Intel AMT แม้ว่าในขณะนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์จะยังไม่ได้เปิดใช้งาน ระบบปฏิบัติการไม่สามารถทำงานได้ หรือฮาร์ดดิสก์จะเสียอยู่ก็ตาม
เทคโนโลยีใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดเกี่ยวกับดิจิตอลออฟฟิศที่อินเทลริเริ่มขึ้นเพื่อพัฒนาคุณสมบัติและวิธีการใช้งานในรูปแบบใหม่ๆ สำหรับผู้ใช้ตามสำนักงาน โดยเริ่มตั้งแต่การคิดค้นและออกแบบซิลิคอนเพื่อให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจ จนถึงการผลิตในปริมาณมหาศาลเพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างเพียงพอ
อินเทลจะเริ่มเปิดตัวเทคโนโลยี Intel AMT ครั้งแรกของโลกในปี 2548 ในแพลตฟอร์ม
เดสก์ท้อปที่มีชื่อรหัสว่า “Lyndon” และในแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ที่มีชื่อรหัสว่า “Bensley” ในปี 2549
อาบิ ทาลวอลคาร์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มดิจิตอลเอ็นเตอร์ไพรซ์ ของอินเทล กล่าวว่า “เทคโนโลยี Intel AMT สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์ พร้อมทั้ง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน ค่าที่ปรึกษาด้านเทคนิค และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการทำงานผิดปกติของระบบ ซึ่งเทคโนโลยีนี้เป็นตัวอย่างของการที่อินเทลนำเอานวัตกรรมแพลตฟอร์มใส่ลงในซิลิคอนเพื่อช่วยให้การบริหารและระบบรักษาความปลอดภัยของระบบเครือข่ายในปัจจุบันทำงานได้ดีขึ้นนั่นเอง"
นักออกแบบที่มาร่วมงานไอดีเอฟต่างให้ความสนใจรายละเอียดจำเพาะของสถาปัตยกรรมที่
อินเทลนำมาเปิดเผยอย่างมาก เนื่องจากรายละเอียดดังกล่าวอธิบายถึงวิธีการนำเอา Intel AMT ไปใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ด้านการจัดการและการรักษาความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติด้านการตรวจสอบและควบคุมระบบที่อยู่ในแพลตฟอร์มของผู้ใช้งานอีกด้วย เทคโนโลยี Intel AMT จะทำงานในลักษณะของระบบย่อยโดยแยกการทำงานจากระบบปฏิบัติการของโฮสต์โดยเด็ดขาด การทำงานอย่างอิสระดังกล่าวทำให้ Intel AMT ทำงานต่อไปได้โดยไม่ถูกรบกวนจากสภาพแวดล้อม วิธีการนี้ช่วยแก้ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งในปัจจุบันให้แก่ผู้จัดการแผนกไอทีได้ นั่นก็คือ การปิดระบบรักษาความปลอดภัยและระบบการจัดการของพีซีทั้งโดยตั้งใจหรือโดยพลั้งเผลอของผู้ใช้
การทำงานได้อย่างเป็นอิสระจากระบบปฏิบัติการ ทำให้ Intel AMT มีความสามารถในการตรวจสอบและจัดการระบบเครื่องลูกข่ายของผู้ใช้ได้จากเครื่องของโฮสต์ แม้ว่าระบบปฏิบัติการของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นจะไม่ได้ทำงานอยู่ก็ตาม
คุณสมบัติจำเพาะของ Intel AMT มีระบบรักษาความปลอดภัยและการรักษาความลับของข้อมูลที่ตรงตามมาตรฐานอุตสาหกรรม ทั้งนี้เพื่อควบคุมการเข้าถึงข้อมูล และการเพิ่มคุณสมบัติด้านการจัดการแพลตฟอร์ม ตลอดจนการรักษาความลับและการตั้งค่าต่างๆ ของผู้ใช้เอาไว้ด้วย
ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นไป Intel AMT จะใช้ Web Services Management (WS-Management) ซึ่งเป็นเว็บเซอร์วิสชนิดหนึ่งที่ใช้แก้ปัญหาในด้านค่าใช้จ่ายและความซับซ้อนของการบริหารระบบไอที โดยการนำเสนอแนวทางพื้นฐานเพื่อช่วยให้ระบบเครือข่ายเรียกใช้และแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบริหารได้ดีขึ้น WS-Management จัดเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่มีความสำคัญสำหรับแอพพลิเคชั่นด้านการรุ่นต่อไป เพราะมีคุณสมบัติการทำงานในระดับสูงและมีความสามารถในการนำระบบรักษาความปลอดภัย เสถียรภาพ และการทำรายการข้อมูลที่มีอยู่ในโครงสร้างเว็บเซอร์วิส WS-* มาใช้ให้เป็นประโยชน์อีกด้วย
