TPIPP เตรียมพร้อมแผนรองรับธุรกิจโรงไฟฟ้า เร่งเครื่องประมูลโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะกว่า 75 MW ในปีนี้ ส่งซิกผลงาน Q3/63 ทำสถิติสูงสุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 10, 2020 12:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์’ หรือ TPIPP ผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้งรายใหญ่ของไทย ส่งซิกผลการดำเนินงานในปี 2563 เติบโต หลังติดตั้ง Boiler ครบ ผลักดัน Utilization Rate ให้เพิ่มเป็น 95-100% พร้อมเร่งเครื่องประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะกว่า 75 MW ในปีนี้ นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน TPIPP เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อม เพื่อรักษาฐานกำไรให้อยู่ระดับสูง โดยการเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะอย่างต่อเนื่อง หลังภาครัฐมีแผนเปิดประมูลโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะทั่วประเทศ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 400 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตติดตั้งต่ำกว่า 10 เมกะวัตต์ (VSPP) จำนวน 30 โครงการ และโรงไฟฟ้าของผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กที่มีกำลังการผลิตติดตั้ง 10-40 เมกะวัตต์ (SPP) จำนวน 5-10 โครงการ รวมทั้งสิ้นประมาณ 600 เมกะวัตต์ TPIPP ให้ความสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าในปีนี้ อย่างน้อย 3-4 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญาขายไฟฟ้าโครงการละ 8-10 MW ซึ่งได้รับค่ากำจัดขยะ 400-500 บาท/ตัน ปัจจุบันบางโครงการได้ประกาศ TOR แล้วและอยู่ระหว่างรอยื่นประมูลโครงการ และบางโครงการอยู่ระหว่างสรุปเงื่อนไขสุดท้ายของ TOR โดยคาดว่าทุกโครงการจะสามารถรู้ผลการประมูลภายในสิ้นปี 2563 นี้ ซึ่ง TPIPP มีความมั่นใจ เนื่องจากทางบริษัทมีความพร้อมทั้งด้าน เทคโนโลยี เงินทุน และประสบการณ์ ซึ่งแต่ละโครงการดังกล่าวจะสร้างผลตอบแทนประมาณ 300-400 ล้านบาท ต่อปี “นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงแปรรูปขยะ (RDF) ที่จังหวัดสระบุรี เพื่อรองรับความต้องการใช้ RDF ที่สูงขึ้น โดยบริษัทฯ ได้ยื่นขอขายไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะกำลังการผลิต 40 MW ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทย คาดว่าจะรู้ผลในต้นปีหน้า โครงการที่กล่าวมาข้างต้น คาดว่าจะมีผลตอบแทนการลงทุนของโครงการ (IRR) ประมาณ 15-20% โดยปัจจุบัน TPIPP มีความพร้อมเรื่องฐานะการเงินที่มั่นคง ด้วยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำเพียง 0.42 เท่า โดยมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและกระแสเงินสดในมือสูง ส่งผลให้ TPIPP มีศักยภาพในการลงทุนเพิ่มเติมโดยสามารถใช้ Leverage เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้น มีความได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรม และมีโอกาสสร้างการเติบโตจากการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมได้อีกหลายโครงการ”.นายภัคพล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