รายละเอียดของเทคโนโลยีที่นำมาเปิดเผยในครั้งนี้ ยังรวมถึงการทำงานของแอพพลิเคชั่นเสริมต่างๆ ของ Intel AMT และเทคโนโลยีแพลตฟอร์มอื่นๆ ของอินเทลด้วย อาทิ Intel? Virtualization Technology, LaGrande security technology และ Extensible Firmware Interface (EFI) เพื่อรองรับขั้นตอนการบู้ธเครื่องล่วงหน้าอีกด้วย Vanderpool ช่วยให้ผู้จัดการแผนกไอทีทำการแบ่งพาร์ทิชั่นองค์ประกอบส่วนหนึ่งในพีซี เพื่อรองรับงานดูแลระบบและการอัพเกรดซอฟต์แวร์ที่ผู้ใช้ไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยว ถ้าหากนำมาใช้ร่วมกับ Intel AMT แล้ว เราสามารถทำงานเหล่านี้ในพีซีที่ปิดอยู่หรือมีฮาร์ดดิสก์ที่เสียได้
เทคโนโลยี LaGrande และ Intel AMT ทำงานเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน เพื่อทำให้แพลตฟอร์มโดยรวมมีความปลอดภัยสูงสุด โดยเทคโนโลยี LaGrande จะเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม ในขณะที่เทคโนโลยี Intel AMT จะจัดเตรียมสภาพแวดล้อมการบริหารระบบที่ทำงานได้อย่างอิสระเพื่อความสามารถในการทำงานร่วมกับระบบเสริมอื่นๆ
การทำงานร่วมกันระหว่าง EFI และ Intel AMT จะทำให้สามารถบริหารระบบได้ก่อนบูตเครื่อง ระบบปฏิบัติการเพื่อรักษาความปลอดภัย และเข้าถึงข้อมูลอย่างเพียงพอในการจัดการระบบก่อนบูตเครื่อง
นอกจากนั้นอินเทลยังได้เปิดเผยอีกดว่า บริษัทต่างๆ ได้พัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อสนับสนุนการทำงานของ Intel AMT กันเพิ่มขึ้น บริษัทเหล่านี้ซึ่งพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบบริหารและระบบรักษาความปลอดภัยเป็นหลัก ได้แก่ Altiris Inc., BMC Software, Check Point Software Technologies, Computer Associates, LANDesk Software, Novell, Symantec, StarSoftComm และ Trend Micro เป็นต้น
ท่านสามารถค้นข้อมูลด้านเทคนิคและรายละเอียดอื่นๆ ของเทคโนโลยี Intel AMT ได้ที่ www.intel.com/technology/manage โดยรายละเอียดทั้งหมดอยู่ภายใต้เงื่อนไข NDA นักพัฒนาสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ของอินเทล หรือสำนักงานสาขาของอินเทล
รายละเอียดเกี่ยวกับงานไอดีเอฟ
อินเทล ดิเวลล็อปเปอร์ ฟอรัม (ไอดีเอฟ) เป็นงานแสดงด้านเทคโนโลยีประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งจัดขึ้นสำหรับนักพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์โดยเฉพาะ งานไอดีเอฟ เป็นเวทีที่บริษัทชั้นนำในวงการมารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับพีซี เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์ติดต่อสื่อสาร และอุปกรณ์พกพาต่างๆ ผู้สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานไอดีเอฟ และเทคโนโลยีต่างๆ ของอินเทลได้ที่ http://developer.intel.com
อินเทลเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้นำในการผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ระบบเครือข่าย และอุปกรณ์สื่อสาร ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทอินเทล ได้ที่เว็บไซต์ http://www.intel.com/pressroom
* Intel และ Pentium เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของอินเทล คอร์ปอเรชั่น หรือสำนักงานสาขาทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ขอสงวนสิทธิ์ ชื่อและยี่ห้ออื่นอาจถูกอ้างอิงถึงโดยถือเป็นทรัพย์สินของชื่อยี่ห้อนั้นๆ
ติดต่อ:
คุณเพชราภรณ์ เจริญนิพนธ์วานิช คุณกรรภิรมย์ อึ้งภากรณ์
บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
โทรศัพท์: (66 2) 654-0654 โทรศัพท์: (66 2) 627-3501
e-Mail: petch.charoennibhonvanich@intel.com e-Mail: kanpirom.ungpakorn@carlbyoir.com.hk--จบ--